นิสสันกำไรดิ่ง
บริษัทนิสสัน มอเตอร์ในญี่ปุ่นรายงานเมื่อวันที่ 7 พ.ย.ว่า ผลกำไรลดลง 15% ในไตรมาสเดือนก.ค.- ก.ย. โดยยอดขายที่แข็งแกร่งในอเมริกาเหนือและจีนลดดิ่งลงเนื่องจากดีมานด์ที่ซบเซาในญี่ปุ่นและค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น
โดยผลกำไรในไตรมาสสุดท้ายของบริษัทนิสสัน ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองโยโกฮามา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงโตเกียวมีมูลค่า 146,000 ล้านเยน ลดลงจาก 173,000 ล้านเยนในปี 2558
ทั้งนี้ ยอดขายประจำไตรมาสล่าสุดของนิสสันลดลง 12% มาอยู่ที่ 2.67 ล้านล้านเยนในเดือนเม.ย. – ก.ย. นิสสันขายรถยนต์ได้ทั้งหมด 2.6 ล้านคันทั่วโลก โดยนิสสันเป็นพันธมิตรของ Renault SA of France และนายคาร์ลอส กอสน์ซีอีโอก็รั้งตำแหน่งประธานบริหารสูงสุดทั้งสองบริษัท
นิสสันซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ซับคอมแพคท์รุ่นมาร์ช รุ่นอินฟินิตี้ซึ่งเป็นรถระดับหรูหราและรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นลีฟ ยังคงคาดการณ์ผลกำไรของปีงบประมาณนี้ถึงเดือนมี.ค.ปี 2561 โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 525,000 ล้านเยน โดยบริษัทคาดการณ์ว่าจะขายรถยนต์ได้ 5.6 ล้านคันในปีงบประมาณนี้ เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2558
ทั้งนี้ เงินเยนที่แข็งค่าขึ้นบั่นทอนรายได้จากต่างประเทศของบริษัทผู้ส่งออกญี่ปุ่นเช่น นิสสัน เมื่อใช้อัตราค่าเงินเยนเป็นหลัก แต่ทางนิสสันก็เน้นว่า บริษัทยังคงมีการขยายตัว
“ ถึงแม้นิสสันจะต้องประสบกับความผันผวนของตลาดและมีแรงต้านในค่าเงิน เรายังคงคาดการณ์ถึงรายได้ที่แข็งแกร่งของบริษัทอย่างต่อเนื่อง ” นายกอสน์กล่าว
นิสสันเพิ่งกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทคู่แข่งที่ประสบปัญหาอื้อฉาวไปทั้วโลกคือบริษัทมิตซูบิชิมอเตอร์ หลังจากบริษัทยอมรับว่าโกงตัวเลขประหยัดน้ำมันในรถยนต์ขนาดเล็ก
ก่อนหน้านี้ มิตซูบิชิเคยมีกรณีอื้อฉาว แต่มีระบบการปกปิดข้อบกพร่องของรถยนต์ที่ผลิตของบริษัทและเมื่อมีการเปิดเผยในช่วงต้นทศวรรษปี 2000 ก็ยังคงมีการผลิตอย่างต่อเนื่องมานานนับทศวรรษ
ทั้งนี้ นายกอสน์ ซึ่งเป็นซีอีโอกล่าวว่า เขาได้คว้าโอกาสครั้งสำคัญในการเข้ามาถือหุ้นบริษัทมิตซูบิชิที่กำลังเผชิยกับวิกฤติครั้งรุนแรงที่สุดหลังจากเปิดเผยรายละเอียดในข่าวอื้อฉาวนี้ โดยนิสสันคิดว่าผู้ผลิตยิ่งมีขนาดใหญ่กว่าย่อมได้เปรียบมากกว่าในอุตสาหกรรมยานยนต์นี้ และนิสสันหวังว่าจะนำพาให้มิตซูบิชิมีความแข็งแกร่ง และยิ่งใหญ่ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้.