กยศ.คิดดอกเบี้ยเงินกู้ 1% ต่ำที่สุดแล้ว
ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวยืนยันว่า กฎหมายกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ที่กำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงในชั้นกรรมาธิการฯ ไม่ควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงมาต่ำกว่า 1% ต่อปี เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ กยศ.เรียกเก็บจากเด็กๆ ที่สำเร็จการศึกษาในอัตราดอกเบี้ย 1% นั้น ทำให้ กยศ.เป็นกองทุนหมุนเวียนที่สมบูรณ์แบบและสามารถยืนได้ด้วยลำแข้งของตนเอง
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ กยศ.กล่าวว่า ปัจจุบัน กยศ.ใช้เงินทุนหมุน เวียนทางด้านการศึกษาเริ่มตั้งแต่วุฒิม.4 จนถึงป.ตรี โดยในแต่ละปี กองทุนฯ จะมีเงินหมุนเวียนประมาณ 31,000-32,000 ล้านบาท เพียงพอต่อกับความการของเด็กๆ ในแต่ละปีการศึกษา ทำให้ กยศ.ไม่มีความจำเป็นในการของบประมาณสนับ สนุนจากรัฐบาลมาหลายปีแล้ว ดังนั้น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงจะส่งผลต่อสถานะของกองทุนฯ ในอนาคต เพราะทำให้รายได้ลดลง
“พ.ร.บ.ฉบับเดิมกำหนดให้ กยศ.คิดอัตราดอกเบี้ยจากการกู้เงิน ได้สูงสุด 7.5% ต่อปี นับจากวันที่ก่อตั้งกองทุนฯ จนถึงปัจจุบัน กยศ.ไม่เคยคิดอัตราดอกเบี้ย 7.5% เลย เพราะวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ คือการช่วยเหลือเด็กๆ ให้มีการศึกษาโดยเฉพาะเด็กที่มาจากครอบครัวยากจนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม จึงไม่เคยคิดอัตราดอกเบี้ยขั้นสูงสุดเลย ขณะที่อัตราดอกเบี้ย กรณีผิดเงื่อนไข กฎหมายกำหนดให้เราคิดค่าปรับสูงสุดได้ 18% ต่อปี ปัจจุบันก็ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมาเหลือ 0.50% ต่อปี”
สำหรับปีการศึกษา 2564 กองทุนณ มีเงินให้กู้ยืมประมาณ 38,000 ล้านบาท เพื่อรองรับนักเรียน นักศึกษา 600,000 ราย เพื่อนำไปใช้จ่ายเป็นค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายดำรงชีพ โดยที่ผ่านมา กยศ.ได้ปล่อยกู้นักเรียนไปแล้ว 6.21 ล้านราย คิดเป็นเงิน 692,253 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้ ชำระหนี้เสร็จสิ้น 1.56 ล้านราย คิดเป็นเงิน 114,821 ล้านราย อยู่ระหว่างชำระหนี้ 3.52 ล้านราย คิดเป็นเงิน 450,105 ล้านบาท อยู่ในช่วงปลอดหนี้ 1.06 ล้านราย คิดเป็นเงิน 121,818 ล้านบาท เสียชีวิตและทุพพลภาพ 67,332 ราย คิดเป็นเงิน 5,509 ล้านบาท
ปลัดกระทรวงการคลัง กลาวว่า ในช่วงโควิด 2 ปีที่ผ่านมา กยซ.ชะลอการฟ้องเด็กที่ทำผิดเงื่อนไขประมาณ 180,000 ราย แต่มีอยู่จำนวน 1,000 ราย ต้องยื่นฟ้อง เพราะจะหมดอายุความ โดยกรณีที่ไม่ฟ้องมีกระบวนการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระหนี้ ซึ่งล่าสุดเราออกมาตรการผ่อนชำระหนี้เดือนละ 10 บาท ก็สามารถทำได้ นอกจากนี้ กยศ.ได้ขยายมาตรการช่วยเหลือผู้กู้ยืมเงิน กยศ. สู้ภัยโควิดไปสิ้นสุด 31 ธ.ค. 2565 จากเดิมจะสิ้นสุด 30 มิ.ย.นี้ ประกอบด้วยลดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเหลือ 0.01% ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ ลดเงินต้น 5% สำหรับผู้กู้ยืมเงินทุกกลุ่มที่ชำระหนี้ปิดบัญชี ลดอัตราดอกเบี้ยปรับ 100% สำหรับกรณีชำระหนี้ปิดบัญชี ลดอัตราเบี้ยค่าปรับ 80% สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีที่ชำระหนี้ค้างทั้งหมดให้มีสถานะปกติ และ ลดอัตราการคิดเบี้ยปรับเหลือ 0.5% ต่อปี สำหรับผู้กู้ที่ไม่ถูกดำเนินคดี.