ปิโตรนาสขาดทุนจ่อปลดพนักงาน
เมื่อวันที่ 28 ก.พ. บริษัทพลังงานแห่งชาติของมาเลเซียอย่างปิโตรนาส ได้รายงานผลประกอบการขาดทุนในไตรมาส 4 ของปี 2558 สูงถึง 4,690 ล้านริงกิต จากผลกระทบของราคาน้ำมันขาลง
นายวอน ซุลกิฟลี วอน อาริฟฟิน ประธานและซีอีโอของบริษัทปิโตรนาส กล่าวว่า สภาวะแวดล้อมของราคาน้ำมันที่กดดันทำให้แนวโน้มในการบริหารจัดการยากยิ่งขึ้น
เขากล่าวหลังจากการเปิดเผยข้อมูลในไตรมาสเดือน ต.ค.- ธ.ค.ว่า “สถานะทางการเงินของบริษัทในปีนี้ ยังคงได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ไม่มีเสถียรภาพต่อไป”
ทั้งนี้ รายได้ของบริษัททรุดลงถึง 24.5% มาอยู่ที่ 60,100 ล้านริงกิต จากมูลค่าเดิมอยู่ที่ 79,370 ล้านริงกิตในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 อย่างไรก็ตาม ยอดการขาดทุน 9,870 ล้านริงกิตนี้ จัดว่าลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
ทั้งนี้ บริษัทปิโตรนาสประกาศนโยบายรัดเข็มขัดด้วยการตัดลดเงินทุนและค่าใช้จ่ายในการประกอบการลง 50,000 ล้านริงกิตใน 4 ปีข้างหน้า โดยเริ่มจากการปรับลดค่าใช้จ่ายลง 15,000- 20,000 ล้านริงกิตในปีนี้
ต่อมา ในวันที่ 1 มี.ค. ปิโตรนาสได้ออกมาแถลงว่า บริษัทต้องมีการพิจารณาปลดพนักงานออกประมาณ 1,000 ตำแหน่ง เพื่อช่วยในการดิ้นรนฝ่าฟันสถานการณ์ราคาน้ำมันตกต่ำทั่วโลกนี้ไปให้ได้ ปิโตรนาสซึ่งเป็นแหล่งรายได้จากการส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของรัฐบาลมาเลเซีย แถลงว่า จะมีการปลดพนักงานออกในอีก 6 เดือนข้างหน้า โดยถ้อยแถลงของบริษัทคือ
“บริษัทมีความพยายามอย่างละเอียดรอบคอบในการที่จะโยกย้ายพนักงานที่ได้รับผลกระทบ”
ทั้งนี้ไม่ได้มีแค่บริษัทปิโตรนาสเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากราคาน้ำมันและโภคภัณฑ์อื่นๆ บริษัทไซม์ดาร์บี้ ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่ที่สุดในโลกก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน โดยบริษัทได้ประกาศเมื่อวันที่ 25 ก.พ.ว่า ผลกำไรในไตรมาส 2 ทรุดลงถึง 38% จากราคาโภคภัณฑ์ตกต่ำและเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว
ก่อนหน้านี้ มีการรายงานว่า ตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจของมาเลเซียในปี 2558 คือ 5% ลดลงจาก 6% ในปี 2557
โดยรัฐบาลในปัจจุบันคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจมาเลเซียจะขยายตัวได้ประมาณ 4-4.5% ในปีนี้ ต่ำกว่าตัวเลขเดิมคือ 5% ที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
หมายเหตุ 1 ริงกิต = 8.69 บาท เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 2559