สตรีอเมริกันชุมนุมประท้วงเป็นปีที่ 3
ผู้หญิงอเมริกันรวมตัวกันจำนวนมากเพื่อเดินขบวนประท้วงในหลายเมืองของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 19 ม.ค.นับเป็นการประท้วงครบรอบเป็นครั้งที่ 3 หลังจากครั้งแรกที่มีผู้ประท้วงเป็นผู้หญิงนับล้านคนตามท้องถนนหลังพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เมื่อเดือนม.ค. 2559
Woman’s March ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสงหาผลกำไรที่ริเริ่มจัดการประท้วงครั้งแรกในกรุงวอชิงตัน เป็นผู้ประสานงานจัดการชุมนุมหลักในกรุงวอชิงตัน โดยมีการประท้วงของผู้หญิงจำนวนมากในหลายเมืองของสหรัฐฯ ควบคู่กันไปด้วย
ขณะที่ March On ซึ่งเป็นองค์กรผสมของกลุ่มคนรากหญ้าที่เติบโตขึ้นมาจากการชุมนุมเดินขบวนครั้งแรก ได้ร่วมมือกันจัดการเดินขบวนในอีกหลายเมือง ทั้งบอสตัน ฮุสตัน บัลติมอร์และเดนเวอร์
ผู้นำของทั้งสองกลุ่มระบุว่า พวกเธอใช้การเดินขบวนในปีนี้เพื่อผลักดันนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ การเข้าถึงระบบสาธาณสุขและสิทธิในการเลือกตั้ง ท่ามกลางประเด็นอื่นๆ พวกเธอตั้งเป้าที่จะขับเคลื่อนการออกเสียงเลือกตั้งของผู้หญิงก่อนการเลือกตั้งปี 2563 ที่คาดการณ์ว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะป็นตัวแทนจากพรรครีพับลิกันลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย
“ นี่เป็นเรื่องใหญ่มาก ที่เราจะมุ่งไปที่การเลือกตั้งปี 2563” Nathalie Sanchez จาก March On ให้ความเห็น
นักเคลื่อนไหวระบุว่า การเดินขบวนครั้งนี้ถือเป็นโอกาสในการฉลองชัยชนะจากการเลือกตั้งกลางเทอมในปี 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีผู้หญิงออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากขึ้น ส่งผลทำให้ส.ส.หญิงในสภาคองเกรสเพิ่มจำนวนขึ้น
ส.ส.หญิงที่เพิ่งชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ เกือบทั้งหมดอยู่พรรคเดโมแครต ทั้งสตรีมุสลิมคนแรกและสตรีที่มีเชื้อชาติชนพื้นเมืองคนแรกในสภาคองเกรส รวมถึงสตรีผิวสีคนแรกที่เป็นตัวแทนรัฐในนิวอิงแลนด์ โดยหลายคนระบุว่า การทำหน้าที่ประธานาธิบดีของทรัมป์เป็นเหตุผลสำคัญที่พวกเธอตัดสินใจที่จะมาทำงานด้านการเมือง
การเดินขบวนครั้งนี้ถูกวิจารณ์จากกลุ่มสตรีหัวอนุรักษ์นิยม ซึ่งสนับสนุนการทำหน้าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ และต่อต้านสิทธิในการทำแท้ง โดยเมื่อวันที่ 18 ม.ค.มีการเดินขบวนประจำปี March for Life ของกลุ่มผู้หญิงที่ต่อต้านการทำแท้งในกรุงวอชิงตัน โดยมีรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์จากพรรครีพับลิกันเข้าร่วมเดินขบวนด้วย