บีโอไอผนึกธนาคารญี่ปุ่น จับคู่ธุรกิจไทย
บีโอไอ จับมือธนาคารโชโคชูคิน ประเทศญี่ปุ่น จัดกิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทยกับบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่น กว่า 30 บริษัท ที่มองหาผู้ผลิตและซัพพลายเออร์ในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอุปกรณ์เครื่องจักร
นางสาวบงกช อนุโรจน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม 2562 กองพัฒนาและเชื่อมโยงการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ร่วมกับธนาคาร โชโคชูคิน (Shoko Chukin Bank) ซึ่งเป็นธนาคารเอสเอ็มอีของประเทศญี่ปุ่น และมีสำนักงานในประเทศไทย จัดกิจกรรมเชื่อมโยงทางธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทยและญี่ปุ่น โดยบีโอไอได้เชิญผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมพบปะกับผู้ประกอบการญี่ปุ่นเพื่อเจรจาจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) และสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างกัน
สำหรับผู้ประกอบการญี่ปุ่นเหล่านี้เป็นลูกค้าของธนาคารโชโคชูคินและธนาคารที่เป็นเครือข่ายพันธมิตรที่ต้องการซัพพลายเออร์ และผู้ผลิตชิ้นส่วนที่มีศักยภาพในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง โดยพร้อมจะถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ด้วย การจัดกิจกรรมครั้งนี้มีบริษัทจากประเทศญี่ปุ่นเข้าร่วมกว่า 30 บริษัท ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งผู้ประกอบการไทยตอบรับเข้าร่วมกว่า 45 บริษัท โดยได้จัดขึ้น ณ โรงแรมพูลแมน กรุงเทพฯ แกรนด์ สุขุมวิท
“ที่ผ่านมาบีโอไอ สนับสนุนให้เกิดการลงทุนและจับคู่ทางธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทยกับบริษัทต่างชาติมาอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นภารกิจสำคัญอันหนึ่งของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งในครึ่งปีแรกของปี 2562 กองพัฒนาและเชื่อมโยงการลงทุน ได้จัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศมาแล้วรวม 8 ครั้ง เกิดการจับคู่ทางธุรกิจระหว่างบริษัทไทยกับต่างชาติกว่า 12,000 คู่ โดยเฉพาะกับนักลงทุนญี่ปุ่น มีการจับคู่ธุรกิจมากที่สุดกว่าร้อยละ 50 ของการจับคู่ธุรกิจทั้งหมด นอกจากจะสร้างโอกาสทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการไทยแล้ว ยังเป็นโอกาสในการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการสู่ระดับโลกโดยการเรียนรู้เทคโนโลยีจากบริษัทต่างชาติด้วย” นางสาวบงกช กล่าว
ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ญี่ปุ่นเป็นนักลงทุนที่ยื่นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนสูงสุดป็นอันดับ 1 ด้วยมูลค่า 42,454 ล้านบาท จากมูลค่าคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศทั้งหมด 147,169 ล้านบาท โดยอุตสาหกรรมที่เข้ามาลงทุนอันดับแรก ได้แก่ ผลิตภัณฑ์โลหะและเครื่องจักร ตามด้วยอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า และกิจการด้านบริการ
ทั้งนี้ ธนาคารโชโคชูคิน อยู่ภายใต้กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม ของประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในพันธมิตรที่ทำงานกับบีโอไออย่างใกล้ชิด และได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการลงทุนกับบีโอไอมาตั้งแต่ปี 2538 เพื่อสนับสนุนการลงทุนของเอสเอ็มอีญี่ปุ่นในไทย และการสร้างความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการไทยและญี่ปุ่น