แจ็ค หม่าเตือนเทคโนโลยีในอนาคต
แจ็ค หม่า ประธานบริษัทอาลีบาบาออกโรงเตือนเมื่อวันที่ 24 เม.ย. ว่า สังคมจะต้องพบกับความเจ็บปวดจากการแบ่งแยกของอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีใหม่ที่จะสร้างความแตกต่างให้กับเศรษฐกิจ
ในการกล่าวสุนทรพจน์ที่การประชุมของสโมสรผู้ประกอบการจีน มหาเศรษฐีชื่อดังหนุนให้รัฐบาลปฏิรูปการศึกษาและกำหนดกรอบในการทำงานของมนุษย์กับเครื่องจักร
“ ในอีก 30 ปีข้างหน้า ความเจ็บปวดจะมีมากกว่าความสุขในโลกนี้ เพราะว่าจะมีปัญหามากมายมหาศาลที่เราต้องพบเจอ” แจ็ค หม่ากล่าวเป็นภาษาจีนกลาง โดยพูดถึงการเข้ามาแทนที่ศักยภาพของมนุษย์ด้วยเทคโนโลยี
ผู้ก่อตั้งยักษ์ใหญ่อี-คอมเมิร์ซอย่างอาลีบาบาเตือนว่า ความขัดแย้งทางสังคมจะมีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงในการดำเนินขีวิต โดยบริษัทของเขาได้ลงทุนเพิ่มขึ้นในหลายแขนง เช่น ระบบจัดเก็บข้อมูลคลาวด์ และปัญญาประดิษฐ์ ( AI ) เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่แผ่ขยายไปสู่ภาคส่วนใหม่ที่ล้ำลึกกว้างไกลเกินกว่าธุรกิจอี – คอมเมิร์ซ
โดยเขากล่าวว่า ประมาณ 15 ปีที่แล้ว เขาได้กล่าวสุนทรพจน์ประมาณ 200 – 300 ครั้งเพื่อเตือนเกี่ยวกับผลกระทบของอี-คอมเมิร์ซและอินเทอร์เน็ตกับธุรกิจแบบดั้งเดิม แต่ไม่ค่อยมีใครสนใจจะฟัง เพราะเขายังไม่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกว้างขวางเหมือนในปัจจุบัน
ทั้งนี้ มหาเศรษฐีระดับโลกคนนี้เตือนว่า ธุรกิจใดก็ตามที่ไม่มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ตจะต้องทุกข์ทรมานในอนาคต
เขายังได้พูดเกี่ยวกับ การเพิ่มจำนวนขึ้นของหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ และกล่าวว่าเทคโนโลยีนี้จะเป็นสิ่งจำเป็นในกระบวนการรวบรวมข้อมูลจำนวนมากที่เราสร้างขึ้นในวันนี้ บางอย่างที่สมองของมนุษย์ทำไม่ได้ แต่เครื่องจักรจะไม่สามารถเข้ามาแทนที่สิ่งที่มนุษย์ทำได้ แต่ประชาคมเทคโนโลยีจะทำให้เกิดการประดิษฐ์หุ่นยนต์ที่สามารถทำในสิ่งที่มนุษย์ทำไม่ได้ ซึ่งจะทำให้เครื่องจักรเป็นหุ้นส่วนกับมนุษย์มากกว่าที่จะเป็นฝ่ายตรงข้ามกัน
แต่เขายอมรับว่า ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มีแนวโน้มที่จะทำให้มนุษย์มีอายุยืนยาวขึ้นและมีงานให้ทำน้อยลง และหุ่นยนต์อาจกลายเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของหลายบริษัท
“ 30 ปีต่อจากนี้ คนที่มีแนวโน้มจะขึ้นปกนิตยสารไทม์ว่าเป็นซีอีโอที่เก่งที่สุดจะเป็นหุ่นยนต์ เนื่องจากหุ่นยนต์จดจำหลายสิ่งหลายอย่างได้ดีกว่าคุณ นับเลขได้เร็วกว่าคุณ และจะไม่แสดงอาการโกรธเคืองคู่แข่ง” แจ็ค หม่ากล่าว.