ORZON Ventures ประกาศลงทุนใน SLEEK EV ตั้งเป้า ขยายการผลิต
ORZON Ventures ประกาศลงทุนใน SLEEK EV ตั้งเป้า ขยายการผลิต ขับเคลื่อนวงการมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสู่ระดับภูมิภาค
SLEEK EV แบรนด์ชั้นนำในการผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสัญชาติ ไทย – สิงคโปร์ นำเสนอแนวทางการขับเคลื่อนอย่างยั่งยืนในราคาที่เอื้อมถึงได้ภายใต้แนวคิด ‘Sustainability must be affordable’ ประกาศความสำเร็จในการระดมทุนรอบ Pre-Series A นำโดยกองทุน ORZON Ventures ซึ่งเป็นกองทุนส่วนบุคคลที่ลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพจัดตั้งขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่าง บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR และ 500 TukTuks โดยมีผู้ร่วมลงทุนในรอบนี้ ได้แก่ January Capital และ A2D Venturesซึ่งการลงทุนในครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนเป้าหมายของ SLEEK EV ในการเร่งก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ผู้ก่อตั้ง SLEEK EV – นายกันตินันท์ ตันวีนุกูล และ Mr. Zhang Quan Ong (ZQ) ประสบความสำเร็จจากการให้บริการสินเชื่อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่ปี 2019 และเปิดตัวแพลตฟอร์ม FinTech แห่งแรกในประเทศไทยที่ให้บริการสินเชื่อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่สนใจใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่การสร้างมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบรนด์ SLEEK EV ในปี 2022
SLEEK EV ได้ตระหนักถึงปัญหาค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่อวันนั้นมีราคาที่สูงเกินไป โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 30% ของรายได้ขั้นต่ำ ซึ่งทำให้รถจักรยานยนต์เป็นหนึ่งในวิธีการเดินทางที่สะดวกและราคาเหมาะสมที่สุดสำหรับคนนับล้านในภูมิภาคนี้ SLEEK EV จึงเล็งเห็นโอกาสที่จะลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ให้ลงมากกว่า 50%โดยเสนอวิธีการเดินทางที่ถูกกว่าและสะอาดกว่า
ตลาดเป้าหมายแรกของ SLEEK EV คือประเทศไทย เนื่องจากตลาดรถจักรยานยนต์มีมูลค่ามากกว่า 2,600 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อปี ในขณะที่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน มีสัดส่วนน้อยกว่า 1% ของตลาด นับตั้งแต่วันที่เปิดตัวในเดือนกันยายน 2022 โดย SLEEK EV มียอดขายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 1,000 คัน ผ่านเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศหลังจากเปิดตัวเพียง 3 เดือน
การร่วมมือกับ ORZON Ventures ในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ให้การสนับสนุนทางการเงิน แต่ยังเป็นการปลดล็อกศักยภาพของ SLEEK EV ด้วยโอกาสในการใช้ระบบนิเวศที่กว้างขวางของ ORZON Ventures และ OR ซึ่งรวมถึงเครือข่าย PTT Station ร้านกาแฟ ศูนย์บริการยานยนต์ Fit Auto และอื่น ๆ
นายกันตินันท์ ตันวีนุกูล ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมมือกับ ORZON Ventures ที่มีวิสัยทัศน์เดียวกันกับเราในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเดินทางด้วยพลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และด้วยการสนับสนุนจากพวกเขา เราจึงมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ในการก้าวไปสู่อันดับที่ยิ่งใหญ่และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเราในฐานะผู้นำตลาด”
ด้วยแนวโน้มการดำเนินธุรกิจที่ต้องเน้นความยั่งยืนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลไทยได้ดำเนินการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีและอุดหนุนเงินแก่ธุรกิจต่าง ๆ เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมาเพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ SLEEK EV ไม่เพียงแต่ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายขึ้นด้วยราคาที่ย่อมเยา แต่ยังมีส่วนในการสนับสนุนเป้าหมายของรัฐบาลในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน และส่งเสริมทางเลือกการเดินทางที่ยั่งยืนในประเทศไทย
หลังจากเสร็จสิ้นการระดมทุนในครั้งนี้ SLEEK EV ยังคงมุ่งเน้นที่จะผลักดันให้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้านั้นมีราคาที่ย่อมเยา ผ่านการขยายสายการผลิต และทำให้เป็นระบบอัตโนมัติ เพื่อบรรลุเป้าหมายยอดขาย 20,000 คันในปีหน้า อีกทั้งยังวางแผนที่จะใช้เงินทุนเพื่อสร้างเทคโนโลยีหลักอย่าง Smart Vehicle Controller Unit ที่เชื่อมต่อเข้ากับยานพาหนะได้อย่างราบรื่น ผ่านแอปพลิเคชัน SLEEK เพื่อยกระดับประสบการณ์ให้แก่ผู้ใช้งาน
นายณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ Managing Partner กองทุน ORZON Ventures กล่าวถึงการลงทุนในครั้งนี้ “ตลาดจักรยานยนต์ไฟฟ้าเป็นตลาดที่น่าจับตามอง ผมมองว่ายังมีโอกาสอีกมากในตลาดนี้ที่กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลง Disruption ขนาดใหญ่ ทั้งกลุ่มองค์กรและผู้บริโภครายย่อยเริ่มมีการตื่นตัวเรื่อง EV แต่ยังมีผู้เล่นไม่ได้มากนักในตลาด ซึ่งทางกองทุนมองว่า SLEEK EV มีผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่น่าสนใจ ขายในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย มีความตั้งใจในการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าโดยการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและให้ความสำคัญกับบริการหลังการขายที่ดี รวมถึงเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับสถาบันการเงินเพื่อให้บริการสินเชื่อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าให้กับลูกค้ารายย่อยเข้าถึงได้ง่ายขึ้นอีก คาดว่าสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในภูมิภาคนี้ซึ่งกำลังให้ความสนใจในรถจักรยานยนต์ EV ได้ นอกจากนี้ยังมีโอกาสต่อยอดกับธุรกิจของ OR ได้ ทางกองทุนจึงมองว่ามีโอกาสในการเติบโตสูง”