ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 22-23 ส.ค.2565
ลุ้นระทึก เมื่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องของฝ่ายค้าน ให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย ปม ปัญหาวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้ว
เรื่องที่ 1,339 ทั้งนี้ พรรคร่วมฝ่ายค้านนำโดย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เข้าชื่อร่วมกันยื่นคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อดำเนินการส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ให้พิจารณาวินิจฉัยความเป็นนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดลง เนื่องจากดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รวมระยะเวลาเกินกว่า 8 ปี ตามมาตรา 170 วรรคสองและมาตรา 158 วรรคสี่ ของรัฐธรรมนูญ 2560
รวมทั้งยังได้ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งตามมาตรา 82 วรรคสองของรัฐธรรมนูญให้ พล.อ.ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย เนื่องจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นตำแหน่งสูงสุดของฝ่ายบริหาร มีอำนาจในการบริหารราชการแผ่นดิน หากให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ทั้งที่ไม่มีอำนาจตามกฎหมายย่อมส่งผลกระทบต่อความชอบด้วยกฎหมายของบรรดาคำสั่งและข้อสั่งการต่างๆ ที่สั่งการในนามของนายกรัฐมนตรี รวมถึงความชอบด้วยกฎหมายของการก่อนิติสัมพันธ์ต่างๆ ในนามของรัฐบาล และการลงนามในพันธกรณีระหว่างประเทศที่อาจจะมีขึ้น
โดยขั้นตอนนับจากนี้คือ รอศาลรับคำร้อง และต้องลุ้นว่า เมื่อรับคำร้องแล้ว มีกำหนดเวลาวินิจฉัยเมื่อใด ระหว่างรอวินิจฉัย จะสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่เลยหรือไม่
เรื่องที่ 1,340 ไม่ได้เหนือความคาดหมายแต่อย่างใดอย่างที่ บก. ชวนคุยเคยบอกเอาไว้ สำหรับงานแถลงข่าวผลการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือกบง.ซึ่งท่านรองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาวน์” อุตสาห์ไปรวบรวมขุนพลของแต่ละองค์กรในสังกัดมานั่งร่วมแถลงข่าวกับ 10 ชีวิตให้ดูยิ่งใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน คนนั้นตอบทีคนนี้ตอบที ดีนะที่ไม่ได้คาดหวังอะไรมากอยู่แล้ว
แต่ที่ดูจะได้น้ำได้เนื้อมากที่สุดก็คือจะเป็นเรื่องมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้า ซึ่ง “รองพงษ์” บอกว่า กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน จะได้ส่วนลดค่าไฟฟ้าจำนวน 92.04 สตางค์ต่อหน่วย เป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่เดือนก.ย. 2565 – ธ.ค. 2565 (ประกอบด้วยส่วนลดจากการเพิ่มขึ้นของค่า Ft เดือนพ.ค. 2565 – ส.ค. 2565 จำนวน 23.38 สตางค์ต่อหน่วย และส่วนลดจากการเพิ่มขึ้นของค่า Ft เดือนก.ย. 2565 – ธ.ค. 2565 จำนวน 68.66 สตางค์ต่อหน่วย)
ส่วนกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าที่ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 301-500 หน่วยต่อเดือน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของราคาไฟฟ้าซึ่งเป็นสาธารณูปโภคพื้นฐานเช่นกัน โดยการให้ส่วนลดจากการเพิ่มขึ้นของค่า Ft เดือนก.ย. 2565 – ธ.ค. 2565 แบบขั้นบันได 15-75% ประกอบด้วย ผู้ใช้ไฟฟ้าในอัตรา 301-350 หน่วยต่อเดือนได้ส่วนลด 75% ,ผู้ใช้ไฟฟ้าในอัตรา 351-400 หน่วยต่อเดือนได้ส่วนลด 45% ,ผู้ใช้ไฟฟ้า 401-500 หน่วยต่อเดือน ได้ส่วนลด 15% ใช้เกิน 501 หน่วยต่อเดือนไม่ได้รับส่วนลด
โดยมาตรการดังกล่าวจะช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ของ กฟน. และ กฟภ. จะครอบคลุมผู้ใช้ไฟฟ้าประมาณ 80% ของผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศ หรือคิดเป็น 89% ของผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย นอกจากนี้จะดำเนินการให้ครอบคลุมบ้านที่อยู่อาศัยที่เป็นผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยของ กฟผ. และผู้ใช้ไฟฟ้าของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณรวม 2,000 ล้านบาทต่อเดือน หรือประมาณ 8,000 ล้านบาทสำหรับ 4 เดือน พร้อมมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอรับสนับสนุนแหล่งงบประมาณในการดำเนินมาตรการดังกล่าวตามความเหมาะสมต่อไป โดยมาตรการดังกล่าวจะนำเข้าสู่การประชุม ครม. ให้ทันภายในเดือน ส.ค.นี้ ส่วนนี้ก็ต้องขอกราบขอบคุณงามๆที่มีมาตรการช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยออกมาครับผม
โดยนพวัชร์