ไวรัสไม่กระทบโครงการรถไฟความเร็วสูงมาเลเซีย
เมื่อวันที่ 19 ก.พ. เจ้าของโครงการการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง East Coast Rail Link ซึ่งเป็นเมกะโปรเจ็คท์ที่ใหญ่ที่สุดของมาเลเซียระบุว่า โครงการไม่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 แม้แรงงาน 1,000 คนในโครงการมาจากจีนก็ตาม
โดยแรงงานประมาณ 200 คนจากจีนกลับมาที่มาเลเซียอีกครั้งหลังหมดวันหยุดยาวช่วงเทศกาลตรุษจีน
ดาตุ๊ก เสรี ดาร์วิส อับดุล ราซัก ซีอีโอของโครงการระบุในการแถลงข่าวว่า พวกเขากลับมาทำงานหลังจากพวกเขากักบริเวณตัวเองเป็นเวลานาน 14 วันที่บ้านพักคนงาน
ยังมีคนทำงานอีก 13 คนจากเมืองอู่ฮั่นในมณฑลหูเป่ยของจีน ซึ่งได้รับการแจ้งไม่ให้เดินทางมาที่มาเลเซีย “ในช่วงนี้” แต่ให้ทำงานจากที่บ้าน ดาร์วิสกล่าว
พนักงานกลุ่มนี้เป็นระดับผู้จัดการ และการที่พวกเขาไม่ได้อยู่ในไซต์งาน “จะไม่กระทบกับการก่อสร้างของเราในเวลานี้” เขาเสริม
ขณะที่แรงงานชาวจีนส่วนอื่นในโครงการ ที่มีประมาณ 800 คน ยังคงอยู่ในมาเลเซีย แทนที่จะเดินทางกลับบ้านในช่วงวันหยุดตรุษจีนที่ผ่านมา
โครงการรถไฟความเร็วสูงนี้ ที่เชื่อมระหว่างกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงและปุตราจายา เมืองศูนย์ราชการ ถึงรัฐทางชายฝั่งตะวันออกคือรัฐปะหัง ตรังกานู และกลันตัน เป็นเมกะโปรเจคท์ที่ใหญ่ที่สุดของมาเลเซีย
เดือนเม.ย.ปี 2562 จีนลดราคาค่าก่อสร้าง ECRL ลงเหลือ 44,000 ล้านริงกิต ( 333,960 ล้านบาท) จากเดิม 65,500 ล้านริงกิต ( 497,145 ล้านบาท ) ที่เคยทำข้อตกลงไว้กับรัฐบาลของอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัก
โดยจีนยังตกลงร่วมทุน 50-50 เพื่อดำเนินการเส้นทางรถไฟความยาว 640 กม.ทั่วคาบสมุทรมาเลเซีย เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงด้านการเงินของมาเลเซีย
โครงการนี้มีความคืบหน้าประมาณ 15% หลังจากมีการกลับมาดำเนินการใหม่ในเดือนก.ค.ปีที่แล้ว
ดาร์วิสระบุว่า คาดการณ์ว่าการระบาดของไวรัสจะไม่กระทบกับความก้าวหน้าของการก่อสร้างและเงินกู้จากธนาคาร Exim ของจีน
“ มีความกังวลเรื่องการเบิกจ่าย แต่ไม่น่าเป็นห่วง ทุกอย่างก้าวหน้าไปด้วยดี เราไม่มีปัญหาใดๆ” เขาเสริมขณะที่ไป่หยินจ้าน กรรมการผู้จัดการของ China Communications ECRL ซึ่งร่วมในการแถลงข่าวด้วยระบุว่า “ ผมเชื่อมั่นมากว่าการระบาดจะจบลงเร็วๆนี้” โดยบริษัทของเขาเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างหลักของโครงการ