จีนเปิดรับต่างชาติลงทุนธุรกิจผลิตชิป
จีนกำลังมองหาเงินลงทุนจำนวนนับพันล้านดอลลาร์เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจผลิตชิปในประเทศ เพื่อให้จีนลดการพึ่งพาการนำเข้า และเปิดกว้างเชิญชวนนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนเพื่อช่วยให้บรรลุตามเป้าหมาย
กระทรวงอุตสาหกรรมของจีนระบุเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ว่า กระทรวงยินดีต้อนรับบริษัทต่างชาติเพื่อให้เข้ามาลงทุนในธุรกิจผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่รัฐบาลสนับสนุน แม้จะมีความตึงเครียดคุกรุ่นอยู่จากประเด็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีระหว่างจีนกับสหรัฐฯ
โดยจีนกำลังมองหาแผนซึ่งจะเร่งพัฒนาตลาดเซมิคอนดักเตอร์ท่ามกลางการแสดงจุดยืนทางการค้าที่ดุเดือดระหว่างจีนกับสหรัฐฯ รวมถึงการที่ผู้นำสหรัฐฯมีคำสั่งห้ามขายสินค้าเทคโนโลยีของสหรัฐฯ คือชิป ให้กับกลุ่มบริษัท ZTE ของจีน
กองทุนการลงทุนวงจรรวมแห่งชาติกำลังผลักดันให้มีการลงขันกันเพื่อสนับสนุนในภาคส่วนนี้ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งในกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ (MIIT) ระบุ
“ เรายินดีต้อนรับกิจการจากต่างประเทศให้เข้ามามีส่วนร่วม ” โฆษกของ MITกล่าวในงานแถลงข่าวในกรุงปักกิ่ง
โดยกองทุน ซึ่งก่อนหน้านี้ มีจำนวนเงินประมาณ 22,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 696,520 ล้านบาท ตกเป็นเป้าของนักการเมืองสหรัฐฯที่แสดงความกังวลเรื่องที่บริษัทของจีน ทุ่มเทเงินที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ อาจสามารถผงาดขึ้นมาท้าทายบริษัทผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ อย่าง Qualcom เนื่องจากจีนเป็นตลาดสำคัญ
ผู้แทนการค้าของสหรัฐฯอ้างถึงโรดแมปของเซมิคอนดักเตอร์ของจีน ซึ่งรวมถึงเงินกองทุนแห่งชาติ ในรายงานการค้าที่ให้อำนาจโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ที่กำหนดภาษีมูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อต่อต้านจีน
แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา กล่าวในญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ว่า จีนจำเป็นต้องควบคุมเทคโนโลยีหลัก เช่น ชิป เพื่อหลีกเลี่ยงการพึ่งพาการนำเข้าจากสหรัฐฯ มากเกินไป
สัปดาห์ที่แล้ว อาลีบาบาแถลงว่าได้ซื้อบริษัทผู้ผลิตไมโครชิป Hangzhou C-SKY Microsystems โดยหม่าระบุว่า เวลาในการเจรจาตกลงไม่ได้เชื่อมโยงกับช่วงที่เกิดความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน
“ เราเชื่อว่าอินเทอร์เน็ตในทุุกสิ่ง (IoT) คืออนาคต ทุกสิ่งส่วนใหญ่จะมีไฟฟ้าซึ่งมีชิปอยู่ข้างใน เราจึงจำเป็นต้องมีชิปที่มีราคาถูกกว่า ชิปที่มีประสิทธิภาพ ชิปที่อยู่ได้ทุกแห่ง ” เขากล่าวในงานอีเวนท์ที่มีการไลฟ์สตรีมที่มหาวิทยาลัยวาเซดะในกรุงโตเกียว
กองทุนภาครัฐที่สนับสนุนเซมิคอนดักเตอร์ของจีน หรือที่เรียกกันว่า ‘Big Fund’ ได้ให้การสนับสนุนผลิตภัณฑ์สำคัญในประเทศ รวมทั้งโรงงานผลิตชิปของ Tsinghua Unigroup ที่มีมูลค่า 24,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างที่เมืองอู่ฮั่น
โดยจีนระบุว่า มีการกำหนดนโยบายสนับสนุนการลงทุนเพื่อลดการพึ่งพาเซมิคอนดักเตอร์จากต่างประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในการนำเข้าสินค้าที่มีมูลค่าสูงสุดของจีน
ทั้งนี้ ประเด็นการพึ่งพากลายเป็นเรื่องใหญ่ในเดือนนี้ หลังจากสหรัฐฯห้ามไม่ให้บริษัทอเมริกันขายชิ้นส่วน รวมทั้งเซมิคอนดักเตอร์ให้บริษัท ZTE ซึ่งนักวิเคราะห์กล่าวว่า การสั่งห้ามอาจมีผลกระทบร้ายแรงต่อธุรกิจสมาร์ทโฟนของ ZTE
บริษัทของจีนมีการทำข้อตกลงกับต่างประเทศที่จะซื้อบริษัทผลิตชิปของต่างประเทศซึ่งถูกสั่งห้ามโดยรัฐบาลสหรัฐฯ เมื่อเร็วๆนี้ รวมทั้งการที่ Tsinghua Group จะเข้าซื้อบริษัทผลิตชิป Micron Technology ของสหรัฐฯ ด้วย.