เอ็กโก ล้มแผนประมูล มาบตาพุด เฟส 3
เอ็กโก กรุ๊ป แจงสาเหตุ ไม่ร่วมประมูลโครงการพัฒนาท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3 พุ่งเป้าลงทุน 2 โรงไฟฟ้าต่างประเทศ มูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท และเตรียมร่วมทุนธุรกิจก๊าซธรรมชาติ เพื่อประมูลจัดหาก๊าซธรรมชาติให้กับ กฟผ.
นายจักษ์กริช พิบูลย์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด(มหาชน)หรือ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผย ว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาลงทุน 2 โรงไฟฟ้าในต่างประเทศ มูลค่าเงินลงทุน 1.5 หมื่นล้านบาท โดยจะซื้อกิจการในโรงไฟฟ้าที่ดำเนินการผลิตแล้ว 1 โครงการ และอีก 1 โครงการเป็นการลงทุนในโรงไฟฟ้าใหม่ คาดว่าจะมีความชัดเจนในปีนี้
นอกจากนี้ ในไตรมาส1ปีนี้ บริษัทยังเตรียมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG)กับบริษัท เอสเค อีแอนด์เอส จำกัด ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อดำเนินธุรกิจ LNG ร่วมกันในภูมิภาคนี้ และ รอประมูลจัดหา LNG ให้กับกฟผ.จำนวนว 5 ล้านตันในอนาคต
ด้านนายกัมปนาท บำรุงกิจ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานกลยุทธ์และบริหารสินทรัพย์ เอ็กโก กรุ๊ป กล่าวว่า บริษัทมุ่งเน้นสร้างกำไรในระยะยาว 4-5 ปี คาดจะมีอัตราเติบโตของกำไรเฉลี่ยปีละ 5-6% จากโรงไฟฟ้าที่จะดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD)
ส่วนโครงการพัฒนาท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3 ที่บริษัทเข้าซื้อเอกสารแต่ไม่ได้ยื่นข้อเสนอ เนื่องจาก บริษัทได้พิจารณาแล้ว เห็นว่ามีความเสี่ยงหลายประการ จึงไม่เหมาะสมจะเข้าไปลงทุน อาทิ กรอบการลงทุน ระยะเวลา และ ไม่คุ้มการลงทุน เป็นต้น
ปัจจุบัน เอ็กโก กรุ๊ป มีโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว จำนวน 27 แห่ง กำลังการผลิต 5,154 เมกะวัตต์ ใน 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ มีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 3 โครงการ กำลังการผลิต 544 เมกะวัตต์ ได้แก่ โรงไฟฟ้า “ไซยะบุรี” 160 เมกะวัตต์ ใน สปป.ลาว โรงไฟฟ้า “ซานบัวนาเวนทูรา” 223 เมกะวัตต์ ในฟิลิปปินส์ จะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ ปี 62 และโรงไฟฟ้า “น้ำเทิน 1” 161 เมกะวัตต์ ใน สปป.ลาว เดินเครื่องเชิงพาณิชย์ ในปี 65 โดยจะมีกำลังการผลิตรวม 5,698 เมกะวัตต์ ในปี 65.