ชวน “คนไทย-เศรษฐี” ใช้จ่ายเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ
ชวนคนไทยและเศรษฐีใหญ่ ร่วมอัดฉีดเงิน 1.2 แสนล้านบาทต่อปี ใช้จ่ายในประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจสู้พิษโควิดฯ ด้าน “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” ทุ่ม 120 ล้านบาท “นำร่อง” ซื้อสินค้ากองทุนหมู่บ้านทั้งปี จนกว่าชาวบ้านจะซื้อขายกันเองได้ ย้ำ! ขณะที่ “รักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ” แนะสมาชิกองทุนฯ เร่งปรับปรุงสินค้าตอบโจทย์ผู้ซื้อ หวังเห็น “1,000 ประสิทธิ์” เกิดขึ้นในสังคมไทย
โครงการคืนคุณแผ่นดิน ภายใต้การนำของ นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ปธ.โครงการฯ ประกาศซื้อสินค้าจากกองทุนหมู่บ้าน ในความดูแลของ สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง (สทบ.) ยุคของนายรักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ ผอ.สทบ. นำร่องซื้อสินค้าเดือนละ 10 ล้านบาท ตลอดเวลา 1 ปี รวม 120 ล้านบาท และจะซื้อต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าสมาชิกกองทุนฯและชาวบ้านจะซื้อขายสินค้ากันเองจนอยู่ตัว
นายประสิทธิ์ ระบุว่า โครงการคืนคุณแผ่นดินมีแนวคิดช่วยเหลือชาวบ้าน โดยเฉพาะสมาชิกกองทุนหมู่บ้านจากที่มีมากกว่า 79,000 กองทุนทั่วประเทศ ด้วยการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ ควบคู่กับเพิ่มช่องทางการตลาด ผ่านระบบออนไลน์และออฟไลน์ ทั้งนี้ เพื่อต่อยอดสร้างความเข้มแข็งยั่งยืนให้กับระบบเศรษฐกิจฐานราก พร้อมกับสร้างความมั่นคงให้กับสมาชิกกองทุนหมู่บ้านในระยะยาว ผ่านแนวคิด “เสริมการขาย ขยายยอดซื้อ” นำสู่การเพิ่มคุณภาพชีวิต ยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น
“การที่โครงการคืนคุณแผ่นดินประกาศนำร่องซื้อสินค้ากองทุนหมู่บ้านเดือนละ 10 ล้านบาท หรือปีละ 120 ล้านบาท ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจที่มี เฉพาะแค่เงินออมในประเทศที่มีรวมกันมากกว่า 3 ล้านล้านบาทนั้น หากมีการใช้จ่ายเพียงแค่ 0.5% ก็จะส่งผลบวกอย่างมากต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศแล้ว ส่วนตัวอยากเห็นคนไทย โดยเฉพาะเศรษฐกิจตระกูลใหญ่ๆ ช่วยกันซื้อสินของชาวบ้าน และของกองทุนหมู่บ้าน เพราะแค่ช่วยกันอุดหนุนสินค้าของกองทุนหมู่บ้านๆ ละ 1-2 ล้านบาทต่อปี จะมีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเฉลี่ยมากถึง 1.2 แสนล้านต่อปีแล้ว” นายประสิทธิ์ ย้ำและว่า
ในช่วงที่โลกและประเทศไทยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จนไม่สามารถพึ่งพาเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ทั้งเรื่องการส่งออกและการท่องเที่ยวได้แล้ว หากคนไทย โดยเฉพาะคนมีเงิน ในตระกูลเศรษฐกิจและมหาเศรษฐี ที่มีเงินออมเป็นจำนวนมาก แต่กลับไม่ยอมจับจ่ายใช้สอยเงิน ก็คงไม่มีผลอะไรกระทบเชิงบวกต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ และรัฐบาลเองก็ไม่สามารถจัดเก็บรายได้จากภาษีทุกประเภท เพื่อนำมาจัดทำงบประมาณรายจ่ายแผ่นดิน และนำมาจ่ายเป็นเงินเดือนให้กับข้าราชการได้
สำหรับการจัดซื้อสินค้ากองทุนหมู่บ้านครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการซื้อสินค้าทั่วประเทศ และเปิดช่องทางการขายสินค้าของประชาชนไปสู่มือของลูกค้าโดยตรง ซึ่ง โครงการคืนคุณแผ่นดิน จะนำสินค้าบางส่วน ไปจำหน่ายต่อในราคาเหมาะสม ผ่านช่องแอปพลิเคชั่นออนไลน์ ชื่อ M Help Me ที่สามารถสร้างช่องทางชำระเงิน การประกันสินค้า รวมถึงหาลูกค้าในช่องทางใหม่ๆ ที่จะสร้างประโยชน์อย่างมากต่อประชาชนและสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้า
ด้าน นายรักษ์พงษ์ ย้ำว่า โชคดีที่กองทุนหมู่บ้านได้รับความช่วยเหลือในการสั่งซื้อสินค้าจากโครงการคืนคุณแผ่นดิน ส่วนตัวคิดว่า หากมีคนอย่างนายประสิทธิ์ถึง 1,000 คน เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ทั้งต่อสมาชิกกองทุนหมู่บ้านที่มีมากกว่า 12.9 ครัวเรือน หรือราว 40 ล้านคน และเป็นประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจไทย ทั้งนี้ อยากให้ผู้บริหารและสมาชิกกองทุนหมู่บ้านทั่วประเทศ สอบทานความต้องการของผู้ซื้อ โดยเฉพาะ โครงการคืนคุณแผ่นดิน ว่า ต้องการสินค้าประเภทไหน? มีมาตรฐานคุณภาพอย่างไร? เพื่อตอบโจทย์ความต้องการเหล่านั้น จนสามารถผลิตและขายสินค้าได้อย่างต่อเนื่อง
“ความร่วมมือระหว่าง 2 หน่วยงานในครั้งนี้ ไม่เพียงช่วยเพิ่มรายได้และสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองทั่วประเทศ แต่ยังมีช่วยพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของประเทศอีกด้วย” นายรักษ์พงษ์ ระบุ
อนึ่ง ผู้สนใจผลิตภัณฑ์จากกองทุนหมู่บ้าน และผู้ที่มีความต้องการขายผลิตภัณฑ์ของตัวเองและของชุมชน สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น M Help Me.