สหรัฐฯปล่อยตัวมหาเศรษฐีจีน
ริชาร์ด หลิว มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งและซีอีโอของอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของจีนคือ JD.com ถูกจับกุมตัวที่รัฐมินเนโซตาในสหรัฐฯ เนื่องจากต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อคดีทางเพศ และเขาถูกปล่อยตัวในเวลาต่อมา หลังบริษัทชี้ว่าเป็นข้อกล่าวหาเท็จ
โดย JD.com ซึ่งมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่อย่างวอลมาร์ท ห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ, อัลฟาเบต บริษัทแม่เจ้าของกูเกิล และ Tencent บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 2 ก.ย.ว่า หลิว หรือชื่อในภาษาจีนว่า หลิวเชียงตง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าใจผิด
“ ในระหว่างทริปธุรกิจไปเยือนสหรัฐฯ คุณหลิวถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามถึงความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูล ”
“ เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าไม่มีหลักฐานที่พาดพิงถึงคุณหลิว และเขาสามารถเดินทางไปทำกิจกรรมทางธุรกิจได้ต่อตามหมายกำหนดการเดิมได้ ” แถลงการณ์ของบริษัทระบุ
ทั้งนี้ บริษัทไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมมากกว่านี้ และหลิวยังไม่พร้อมจะให้สัมภาษณ์กับสื่อรอยเตอร์
JD.com เป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่ทรงอิทธิพลของจีน ที่กำลังแข่งขันอย่างดุเดือดกับอาลีบาบา ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของมหาเศรษฐีแจ็ค หม่า โดยหลิวในวัย 45 ปี เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในจีน และมีทรัพย์สินสุทธิถึง 7,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 259,910 ล้านบาท จากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์
โดยซีอีโอหนุ่มชาวจีนถูกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ จับกุมตัวก่อนเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 31 ส.ค.ตามเวลาท้องถิ่น และถูกปล่อยตัวหลังเวลา 16.00 น. ของวันที่ 1 ก.ย.อ้างอิงจากข้อมูลบนเว็บไซต์ของสำนักงานเขต Hennepin โดยในเว็บไซต์ระบุว่า หลิวอยู่ในระหว่างดำเนินการยื่นคำร้องขอปล่อยตัว
จอห์น เอลเดอร์ โฆษกสำนักงานตำรวจมินนิอาโปลิสระบุว่า การสอบสวนยังมีการดำเนินการอยู่และปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดของการจับกุม
“ เราไม่ทราบว่ามีการตั้งข้อกล่าวหาหรือไม่ เพราะเรายังไม่ได้สรุปผลการสอบสวน ” เขากล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อรอยเตอร์เมื่อวันที่ 2 ก.ย.
ทางมหาวิยาลัยมินเนโซตาระบุว่า หลิวเป็นนักศึกษาระดับปริญญาเอก ในหลักสูตรบริหารธุรกิจ ซึ่งก่อนหน้านี้มีการเรียนที่ปักกิ่งเนื่องจากเป็นหลักสูตรที่เป็นความร่วมมือระหว่างทางมหาวิทยาลัยมินเนโซตากับมหาวิทยาลัยชิงหัวของจีน โดยบรรดานักศึกษาที่เรียนหลักสูตรนี้มีการฝึกอบรมอยู่ในมหาวิทยาลัยมินเนโซตาในสัปดาห์ที่แล้ว
โดย Emma Bauer โฆษกหญิงของมหาวิทยาลัยที่ออกแถลงการณ์ได้ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเพิ่มเติม และให้ทางสื่อไปสอบถามรายละเอียดกับทางสำนักงานตำรวจมินนิอาโปลิสแทน.