เวียดนามเล็งปฏิรูปท่องเที่ยว
อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของเวียดนามกำลังบูมและกลายเป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว แต่ก็เผชิญกับการเรียกร้องให้มีการปฏิรูปเพื่อคงมาตรฐานให้สูงอยู่ตลอด
ในปี 2560 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนเวียดนามเกือบ 13 ล้านคน ทำรายได้ให้ประเทศมากกว่า 22,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 690,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 30% เมื่อเทียบกับปี 2559
โดยในทศวรรษที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนเวียดนามเพิ่มขึ้น 3 เท่า ขณะที่รายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นถึง 9 เท่า
การท่องเที่ยวของเวียดนามติดอันดับ 6 ใน 10 อันดับจุดหมายปลายทางที่มีการเติบโตของการท่องเที่ยวสูงที่สุดในโลก และได้รับตำแหน่งผู้ประกอบการยอดเยี่ยมในเอเชียในปี 2560 โดยอุตสาหกรรมท่องเที่ยวคิดเป็น 7.5% ของตัวเลขจีดีพีของประเทศ
จากความสำเร็จที่น่าประทับใจ การท่องเที่ยวจึงเป็นภาคส่วนเศรษฐกิจที่สำคัญภายในปี 2563 ที่สามารถช่วยสนับสนุนการพัฒนาภาคส่วนอื่นๆ ของประเทศ ทั้งภาคก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ ค้าปลีก การศึกษา และโอกาสงาน
ทางการเวียดนามหวังว่าจะต้อนรับการมาเยือนของนักท่องเที่ยวต่างชาติ 17 – 20 ล้านคน และนักท่องเที่ยวในประเทศ 82 ล้านคนภายในปี 2563 โดยคาดการณ์ว่ารายได้จากการท่องเที่ยวจะสูงถึง 35,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.09 ล้านล้านบาท คิดเป็น 10% ของจีดีพี และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะสร้างงานได้ถึง 4 ล้านอัตรา ซึ่งเป็นงานโดยตรง 1.6 ล้านอัตรา
คาดการณ์ว่าการท่องเที่ยวจะยังคงพัฒนาอย่างแข็งแกร่งในอีก 2- 3 ปีหน้า โดยได้อานิสงส์จากนโยบายสนับสนุนของรัฐบาล หน่วยงานในท้องถิ่น และการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพของทั้งภาคธุรกิจและชุมชน
แต่ในปัจจุบัน สนามบินในเมืองใหญ่ ทั้งฮานอย โฮจิมินห์ เว้ และดานัง ล้วนแต่ประสบปัญหาผู้โดยสารล้น สนามบินไม่สามารถรองรับได้หมด โดยครึ่งหนึ่งของนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีที่แล้วใช้บริการของสนามบิน Tan Son Nhat ในโฮจิมินห์ ซึ่งสนามบินสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 25 ล้านคนต่อปี แต่ในปี 2560 มีนักเดินทางมาใช้บริการสนามบินแห่งนี้มากถึง 32 ล้านคน
อ้างอิงจากดัชนีการแข่งขันด้านการเดินทางและท่องเที่ยวปี 2560 ในการประชุม World Economic Forum โครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวของเวียดนามอยู่ในอันดับ 113 จากทั้งหมด 136 ประเทศ โครงสร้างพื้นฐานสนามบินอยู่ในอันดับที่ 61 การจราจรอันดับ 71 แพลตฟอร์มไอทีอยู่ที่ 80 สภาพแวดล้อมที่สะอาดและปลอดภัยอยู่อันดับ 82 และการเปิดกว้างในระดับสากล (เรื่องวีซ่าเป็นหลัก) อยู่ที่ 73
“ ควรให้ความสำคัญและมีการใช้จ่ายเพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมอย่างเร่งด่วน รวมทั้งท่าเรือสำหรับการท่องเที่ยวด้านเรือสำราญรวมถึงปรับปรุงด้านวีซ่าและกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองด้วย” Nguyen Quy Phuong ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการเดินทาง ภายใต้การกำกับดูแลของการท่องเที่ยวเวียดนามให้ความเห็น
อ้างอิงจาก Trinh Thi My Nghe รองประธานสมาคมท่องเที่ยวฮานอย การท่องเที่ยวไม่ใช่อุตสาหกรรมเดี่ยว แต่เป็นอุตสาหกรรมที่มีความเกี่ยวข้องกับภาคส่วนอื่นอย่างมาก
“ โครงสร้างพื้นฐานที่ดี การจัดการ ความปลอดภัย ความมีสุขอนามัย และพลเมืองที่เป็นมิตรล้วนแต่เป็นปัจจัยที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งสิ้น” Nghe กล่าวกับสื่อเวียดนามนิวส์
รัฐบาลหนุนให้มีการพัฒนาบรรยากาศทางธุรกิจเพื่อให้แน่ใจว่ามีความร่วมมือระหว่างธุรกิจภาคเอกชนและชุมชนในยุทธศาสตร์พัฒนาการท่องเที่ยวในระดับชาติ
ทั้งนี้ ในปี 2561 นี้ เวียดนามตั้งเป้าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติไว้ 16 ล้านคนและนักท่องเที่ยวในประเทศ 80 ล้านคน และรายได้จากการท่องเที่ยว 620 ล้านล้านด่อง.