ยูเอ็นคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือรอบใหม่ โดยมุ่งเป้าไปที่การส่งออกถ่านหินไปที่จีน
โดยยอดส่งออกถ่านหินของเกาหลีเหนือจะได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรครั้งนี้ประมาณ 60%
ทั้งนี้ จีนเห็นด้วยกับการคว่ำบาตรหลังจากมีการเจรจานานหลายเดือนกับสหรัฐอเมริกา เนื่องจากเกาหลีเหนือทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 5 ซึ่งเป็นครั้งใหญ่ที่สุดในเดือน ก.ย.
การส่งออกทองแดง นิกเกิล เงิน สังกะสี และการขายในรูปแบบรูปปั้นจะถูกรวมอยูในมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมด
โดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีมติอย่างเป็นเอกฉันท์ในการอนุมัติมาตรการคว่ำบาตรครั้งนี้
เนื่องจากเป็นพันธมิตรที่แนบแน่นของเกาหลีเหนือที่ถูกโดดเดี่ยวมานาน จีนจึงมีท่าทีปกป้องเกาหลีเหนือตามธรรมเนียมทางการทูต ด้วยความกลัวผลที่จะตามมาหากเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือทรุดตัว เกาหลีเหนือถูกคว่ำบาตรจากสหประชาชาติมาตั้งแต่ปี 2549 จากโครงการสะสมอาวุธนิวเคลียร์
ถ่านหินเป็นสินค้าส่งออกที่ทำรายได้สูงสุดให้เกาหลีเหนือ ผู้แทนทูตในสหประชาชาติประเมินว่า เกาหลีเหนือจะสูญเสียรายได้ ถึง 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อยอดส่งออกถ่านหิน 7.5 ล้านเมตริกตันเมื่อเปรียบเทียบกับยอดขายปี 2558 เชื่อกันว่า จีนจะเป็นประเทศเดียวที่ซื้อถ่านหินจากเกาหลีเหนือ
โดยนายบัน คีมุน เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวว่า การคว่ำบาตรเป็นการส่งข้อความที่ชัดเจนว่าเกาหลีเหนือต้องหยุดการกระทำที่ก้าวร้าวยั่วยุทันทีและปฏิบัติตามกฎข้อบังคับจากนานาชาติ
เขากล่าวว่า “ การคว่ำบาตรเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดที่จะแก้ปัญหานี้ ”
นางสาวซาแมนธา พาวเวอร์ ทูตสหรัฐฯประจำสหประชาชาติยอมรับว่า “ ไม่มีวิธีแก้ปัญหาอื่นจากสหรัฐฯ ที่จะโน้มน้าวให้เกาหลีเหนือหยุดโครงการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ได้ ”
เธอกล่าวว่า เกาหลีเหนือจะต้องประสบกับความสูญเสียที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนหากยังท้าทายอำนาจจากประชาคมนานาชาติ
ทั้งนี้ มาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่นี้จะส่งผลให้มีการขึ้นบัญชีดำเพิ่มอีก 11 คนและ 10 หน่วยงานที่มีความเกี่ยวข้องกับโครงการจรวดขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ โดยจะมีการห้ามเดินทางและอายัดทรัพย์สิน.
หมายเหตุ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ = 35.85 บาท / 1 ธ.ค. 2559