สิงคโปร์ตรวจคัดกรองไวรัสได้มาตรฐานสุด
สิงคโปร์ – จากผลการศึกษาล่าสุดของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในสหรัฐฯ พบว่าวิธีการในการรับมือการระบาดของไวรัส COVID-19 ของสิงคโปร์ถือว่ามีมาตรฐานในระดับที่ดี โดยผู้วิจัยยกให้สิงคโปร์เป็นต้นแบบสำหรับประเทศอื่นๆ
ผลการศึกษาสรุปว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลก จะเพิ่มขึ้น 2.8 เท่าจากปัจจุบัน หากประเทศอื่นๆมีศักยภาพในการตรวจคัดกรองเหมือนสิงคโปร์
“ เราพิจารณาพบว่าการตรวจพบผู้ติดเชื้อ 18 รายในวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมาในสิงคโปร์เป็นมาตรฐานอ้างอิงของการตรวจคัดกรองที่เกือบสมบูรณ์แบบ” T.H.Chan นักระบาดวิทยาที่คณะสาธารณสุขของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดกล่าว
โดยบรรดานักวิจัยกลุ่มที่ทำการศึกษานี้คือ Marc Lipsitch ศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยา Aimee Taylor และ Pablo Martinez นักวิจัยระดับปริญญาเอกและ Rene Niehus ผู้ช่วยวิจัย
กลุ่มนักวิจัยตรวจสอบข้อมูลที่สรุปรวมจากรายงานขององค์การอนามัยโลกเมื่อวันที่ 4 ก.พ.เกี่ยวกับจำนวนนักเดินทางที่มีประวัติการเดินทางไปจีนออกไปยัง 191 ประเทศและอาณาเขต โดยผลการศึกษาไม่ได้รวมถึงฮ่องกง มาเก๊าและไต้หวัน
นักวิจัยใช้ข้อมูลทางประวัติศาสตร์จากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ และแหล่งข้อมูลอื่นในการประเมินจำนวนผู้โดยสารจากเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาด ออกไปยังประเทศอื่นๆนอกจีน
“ในบรรดาประเทศที่มีปริมาณการเดินทางมาก สิงคโปร์แสดงให้เห็นถึงสัดส่วนการตรวจคัดกรองนักเดินทางขาเข้ามาได้สูงสุดต่อปริมาณการเดินทางในแต่ละวัน โดยมีอัตราส่วน 1 ใน 5 ของนักเดินทางต่อวัน”
“ สิงคโปร์มีประวัติการตรวจคัดกรองที่ดีมาตั้งแต่การระบาดของโรค Sars แล้ว และมีการรายงานการระบาดของโควิด-19 อย่างละเอียด”
จากผลการศึกษาล่าสุด สัญญาณที่เห็นชัดคือ ไม่สามารถตรวจคัดกรองไวรัสได้ หลังจากประชาชนมีการเดินทางออกจากอู่ฮั่นไปทั่วโลกก่อนเมืองถูกปิดเมื่อวันที่ 23 ม.ค.
มีการอัพโหลดผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดออนไลน์บนเว็บวิทยาศาสร์สุขภาพ medRxiv เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ในฐานะต้นฉบับที่ยังไม่มีการตีพิมพ์
อย่างไรก็ตาม แม้รายงานมีความสมบูรณ์แต่เว็บไซต์ชี้ว่าต้นฉบับนี้ “เป็นรายงานเบื้องต้นของการทำงาน” ที่ไม่ควรยึดถือในการปฏิบัติทางคลินิก