คลัง จัดงบกลางปี67 ลุยดิจิทัล วอลเล็ต
คลัง ยันจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจีดีพีไตรมาสแรก โตต่ำกว่าศักยภาพ จำเป็นต้องเพิ่มกำลังซื้อภาคประชาชน เนื่องจากคาดว่า ยังมีเงินงบประมาณที่ยังใช้จ่ายไม่หมด
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ตามที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบกรอบปฏิทินการออก พ.ร.บ.งบประมาณเพิ่มเติม กลางปีงบประมาณ 2567 และกลับมานำเสนอ ครม.อีกครั้ง ใน 1-2 สัปดาห์นี้ โดยยังไม่มีการระบุตัวเลข ทั้งนี้ วงเงินที่เพิ่มเติมมานั้น เป็นไปตามมติ ครม.ที่เห็นชอบแหล่งเงินสำหรับ โครงการดิจิทัล วอลเล็ต ในส่วน ของพ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
“การทำงบเพิ่มเติมครั้งนี้ ก็เป็นไปตามกระบวนการ ที่จะหาแหล่งเงินมาทำโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ซึ่งในส่วนของแหล่งเงินจากงบประมาณรายจากปี 2567 ในกรอบเดิม 175,000 ล้านบาท ที่ครม.ได้มอบหมายให้คลัง และสำนักงบประมาณ ไปทำการบ้านมา ซึ่งเขาก็เลือกวิธีการเพิ่มงบประมาณรายจ่าย เนื่องจากหลังจาก พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2567 มีผลบังคับใช้นั้น กรมบัญชีกลางรายงานว่ามีการเบิกจ่ายที่ดี ทำให้คาดว่าจะเกลี่ยงบที่เหลือมาใช้ไม่เพียงพอ พร้อมทั้งไม่อยากให้การเบิกจ่ายสะดุดด้วย และวิธีการโอนงบประมาณมีขั้นตอนที่ทำได้ช้ากว่า”
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ส่วนเงินที่จะมาใส่ในงบประมาณเพิ่มเติมนั้น มาได้จากสองแหล่ง คือ 1.รายได้ใหม่ ซึ่งรัฐบาลยังมีรายได้ที่ไม่ได้บรรจุในงบประมาณ และ 2.การกู้ชดเชยขาดดุล ซึ่งจะเป็นตามกรอบพ.ร.บวินัยการเงินการคลัง สำหรับขั้นตอนการทำพ.ร.บ.งบประมาณเพิ่มเติม กลางปีงบประมาณ 2567 หลังจากเสนอครม.ผ่านแล้ว ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาของรัฐสภา ช่วงเดือนกรกฎาคม 2567นี้
“ยืนยันกระบวนการดังกล่าวไม่กระทบ ไทม์ไลน์โครงการดิจิทัล วอลเล็ตแน่นอน คือยังเปิดให้ลงทะเบียนในไตรมารที่ 3 และ เริ่มใช้จ่ายในไตรมาสที่ 4 ปี 2567”นายจุลพันธ์ กล่าว
เศรษฐกิจ เพื่อให้เศรษฐกิจไทยสามารถเติบโตได้ตามศักยภาพ เนื่องจากตัวเลขของเศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งมีการขยายตัวได้ 1.5% เห็นได้ว่า เศรษฐกิจของเราเติบโตต่ำที่สุดในอาเซียน ซึ่งเรื่องนี้จึงเป็นเหตุจำเป็นให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น และในระยะต่อไปจะเป็นการทำงานเพื่อปรับโครงสร้างเศรษฐกิจและการดึงการลงทุนเข้ามาต่อไป
นายชัย วัชรรงค์ โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า กล่าวว่า รมว.คลัง ได้กล่าวในที่ประชุม ครม.ว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สภาพัฒน์ เพิ่งแถลงไปเมื่อวันที่ 20 พ.ค.นี้ ที่คาดว่าปีนี้จีดีพี จะเติบโต 2.5 % นั้น แม้ว่าจะสามารถขยายตัวได้ดีกว่าปีที่แล้วที่ขยายตัวเพียง 1.9% แต่ยังถือว่าเป็นตัวเลขที่ยังไม่น่าพอใจ ดังนั้น ควรที่จะต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อให้เศรษฐกิจไทยสามารถเติบโตได้ตามศักยภาพ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : คลังฝันดิจิทัล วอลเล็ต ดันจีดีพีโตเกิน 3%