โสมขาวคาดโสมแดงคุยสหรัฐฯปีหน้า
เกาหลีใต้คาดการณ์เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ว่า เกาหลีเหนือจะหาช่องทางเปิดการเจรจากับสหรัฐฯ ในปีหน้า ซึ่งถือเป็นแนวโน้มในด้านดีของปี 2561 ถึงแม้เกาหลีใต้จะจัดตั้งกองกำลังทหารเพื่อเตรียมพร้อมเผชิญหน้ากับภัยจากอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือก็ตาม
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้เริ่มมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ที่เข้มงวดขึ้นกับเกาหลีเหนือเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.เพื่อเป็นการโต้ตอบการยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่เกาหลีเหนือประณามว่า เป็นการปิดล้อมเศรษฐกิจและเป็นการทำสงคราม
“ เกาหลีเหนือจะเจรจากับสหรัฐฯ ขณะที่ยังคงพยายามที่จะเป็นประเทศที่มีการสะสมอาวุธนิวเคลียร์อยู่ต่อไป ” กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ระบุในรายงาน โดยไม่ได้ให้เหตุผลที่สนับสนุนการสรุปความเห็นนี้
กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ระบุว่า จะสั่งการให้ 4 หน่วยปฏิบัติการภายใต้นโยบายใหม่ในการจับตามองเกาหลีเหนืออย่างเป็นทางการ โดยตั้งเป้าเพื่อระงับยับยั้งและรับมือกับภัยอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือ
ในแถลงการณ์ที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวทางการ KCNA เกาหลีเหนือระบุว่า สหรัฐฯ หวาดกลัวอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือและยิ่งคลุ้มคลั่งมากขึ้นเห็นได้จากมาตรการคว่ำบาตรและการกดดันประเทศของเราอย่างรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ทั้งนี้ จีน (ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญหนึ่งเดียวของเกาหลีเหนือ) และรัสเซียต่างสนับสนุนมติคว่ำบาตรล่าสุดของสหประชาชาติ ซึ่งจะจำกัดการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและน้ำมันดิบของเกาหลีเหนือ และรายได้จากแรงงานที่ไปทำงานต่างประเทศ ขณะที่เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา โฆษกหญิงกระทรวงต่างประเทศของจีนเรียกร้องให้ทุกประเทศคลายความตึงเครียดลง
เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. ทางการจีนได้เผยแพร่ข้อมูลศุลกากรที่ชี้ว่า จีนไม่ได้ส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันไปเกาหลีเหนือในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่ดูจะมากกว่ามติคว่ำบาตรของยูเอ็นด้วยซ้ำ
โดยจีน ซึ่งเป็นแหล่งเชื้อเพลิงสำคัญของเกาหลีเหนือ ไม่ได้ส่งออกน้ำมัน เชื้อเพลิงเครื่องบิน น้ำมันดีเซล หรือน้ำมันเชื้อเพลิงให้เกาหลีเหนือในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา อ้างอิงจากข้อมูลของกรมศุลกากร
นอกจากนี้ จีนยังไม่ได้นำเข้าแร่เหล็ก ถ่านหิน หรือตะกั่วจากเกาหลีเหนือในเดือนพ.ย.อีกด้วย
จากการคาดการณ์ปี 2561 กระทรวงรวมชาติเกาหลีใต้ระบุว่า ในที่สุด เกาหลีเหนือจะหาหนทางที่จะบรรเทาหรือลดทอนการคว่ำบาตรนี้
หนังสือพิมพ์โรดอง ซินมุน ของเกาหลีเหนือรายงานเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ว่า การพัฒนาสันติภาพเป็นสิทธิที่ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศที่มีอธิปไตย.