ฮ่องกงเริ่มปีใหม่ด้วยเหตุประท้วง
ฮ่องกงเริ่มต้นวันแรกของปีใหม่ด้วยการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่จบลงด้วยเหตุจลาจล เนื่องจากมีการปิดถนน ทุบทำลายไฟจราจร ขว้างระเบิดเพลิง พังสาขาธนาคาร ร้านค้าและตั้งเป้าที่ศาลสูงสุด ขณะที่ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาและพ่นฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าใส่ผู้ประท้วงและจับกุมผู้ก่อความวุ่นวาย
หลังจากยุติวันสุดท้ายของปี 2562 ด้วยเหตุจลาจลของการประท้วง ฮ่องกงก็เริ่มต้นวันแรกของปี 2563 นี้ด้วยเหตุความไม่สงบโดยผู้ชุมนุมสวมหน้ากากกระจัดกระจายอยู่บนถนนหลายสายในฮ่องกง หลังจากผู้จัดการประท้วงถูกตำรวจบีบให้ยุติการชุมนุมเร็วขึ้นกว่าเดิม
การชุมนุมที่ได้รับการอนุมัติจากตำรวจเกิดขึ้นในเขตธุรกิจเซ็นทรัลก่อนเวลา 15.00 น. โดยม็อบผู้ประท้วงมารวมตัวกันที่วิคทอเรียพาร์คในย่านคอสเวย์เบย์ ขณะที่มีชาวฮ่องกงคนอื่นๆที่เข้าร่วมในการชุมนุมตลอดเส้นทาง
กลุ่ม Civil Human Rights Front อ้างว่ามีผู้ชุมนุมสูงมากกว่าจำนวน 1.03 ล้านคนในวันแรกของการชุมนุมต่อต้านร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนในเดือนมิ.ย. แต่ตำรวจระบุว่าผู้ชุมนุมตัวเลขอยู่ที่ 47,000 คนเท่านั้น และมีอีก 13,000 คนที่ยังคงรวมตัวกันที่จุดเริ่มต้น
เป็นการแสดงออกถึงความเป็นเอกภาพในการผลักดันเพื่อข้อเรียกร้องหลักของผู้ประท้วง ที่มีทั้งการสอบสวนอย่างเป็นอิสระกับความรุนแรงของตำรวจในปฏิบัติการสลายการชุมนุมในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา, นิรโทษกรรมให้ผู้ที่ถูกจับกุม และมีสิทธิ์ในการออกเสียงเลือกตั้งโดยทั่วไป
โดยรัฐบาลฮ่องกงทำตามข้อเรียกร้องไปเพียงข้อเดียวคือการระงับร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน
ปัญหาของการประท้วงเริ่มต้นขึ้นสองชั่วโมงก่อนกำหนดเวลา 16.30 น. เมื่อมีการบุกเข้าพังทำลายสาขาธนาคาร HSBC บนถนน Hennessy ในย่านหว่านไจ๋ ธนาคารแห่งนี้เป็นเป้าหมายของผู้ประท้วง เนื่องจากมีการกล่าวหาว่า ธนาคารให้ความร่วมมือกับตำรวจในการปราบ Spark Alliance ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มหลักในการระดมทุนเพื่อผู้ประท้วง
ตำรวจปราบจลาจลมาถึงที่เกิดเหตุและจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 5 ราย โดยหนึ่งในนั้นถูกลากหน้าคว่ำไปกับพื้น ทำให้ผู้ประท้วงคนอื่นไม่พอใจ ตำรวจฉีดสเปรย์พริกไทยและยิงลูกบอลพริกไทยเข้าใส่ผู้ประท้วง และยังยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ฝูงชนที่เริ่มขว้างปาร่มและสิ่งของอื่นๆเข้าใส่ตำรวจ รวมถึงระเบิดเพลิงด้วย
หลังเวลา 17.30 น. ผู้จัดการประท้วงประกาศว่าตำรวจสั่งให้ยุติการชุมนุมเพราะเกิดความรุนแรง
โดยม็อบผู้ประท้วงหลายพันคนยังคงรอการเคลื่อนขบวนออกจากวิคทอเรียพาร์คในเวลานั้นเนื่องจากการชุมนุมต้องเลิกอย่างกะทันหัน หลายคนยังไม่ยอมออกไปจากถนน จึงกระจัดกระจายกันไปในย่านคอสเวย์เบย์ , หว่านไจ๋และเซ็นทรัล
ความรุนแรงยกระดับขึ้นในช่วงกลางคืน มีสาขาย่อยของธ.HSBC ถึง 5 แห่งที่ถูกพังทำลาย ทำให้ธนาคารต้องออกแถลงการณ์ที่ระบุว่า “เราขอประณามอย่างรุนแรงกับการทำลายทรัพย์สินของธนาคารอย่างไร้เหตุผลซ้ำแล้วซ้ำเล่าในช่วง 2 – 3 วันนี้ เราเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ยุติธรรม”
ตำรวจระบุว่า มีผู้ถูกจับกุมอย่างน้อย 400 รายในวันที่ 1 ม.ค. โดยส่วนใหญ่เป็นข้อหาครอบครองอาวุธอย่างผิดกฎหมาย ทำให้เป็นหนึ่งในการจับกุมจำนวนมากที่สุดในวันเดียวอีกครั้งแหล่งข่าวระบุว่า ตำรวจเปลี่ยนกลยุทธ์จากที่เคยสลายการชุมนุมมาเป็นการจับกุมผู้กระทำผิดจำนวนมาก.