ฮ่องกงจ่อใช้กม.ฉุกเฉินแบนสวมหน้ากาก
ฮ่องกง (บลูมเบิร์ก) – ฮ่องกงจะใช้กฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นครั้งแรกในรอบกว่าครึ่งศตวรรษเพื่อห้ามการสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าในการชุมนุมในที่สาธารณะ จากรายงานข่าวของสถานีโทรทัศน์ TVB ของฮ่องกง
โดยรัฐบาลจะประกาศใช้กฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉิน หลังจากมีการประชุมนัดพิเศษของสภาผู้บริหารฮ่องกงในวันที่ 4 ต.ค. สถานี TVB รายงาน โดยอ้างอิงจากแหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์ออกนาม
รัฐบาลอังกฤษมีการประกาศใช้กฎหมายนี้ครั้งแรกในปี 2465 เพื่อควบคุมการหยุดงานประท้วงของแรงงานประมงในอ่าวฮ่องกง โดยมีการใช้กฎหมายนี้ครั้งสุดท้ายโดยรัฐบาลในฮ่องกงเพื่อปราบปรามความรุนแรงในเหตุจลาจลที่เขย่าฮ่องกงในปี 2510
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นไม่นานหลังจากผู้ประท้วงรายหนึ่งถูกตำรวจยิงด้วยกระสุนจริงเข้าที่ไหล่ในเหตุปะทะกันอย่างรุนแรระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา
ในวันเดียวกันกับที่จีนมีพิธีเฉลิมฉลองอย่างใหญ่โตเนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปีของการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน
ส.ส.ฮ่องกงบางรายที่สนับสนุนรัฐบาลจีนเรียกร้องเมื่อวันที่ 2 ต.ค.ให้มีการห้ามสวมหน้ากากในการชุมนุมในที่สาธารณะเพื่อหยุดยั้งกลุ่มผู้ประท้วงไม่ให้สามารถซ่อนตัวตนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้
หากมีการประกาศใช้กฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉินนี้จริง จะยิ่งเป็นการส่งสัญญาณการยกระดับที่ชัดเจนของรัฐบาลและแคร์รี แลม ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง ซึ่งกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากในการควบคุมเหตุจลาจลในช่วงเวลาที่ผ่านมา
โดยกฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกบรรดาผู้นำในการประท้วงประณามว่าเป็นรูปแบบหนึ่งของกฎอัยการศึก จะทำให้รัฐบาลฮ่องกงมีเครื่องมือเพิ่มขึ้นในการจับกุมพลเมือง เซ็นเซอร์สิ่งพิมพ์ ปิดเครือข่ายการสื่อสาร และเข้าตรวจค้นสถานที่ได้โดยไม่ต้องมีหมายค้น รวมถึงมาตรการอื่นๆ
นอกจากนี้ ยังให้อำนาจรัฐบาลในการออกกฎข้อบังคับใหม่ที่รัฐบาลเชื่อว่าจะเป็นการช่วยยุติ ‘โอกาสที่จะเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือเป็นอันตรายต่อประชาชน’ อีกด้วย