สรุปข่าว 12-9-63
หุ้นใหญ่แกว่ง : ตลาดหุ้นสำคัญของโลก ปิดตลาดเมื่อ 11 ก.ย.63 (ตรงกับเช้า 12 ก.ย.ในไทย) ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 131.06 จุด (0.48%) ปิดที่ 27,665.64 จุด, เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 1.78 จุด (0.053%) ปิดที่ 3,340.97 จุด ขณะที่ แนสแดค ลดลง 66.05 จุด (-0.60%) ปิดที่ 10,853.54จุด ส่วนนิเคอิ เพิ่มขึ้น 171.02 จุด (-0.74%) ปิดที่ 23,2406.49 จุด ขณะที่ ดัชนีตลาดหุ้นไทย วานนี้ (11 ก.ย.) ปิดตลาดที่ 1,279.96 ลดลง 10.93 จุด (-0.85%) มูลค่าการซื้อขาย 44,155.40 ล้านบาท.
น้ำมันโลกหัวตัว : ราคาน้ำมันโลก ปิดตลาดเมื่อเวลา 03.59 น.ของวันที่ 12 ก.ย. ตามเวลาประเทศไทย โดยเฉพาะ สัญญาซื้อข่ายล่วงหน้า น้ำมันดิบเวสต์เทกซัส เดือน ต.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากวันก่อนมาอยู่ที่ 37.38ดอลลาร์ต่อบาร์เรล บวก 0.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 0.21%) ขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ เดือน พ.ย. ปรับลดลง โดยราคาปิดอยู่ที่ 39.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 0.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (-0.65%).
ทองโลกลด : ราคาทองคำ Spot ดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 5.82 ดอลลาร์ (-0.30%) ปิดที่ 1,940.36ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำในไทย วานนี้ (11 ก.ย.) สมาคมค้าทองคำ ประกาศเปลี่ยนแปลงราคาทองคำตลอดวัน 5 ครั้ง โดยมีราคาเปิดเดียวกับราคาปิดวันก่อน จากนั้น ราคาก็ปรับขึ้นลง จนที่สุดปิดตลาดในราคาเดียวกับเมื่อวันที่ 10 ก.ย. แต่สูงขึ้น 50 บาท เมื่อเทียบราคาครั้งที่ 4 โดยราคาขายทองคำแท่งบาทละ 28,850 บาท ซื้อ28,750 บาท ขณะที่ ราคาขายทองคำรูปพรรณ 29,350 บาท รับซื้อ 28,227.92 บาท.
บาทอ่อนอีก : ค่าเงินบาทวานนี้ (11 ก.ย.) ธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดไว้ที่ 31.305บาท บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าเล็กน้อย เมื่อเทียบกับวันก่อนที่ 31.295 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่แบงก์พาณิชย์ กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถั่วเฉลี่ยที่ใช้ซื้อขายกับลูกค้า โดยกำหนดค่าเงินบาทไว้ที่ 31.1416 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ, 39.6884 บาทต่อ 1 ปอนด์สเตอริง, 36.6710 บาทต่อ 1 ยูโรดอลลาร์, 29.1323 บาท ต่อ 100 เยน, 3.9989 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ฮ่องกง, 22.6088 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ และ 7.4238 บาทต่อ 1 ริงกิตมาเลเซีย.
อย่าสร้างภาระ :
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ย้ำ รัฐบาลพยายามทำให้ทุกคนมีความสุข โดยให้ความช่วยเหลืออย่างเท่าเทียม เพราะตราบใดถ้าเราอยู่แบบเดิมๆ ทุกคนก็ไม่มีความสุข ดังนั้น ทุกคนจะต้องไม่สร้างภาระซึ่งกันและกัน และว่า ขอให้ทุกคนมีความรักความสามัคคี ถ้ามัวแต่ขัดแย้งก็จะทำให้บ้านเมืองมีปัญหาโควิด-19 แรงพออยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นทุกอย่างจะหยุดหมด เดินหน้าต่อไม่ได้.
นักรบไซเบอร์”:
พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ระบุถึงการแข่งขันทักษะการปฏิบัติด้านไซเบอร์ภายในกองทัพบก โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมการแข่งขัน Thailand Smart Soldier Strong Man Challenge ครั้งที่ 2 จะเป็นส่วนสำคัญสร้างกำลังพลที่มีความสามารถด้านไซเบอร์ และหากเยาวชนที่เก่งด้านนี้อยากรับราชการทหาร จะต้องบรรจุให้เข้ามาเป็นนักรบไซเบอร์ของกองทัพบก เพราะการรบในปัจจุบันไม่ได้มีแต่การรบในสนามเท่านั้น แต่ยังมีสงครามไซเบอร์เกิดขึ้น.
ของบฯด่วน:
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายฯและรมว.สาธารณสุข ระบุ ได้หารือกับ นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข เพื่อเสนอของบฯเงินกู้ 1,900 ล้านบาท มาวางระบบคอมพิวเตอร์ให้ทุกโรงพยาบาล เพื่อสำรองข้อมูลของคนไข้ในแต่ละโรงพยาบาล ส่วนเรื่องการป้องกันการถูกแฮกในอนาคต ต้องมีการหารือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม.
กำไลขังนักโทษ:
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เปิดศูนย์ควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (EMCC)” ภายใต้แนวคิด “ให้โอกาส คืนอิสรภาพ เพิ่มความมั่นใจ สู่สังคมปลอดภัย” ทั้งนี้ การนำกำไล EM มาใช้กับนักโทษที่มีโทษไม่ร้ายแรง เพื่อลดแออัดในเรือนจำ ขณะที่นักโทษคดีร้ายแรง ยังจำเป็นจะต้องกำให้ต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยให้กับสังคม.
เลิกใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ:
นายไพศาล พืชมงคล อดีตปรึกษารองนายกฯ โพสต์เฟซบุ๊กเตือนรัฐบาลให้เร่งยกเลิกการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แนะแค่ใช้กฎหมายธรรมดาก็รับมือปัญหาโควิด-19 ได้แล้ว พร้อมให้เร่งคืนอำนาจให้รัฐมนตรีทุกคนไปบริหารราชการทุกกระทรวงให้เป็นไปตามปกติ เพราะไปยึดอำนาจรัฐมนตรีมานานแล้ว ขณะเดียวกันอย่าหลงเชื่อเรื่องการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
นักบอลติดโควิดฯ:
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค แจงพบนักฟุตบอลไทยลีก ชาวอุซเบกิสถาน อายุ 29 ปี ติดเชื้อโควิด-19 จากการตรวจผ่านระบบคัดกรองเชิงรุก ร่วมกับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ทั้งนี้ ทีมสอบสวนและควบคุมโรค ได้เก็บตัวอย่างนักฟุตบอลที่ใกล้ชิดจำนวน 22 ราย ทีมงาน 21 ราย รวม 43 ราย จากนั้นจะค้นหาผู้สัมผัสเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น ผู้สัมผัสบนเครื่องบิน แคมป์เก็บตัว ทีมฟุตบอลราชบุรีและขอนแก่น ผู้ใช้บริการสนามบินในเวลาเดียวกัน.
ท่องเที่ยวปี 64 ดีขึ้น :
ศูนย์วิจัยแบงก์กรุงไทย คาดรายได้ท่องเที่ยวของไทยปี 63 จะหดตัวถึง 70% เหลือเพียง 9.1 แสนล้านบาท จาก 3.02 ล้านล้านบาท ในช่วงก่อนโควิด-19 ส่วนปี 64 เชื่อรายได้ท่องเที่ยวจะฟื้นตัวเล็กน้อย ขยับมาอยู่ที่ 1.24 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ โลกจะผลิตวัคซีนได้ในช่วงปลายปี ซึ่งอาจทำให้สามาถรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบจำกัดคนและเฉพาะกลุ่มได้บ้าง.