คนจนในสหรัฐฯเพิ่มขึ้น
สหรัฐอเมริกากำลังมีอัตราความยากจนของประชาชนในประเทศเพิ่มสูงขึ้น
อ้างอิงจากรายงานการประเมินเศรษฐกิจประจำปี ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ
ทางไอเอ็มเอฟรายงานว่ามี 1 ใน 7 ของประชากรในสหรัฐฯ ที่ดำรงชีวิตอยู่อย่างยากจนและควรได้รับการแก้ไขปัญหาและช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
โดยไอเอ็มเอฟเสนอแนะว่าสหรัฐฯ ควรมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำและจ่ายค่าจ้างให้ลูกจ้างหญิงได้มีเวลาเลี้ยงดูบุตรหลังคลอด เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงาน
นอกจากนี้ในรายงานยังได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในปี 2559 ลงเหลือ 2.2% จากตัวเลขคาดการณ์เดิม 2.4% โดยอ้างถึงเศรษฐกิจทั่วโลกที่ชะลอตัวและการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ซบเซาลง
ทั้งนี้การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ชะลอตัวลงเหลือ 0.5% ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ลดฮวบลงมาจากตัวเลขเดิม 1.4% ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2558
นางสาวคริสตีน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการของไอเอ็มเอฟรายงานว่าตลาดแรงงานที่ยังคงแข็งแกร่งทำให้เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังคงมีเสถียรภาพ โดยตัวเลขการว่างงาน 4.7% ในเดือน พ.ค.เป็นอัตราที่ต่ำที่สุดในรอบ 8 ปี
อย่างไรก็ตาม นางสาวลาการ์ด เตือนว่าความยากจนไม่เพียงสร้างความเครียดกดดันทางสังคมเท่านั้น แต่ยังกัดกร่อนการมีส่วนร่วมของกำลังแรงงาน บั่นทอนความสามารถในการลงทุนในด้านการศึกษาและปรับปรุงผลลัพธ์ด้านสุขภาพ
โดยเธอเสริมว่า“การประเมินของเราบ่งชี้ว่า ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้ 4 เรื่องสำคัญคือ การมีส่วนร่วม การผลิต การดึงดูดงาน และความยากจนจะกัดกร่อนแรงสนับสนุนในการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และฉุดรั้งมาตรฐานในการดำรงชีพของสหรัฐฯ”
ทั้งนี้ ในรายงานของไอเอ็มเอฟ ยังได้เรียกร้องให้สหรัฐฯลงทุนมากขึ้นในด้านการศึกษารวมถึงดำเนินการปรับปรุงสวัสดิการทางสังคม เช่น จัดสร้างสถานเลี้ยงเด็กก่อนวัยเรียนเพื่อช่วยให้มารดาในครอบครัวที่ยากจนสามารถไปทำงานได้.