สมาคมประกันชีวิตไทยแนะไม่ควรยกเลิกกรมธรรม์
ตามที่ประชาชนได้วางแผนการออมผ่านการประกันชีวิตในรูปแบบต่างๆ แต่ภายหลังได้มีการยกเลิกกรมธรรม์ประกันชีวิต อาจจะด้วยสภาพแวดล้อมและปัจจัยที่จำกัดซึ่งส่งผลกระทบต่อการวางแผนทางการเงิน ทำให้ไม่สามารถชำระเบี้ยประกันภัยในปีต่อๆ ไปได้ และอีกสาเหตุหนึ่งอาจมาจากการได้รับคำแนะนำที่ไม่เหมาะสมจากตัวแทนประกันชีวิต
นางนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า จากปัญหาการยกเลิกกรมธรรม์ประกันชีวิตที่มีสาเหตุมาจากผู้เอาประกันภัยเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจและไม่สามารถชำระเบี้ยประกันภัยได้นั้น สมาคมประกันชีวิตไทยขอแนะนำผู้เอาประกันภัยพิจารณารูปแบบประกันชีวิตให้เหมาะสม ตรงกับความต้องการและความสามารถในการชำระเบี้ยประกันภัยของตนเองในระยะยาวเป็นสำคัญ เพื่อให้กรมธรรม์ประกันชีวิตมีผลบังคับ สามารถบรรลุเป้าหมายของการทำประกันชีวิตได้จนสิ้นสุดสัญญา
ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งของการยกเลิกกรมธรรม์ อาจมาจากการถูกตัวแทนประกันชีวิตบางส่วนที่ย้ายต้นสังกัดชักชวนหรือแนะนำให้ยกเลิกกรมธรรม์ประกันชีวิตฉบับเดิม เพื่อมาทำกรมธรรม์ประกันชีวิตฉบับใหม่กับบริษัทใหม่ ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่ผิดจรรยาบรรณของตัวแทนประกันชีวิต และทำให้ผู้เอาประกันภัยเสียผลประโยชน์ เพราะจะทำให้เสียโอกาสในเรื่องความคุ้มครองตามที่ตัวเองตั้งใจไว้และอาจได้รับเงินค่าเวรคืนกรมธรรม์ประกันภัยน้อยกว่าเงินค่าเบี้ยประกันภัยที่ชำระไป เนื่องจากบริษัทประกันชีวิตมีค่าใช้จ่ายในส่วนของความคุ้มครองสำหรับระยะเวลาที่ผ่านมา ร่วมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่างๆ นอกจากนี้ในการทำกรมธรรม์ฉบับใหม่
ผู้เอาประกันภัยจะต้องจ่ายเบี้ยประกันภัยสูงเมื่อเทียบกับความคุ้มครองที่ได้รับเหมือนเดิม เพราะการซื้อประกันชีวิตฉบับใหม่ บริษัทประกันชีวิตจะคิดคำนวนค่าเบี้ยประกันภัยตามอายุปัจจุบันที่มากขึ้น รวมถึงค่าความเสี่ยงภัยจากสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ทั้งนี้ ผู้เอาประกันภัยจะต้องแถลงข้อความจริงเกี่ยวกับสุขภาพต่อบริษัทประกันชีวิตแห่งใหม่ด้วย ซึ่งหากผู้ขอเอาประกันภัยมีปัญหาสุขภาพ บริษัทอาจใช้สิทธิปฏิเสธไม่รับประกันได้ ถือได้ว่าเป็นผลเสียแก่ผู้เอาประกันภัย อีกทั้งยังทำให้ผู้เอาประกันภัยเสียโอกาสที่จะได้รับความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์อย่างต่อเนื่องจากกรมธรรม์เดิม
นายกสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า หากมีตัวแทนประกันชีวิตมาชักชวนให้ยกเลิกกรมธรรม์ประกันชีวิตก่อนครบกำหนดสัญญา ขอให้ผู้เอาประกันภัยพิจารณาให้รอบครอบและตรวจสอบรายละเอียดอย่างถี่ถ้วน หรืออาจขอรับคำปรึกษาได้ที่สำนักงาน คปภ.และสมาคมประกันชีวิตไทย เพื่อไม่ให้เสียสิทธิประโยชน์
ที่พึงจะได้รับไปอย่างน่าเสียดาย และสำหรับตัวแทนประกันชีวิตที่ชักชวนให้ผู้เอาประกันภัยยกเลิกกรมธรรม์ การกระทำดังกล่าวนอกจากจะผิดจรรยาบรรณการเป็นตัวแทนประกันชีวิตแล้ว ยังเป็นความผิดตามประกาศ คปภ. เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการออก การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยและการปฏิบัติหน้าที่ของตัวแทนประกันชีวิต นายหน้าประกันชีวิตและธนาคาร พ.ศ.2551 ซึ่งมีบทลงโทษถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาต