เศรษฐกิจฟิลิปปินส์โต 6.4%
ธนาคารโลกยังคงตัวเลขคาดการณ์เดิมว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพีของฟิลิปปินส์ในปีนี้จะขยายตัว 6.4% ขณะที่ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกลงมาอยู่ที่ 2.4%
นอกจากนี้ ยังประเมินว่าเศรษกิจในเอเชียตะวันออกและภูมิภาคแปซิฟิกจะชะลอตัวอยู่ที่ 6.3% โดยในบรรดาประเทศในกลุ่มอาเซียน ทางธนาคารโลกให้ความเห็นว่า ฟิลิปปินส์และเวียดนามจะเป็นสองประเทศที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงที่สุด
การคาดการณ์และความคิดเห็นนี้อ้างอิงจากรายงานอนาคตเศรษฐกิจโลกฉบับใหม่ที่เผยแพร่ในเดือนนี้
ทั้งนี้ การคาดการณ์จากธนาคารโลกสำหรับเศรษฐกิจฟิลิปปินส์นั้นต่ำกว่าตัวเลขที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้คือ 6.8 – 7.8% แต่สูงกว่าตัวเลขจีดีพีเดิม 5.8% ในปี 2558
ในรายงานของธนาคารโลกระบุว่า “ในฟิลิปปินส์ คาดการณ์ว่าตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะอยู่ที่ 6.4% ในปี 2559 โดยได้แรงหนุนสำคัญจากโครงการร่วมทุนระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชนและอุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่ง”
โดยในรายงานยังชี้ให้เห็นว่า ฟิลิปปินส์ได้ผลประโยชน์จากตลาดส่งออกสินค้าที่หลากหลายและราคาโภคภัณฑ์ที่ตกต่ำทั่วโลก
มูลค่าการลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้นในประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ (อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย) และประเทศที่ยังมีการบริโภคที่แข็งแกร่งด้วยแรงสนับสนุนจากราคาโภคภัณฑ์ตกต่ำ (ไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม) ทำให้ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า จะช่วยหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนได้
ทั้งนี้ ในรายงานยังได้ระบุว่าการส่งออกโภคภัณฑ์ของประเทศเศรษฐกิจใหม่และประเทศกำลังพัฒนาต้องดิ้นรนเพิ่อปรับตัวให้ได้กับราคาน้ำมันและโภคภัณฑ์สำคัญอื่นๆ ตกต่ำลง
คาดการณ์ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจในประเทศเหล่านี้จะอยู่ที่ 0.4% ต่อปี ปรับลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิม 1.2% เมื่อเดือนม.ค.
นายจิม ยอง คิม ประธานธนาคารโลกกล่าวว่า “ตัวเลขการเติบโตที่ลดลง เป็นผลกระทบสำคัญจากประเทศเหล่านี้ในการดำเนินนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและพัฒนาคุณภาพชีวิตประชากรที่ต้องเผชิญกับความยากจนในประเทศ”
โดยเขากล่าวต่อว่า “ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดในการลดปัญหาความยากจน จึงทำให้เรากังวลมากว่า การเติบโตจะยังคงชะลอตัวอย่างรุนแรงในประเทศกำลังพัฒนาที่พึ่งพิงการส่งออกโภคภัณฑ์เป็นหลัก เนื่องจากราคาโภคภัณฑ์ยังซบเซาอย่างต่อเนื่อง”