สจล.โชว์นวัตกรรมยกระดับคุณภาพชีวิตมนุษย์
สจล.โชว์นวัตกรรมยกระดับคุณภาพชีวิตมนุษย์
สจล. โชว์นวัตกรรม ดีเทคเตอร์ฝุ่น PM 2.5 แกดเจ็ตล้างไตด้วยตนเอง เพื่อผู้ป่วยไตเรื้อรัง ระบบเฝ้าระวังดินสไลด์ แหล่งไฟฟ้าใหม่จากใบไม้ ฯลฯ ตั้งเป้าบ่มเพาะนักศึกษาสู่ “ดิสรัปเตอร์” เปี่ยมทักษะพร้อมเผชิญการเปลี่ยนแปลง
ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า สจล. ได้จัดงาน “เคเอ็มไอทีแอล โอเพ่นเฮ้าส์ 2019” (KMITL OPEN HOUSE 2019) มหกรรมหลักสูตรและนวัตกรรมเพื่อมวลมนุษยชาติสุดล้ำ จากทุกคณะและหน่วยงานของ สจล. ภายใต้แนวคิด “KMITL GO BEYOND THE LIMIT” ในโอกาสครบรอบ 60 ปี แห่งการก่อตั้งสถาบันฯ ภายในงานมีการจัดแสดงนวัตกรรมไฮไลท์ ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตมนุษย์ทุกมิติ อาทิ ดีเทคเตอร์มลพิษแบบเรียลไทม์ ด้วย 5 เซนเซอร์หลัก ตรวจเช็คมลพิษทางอากาศ รวมถึงค่าฝุ่น PM 2.5 ฉับไว ลดการทำงานในพื้นที่เสี่ยง แกดเจ็ตเพิ่มความปลอดภัยผู้ป่วยไตเรื้อรัง ลดภาวะเสี่ยงของผู้ป่วยที่ต้องล้างไตด้วยตนเอง ระบบเฝ้าระวังดินสไลด์ ด้วยเซนเซอร์วัดความชื้น และการไหลของน้ำในดิน กักเก็บพลังงานไฟฟ้าด้วยใบไม้ อีกขั้นของการพัฒนาตัวเก็บประจุไฟฟ้าจากของเหลือทิ้งทางการเกษตร แต่มีประสิทธิภาพสูง ฯลฯ
ตลอดจนกิจกรรมเวิร์คชอปให้ร่วมสนุกจำนวนมาก อาทิ การทดลองจัดสวนถาด จากคณะเทคโนโลยีการเกษตร พร้อมบูธให้คำปรึกษาด้านหลักสูตรการเรียนการสอน สำหรับเยาวชนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อประกอบการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อในคณะที่สนใจในอนาคต
ทั้งนี้ สจล. ได้นำร่องพัฒนาหลักสูตรเพื่อให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงในยุคดิสรัปชัน ด้วยการพัฒนาหลักสูตรจากคณะที่มีความทันสมัยและเข้มแข็งดั้งเดิม อาทิ หลักสูตรแพทย์นวัตกร ของคณะแพทยศาสตร์นานาชาติ ที่ตั้งเป้าผลิตแพทย์ระดับโลกที่สามารถศึกษาวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ หลักสูตรเชฟนักวิทยาศาสตร์การปรุงอาหาร ของอุตสาหกรรมเกษตร ที่สามารถต่อยอดสู่การเป็นผู้ประกอบการร้านอาหารอย่างมืออาชีพ และได้รับ 3 ใบปริญญาจาก สจล. สถาบันการจัดการธุรกิจและโรงแรม ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ (BHMS) และมหาวิทยาลัยโรเบิร์ต กอร์ดอน สหราชอาณาจักร ฯลฯ
ศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าวว่า นอกจากจุดแข็งในการเป็นรากฐานนวัตกรรมการพัฒนานวัตกรรมเคียงคู่สังคมไทย สจล. มีแนวคิดในการบ่มเพาะนักศึกษาให้เป็น “ดิสรัปเตอร์” ที่เปี่ยมด้วยทักษะรอบตัว พร้อมพาคนไทยก้าวข้ามขีดจำกัดและเผชิญการเปลี่ยนแปลงในทุกยุค ภายใต้จิตวิญญาณแห่ง สจล. “ซื่อสัตย์ ใฝ่รู้ สู้งาน” ผ่านการดำเนินงานใน 6 ยุทธศาสตร์หลัก อาทิ
1.GO Transformation พัฒนาคลื่นลูกใหม่ ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิสรัปชัน รังสรรค์นวัตกรรมใหม่โดยไม่ทิ้งใครไว้ด้านหลัง
2. GO Creativity ออกแบบหลักสูตรที่ตอบโจทย์เทรนด์การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีโลก
3. GO Active learning พัฒนารูปแบบการเรียนการสอน ให้สอดรับการปรับเปลี่ยน
4. GO Facilitators ครูต้องมีบทบาทและทักษะมากกว่าการสอนในเชิงวิชาการ
5. GO Smart Disruptor สร้างทักษะการเรียนรู้ในยุคดิสรัปชันที่เด็กจะต้องมี
6. GO Collaboration ผสานความร่วมมือจากนักศึกษาพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้แบบโปรดักทีฟ (Productive) หรือการเรียนรู้สองทาง (Two – way Learning Based)