มหาเศรษฐีอังกฤษเพิ่ม 30% ใน 10 ปี
สหราชอาณาจักรจะมีจำนวนมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้นอีก 30% ภายใน 10 ปี นำหน้าประเทศอื่นๆ ในยุโรปอย่างเห็นได้ชัด อ้างอิงจากรายงาน
ไนท์ แฟรงค์ ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์กล่าวว่า จำนวนประชากรที่มีรายได้ส่วนบุคคลสูงมากอยู่ในระดับมหาเศรษฐีเพิ่มจำนวนขึ้นอีก 6,340 คนเป็น 193,490 คนทั่วโลกในปี 2559 ที่ผ่านมา ลดลงมาอยู่ในระดับเดียวกับปีก่อนหน้านี้ โดยในรายงานได้นับบุคคลที่มีทรัพย์สินมากกว่า 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นเกณฑ์
ถึงแม้ในปีที่แล้ว จะมีเหตุการณ์ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่น่าประหลาดใจและความผันผวนทางเศรษฐกิจจากเบร็กซิทของสหราชอาณาจักรและชัยชนะในการเลือกตั้งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ แต่การพัฒนาทางเศรษฐกิจยังคงดำเนินไปได้ดี
ดัชนีในตลาดหุ้นของสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรพุ่งทะยานขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ท้ายๆ ของปี 2559
“ อาจมีความผันผวนแพร่กระจายไปอย่างกว้างขวาง แต่ยังคงมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งในเศรษฐกิจหลายภาคส่วน ด้วยสัญญาณของความก้าวหน้าอย่างแท้จริงจากมาตรการและนโยบายที่จะช่วยหนุนให้การเติบโตทางเศรษฐกิจเฟื่องฟูในหลายพื้นที่ ” แอนดรูว์ อมอยล์ หัวหน้านักวิจัยที่ New World Wealth บริษัทวิจัยซึ่งเป็นผู้จัดทำรายงานกล่าว
ทั้งนี้ ไนท์ แฟรงค์ คาดการณ์ว่าจำนวนผู้ที่มีรายได้สูงในระดับมหาเศรษฐีทั่วโลกจะขยายตัวเพิ่มขึ้น 43% ใน 10 ปีข้างหน้า แต่จะมีความหลากหลายในภูมิภาคและประเทศ และคาดการณ์ว่าจำนวนผู้มีอันจะกินจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในสหรัฐฯ มากกว่าในสหราชอาณาจักรเล็กน้อยในทศวรรษหน้า ในขณะที่ประเทศในยุโรปจะมีการขยายตัวอยู่ที่ 12%
อย่างไรก็ตาม จำนวนมหาเศรษฐีที่เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 91% ล้วนแต่อยู่ในหลายประเทศทั่วเอเชีย
โดยในปี 2570 จำนวนเศรษฐีในเอเชียจะมีจำนวนเกือบจะเท่ากับในสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้จะมีจำนวนคนรวยระดับมหาเศรษฐีน้อยกว่าในสหรัฐฯ เพียง 7,068 คน ในขณะที่ปัจจุบัน จำนวนเศรษฐีในสหรัฐฯ มากกว่าในเอเชียถึง 27,020 คน
นอกจากนี้ ผู้ทำการวิจัยยังพบว่า จำนวนเศรษฐีในเมืองใหญ่ของเอเชียอย่างสิงคโปร์ เซี่ยงไฮ้ และปักกิ่งเพิ่มขึ้นแซงหน้าจำนวนคนร่ำรวยในบางเมือง เช่น ซานฟรานซิสโกในสหรัฐฯ
ทั้งนี้ มีการทำนายว่าในหลายประเทศของแอฟริกา เช่น เอธิโอเปีย รวันดาและแทนซาเนียจะมีจำนวนผู้มีอันจะกินเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน.
หมายเหตุ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ = 35.17 บาท / 1 มี.ค. 2560