ท่องเที่ยวศรีลังกาฟุบหลังเหตุระเบิด
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมูลค่า 4,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯของศรีลังกาได้รับผลกระทบอย่างหนักหลังจากนักท่องเที่ยวยกเลิกการเดินทางมาชมทะเลและหาดทรายที่สวยงามของมหาสมุทรอินเดียหลังจากเกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่คร่าชีวิตเหยื่อไปกว่า 250 รายเมื่อสองสัปดาห์ก่อน
ผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายจากกลุ่มก่อการร้ายอิสลามในศรีลังกาที่เป็นที่รู้จักกันเพียงเล็กน้อยได้ทำลายโบสถ์และโรงแรมหรูในวันอีสเตอร์ คร่าชีวิตผู้มาสวดภาวนา นักท่องเที่ยวและครอบครัวของพวกเขา ขณะที่กลุ่มก่อการร้ายไอเอสออกมาอ้างความรับผิดชอบในการโจมตี
การท่องเที่ยว ซึ่งมีมูลค่าคิดเป็น 5% ของ GDP ในประเทศ ได้รับผลกระทบหลังจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกยกเลิกการจองโรงแรมและเที่ยวบินเนื่องจากมีความหวาดกลัวเหตุร้าย
“ เป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจ รวมถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว” ประธานาธิบดีไมตรีปาละ สิริเสนาแห่งศรีลังการะบุในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 5 พ.ค.
“ สำหรับเศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนา เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องฟื้นฟูการท่องเที่ยวให้เท่ากับก่อนเหตุร้าย”
ยอดการจองห้องพักโรงแรมสุทธิร่วงลงโดยเฉลี่ยถึง 186% ภายในช่วงสัปดาห์หลังการโจมตีเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน จากข้อมูลของบริษัทที่ปรึกษา ForwardKeys การดิ่งร่วงลงมากกว่า 100% ชี้ว่ามีตัวเลขการยกเลิกมากกว่าการจองห้องพัก การยกเลิกห้องพักในโรงแรมทั่วประเทศลดลงโดยเฉลี่ยถึง 70% ในวันที่ 5 พ.ค. โดยเมืองหลวงคือกรุงโคลัมโบได้รับผลกระทบมากที่สุด ประธานก่ารท่องเที่ยวศรีลังกากล่าวกับสื่อรอยเตอร์
การท่องเที่ยวเป็นแหล่งอัตราแลกเปลี่ยนที่ใหญ่ที่สุดและเติบโตเร็วที่สุดเป็นอันดับ 3 ของศรีลังกาในปีที่แล้ว นโยบายที่มีการตัดสินใจที่ดีและมาตรการรักษาความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่จะกอบกู้ฟื้นฟูอุตสาหกรรมและการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของศรีลังกา กองทุนการเงินระหว่างประเทศระบุ
ตอนนี้ ธุรกิจโรงแรมหรูแถบชายหาดกำลังประสบปัญหาอย่างหนัก ซามันมาลี คอลโน วัย 54 ปี เจ้าของโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองเบนโตตาระบุว่า
“ ไม่มียอดจองห้องพักเลยในสัปดาห์นี้ เดือนหน้า หรือแม้แต่เดือนต.ค. พวกเขายกเลิกหมด” เธอกล่าวในร้านอาหารริมชายหาด ที่ไม่มีวี่แววลูกค้าเลย
เธอกล่าวว่า หากไม่มียอดจองเข้ามาในเร็วๆนี้ เธอคงต้องปลดพนักงานออก 16 คน “ เรามีปัญหามาก่อนแล้ว แต่นี่มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิง” เธอกล่าว