กองทัพภาคที่ 1 ประกาศ ยกระดับจัดการกัมพูชาละเมิดเขตแดน

กองทัพภาคที่ 1 ประกาศยกระดับจัดการกัมพูชาละเมิดเขตแดน
วันที่ 18 ก.ย.68 พลตรี สุรวิชญ์ แดงจันทร์ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 ในฐานะโฆษกกองทัพภาคที่ 1 แถลงข่าวเหตุการณ์บ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว ชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวานนี้ ว่า จากการดำเนินการดังกล่าวได้มีการยั่วยุจากฝ่ายกัมพูชา ด้วยการเกณฑ์ ชาวบ้าน เด็ก ผู้หญิง พระสงฆ์ เข้ามาทำการยั่วยุ ให้เกิดความรุนเเรง แต่เรายึดมั่นในนโยบายที่ไม่ตอบโต้ด้วยกำลัง และดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยใช้กำลังกองร้อยควบคุมฝูงชน (คฝ.) จำนวน 2 กองร้อย เข้าดำเนินการต่อประชาชนชาวกัมพูชาที่รุกล้ำในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ตามที่ปรากฏในภาพข่าว

จากการปะทะในครั้งนั้นมีกำลังพล คฝ. ของฝ่ายเราได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ซึ่งขอเรียนย้ำว่าเป็นการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังสูงสุด ได้แก่
- พ.ต.ท.สมัชญ์ นาคพน รอง ผกก.สส.สภ.คลองลึก บาดเจ็บที่หน้าผาก
- จ.ส.ต.ชยันต์ เบ้าทอง ผบ.หมู่ ป. ศีรษะแตก
- ด.ต.ศักดิ์สิทธิ์ นพเกล้า กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว บาดเจ็บที่หางคิ้ว
- อส. สิริโรจตม์ พลังสุข กรมการปกครอง จังหวัดสระแก้ว ได้รับผลกระทบจากแก๊สน้ำตา
ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้สั่งกำชับให้กำลังพลทุกนายใช้ความระมัดระวังและตอบโต้อย่างเหมาะสม หากมีการฝ่าฝืนจากชาวบ้านกัมพูชา ให้ดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้เมื่อวาน ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้มีการประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย เพื่อเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาระดับพื้นที่
“ไทยจะไม่เป็นผู้ใหญ่ใจดีอีกแล้ว ไทยจะยกระดับความเข้มข้น จะไม่ยอมให้ยั่วยุ หากละเมิด จับกุมทันที ขนขึ้นรถผู้ต้องหา ดำเนินคดีฝั่งไทยใช้กฎหมายสูงสุด ตอนนี้ รถน้ำ แก๊สน้ำตา กระสุนยาง พร้อม”เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 กล่าว