ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 22-23 มี.ค.2566
จะว่าไปแล้วพรรคพลังประชาชรัฐ ของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีทีมเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งไม่แพ้พรรคการเมืองอื่นเลย
เรื่องที่ 1,904 โดย พล.อ.ประวิตร ได้เสริมแกร่งด้วยการดึง “มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ” อดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ตามด้วย 2 กุมารอย่าง อุตตม สาวนายน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เข้ามาเสริมทีม
ล่าสุด พรรคพลังประชารัฐ ได้ตัว “ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้ามาร่วมด้วยอีกคน
สำหรับมิ่งขวัญนั้น พล.อ.ประวิตร มอบหมายให้คิดแนวทางการลดราคาน้ำมัน ซึ่งจะเป็นนโยบายเด็ดในการหาเสียงเลือกตั้ง โดยต่อมา “มิ่งขวัญ” ได้เสนอ ลดราคาน้ำเบนซินเหลือ 25 บาทต่อลิตร ส่วนดีเซล เหลือ 28 บาทต่อลิตร
ขณะที่ 2 กุมาร ก็ได้เอานโยบายที่ได้คิดค้นตั้งแต่เมื่อครั้งทำพรรคสร้างอนาคตไทยมาเป็นนโยบายใหม่ของพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะเป็นการพักหนี้ กองทุนพลังประชารัฐ (เดิมกองทุนสร้างอนาคตไทย) ฯลฯ
ส่วน “ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล” ต้องรอดูว่า บิ๊กป้อม จะมอบหมายให้ทำอะไร
เรื่องที่ 1,905 ถือฤกษ์งามยามดีวันนี้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงอุตสาหกรรมสำหรับ เสี่ยงแฮงค์ “อนุชา นาคาศัย” ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งรักษาราชการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม แทนที่ “สิริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” ที่ย้ายไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย แน่นอนว่าบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักจากบรรดาผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงที่แห่แหนออกมาต้อนรับกันอย่างคับคั่ง
อย่างไรก็ดีแม้ว่า “เสี่ยแฮงค์” จะเคยทำงานทางด้านการเมืองมาอย่างยาวนาน และเคยพบปะกับพี่น้องสื่อมวลชนมาก็ไม่ใช่น้อย แต่อาการตื่นเต้นก็ยังมีให้เห็นออกมา ผ่านการให้สัมภาษณ์ ซึงท่านรักษาการณ์พูดได้ไม่มีประเด็น หรือเรียกว่าเข้ารกเข้าพงเป็นอย่างมาก ฟังแล้วก็ปวดหัวตาม แต่ก็เอาน่ะท่านเพิ่งมารับตำแหน่งเป็นวันแรก ข้อมูลอาจจะยังไม่ปึ๊กเท่าไหร่ มีที่ได้ประเด็นอยู่แค่คำเดียวคือ “การเพิ่มกำลังซื้อ” เท่านั้น
เอาเป็นว่าจะยอมให้อภัยท่านในฐานะที่เป็นมือใหม่ของกระทรวงละกัน และลองให้โอกาสท่านได้ศึกษาดูงานอีกสักระยะ หลังจากนั้นค่อยมาสัมภาษณ์กันอีกสักรอบ ถ้ารอบนี้ท่านยังตอบไม่ได้ประเด็นอีก คงต้องตัดเกรดให้เป็นสอบตกแล้วนะขอรับเจ้านาย
โดยนพวัชร์