คนเชื่อระบบคลาวด์ไมโครซอฟท์มากสุด
สัตยา นาเดลลา ซีอีโอบริษัทไมโครซอฟท์ระบุว่า ความเชื่อถือของผู้บริโภคหนุนให้ระบบคลาวด์ของบริษัทอยู่เหนือคู่แข่งรายสำคัญอย่างอเมซอนและกูเกิล
“ความเชื่อถือของผู้บริโภค ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่ยังเชื่อในจรรยาบรรณเกี่ยวกับ AI ความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย ทุกอย่างประกอบกันหมด และที่สำคัญคือเชื่อในรูปแบบธุรกิจ” นาเดลลลากล่าวกับสื่อ CNBC ในการให้สัมภาษณ์ที่มีการออกอากาศเมื่อวันที่ 7 พ.ค.
รูปแบบธุรกิจหลักของบริษัทเทคโนโลยีอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างเคร่งครัดในช่วงไม่กี่สัปดาห์นี้ ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน และการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทที่เก็บรวบรวมข้อมูลผู้ใช้งานเป็นจำนวนมากอย่างเฟซบุ๊กและกูเกิลของอัลฟาเบท
โดยนาเดลลากล่าวว่า ไมโครซอฟท์ไม่มีเป้าหมายทางธุรกิจขนาดใหญ่บนแพลตฟอร์มของตัวเอง บริษัทยกระดับการเป็นสมาชิกเข้าใช้ข้อมูลด้วยการจำกัดธุรกิจที่ได้รับการสนับสนุนจากโฆษณาเพื่อช่วยให้ผู้บริโภคได้ประโยชน์มากขึ้นจากข้อมูล จากเวลาที่มากขึ้น
“ผมคิดว่าผู้คนกำลังให้คุณค่ากับข้อมูลของพวกเขา แม้ผู้บริโภครายบุคคลกำลังจะตื่นมาพบกับความจริงที่ว่า ไม่มีอะไรฟรี ไม่ใช่ผมจะบอกว่าไม่มีหรอกที่ใครจะพูดว่า ใช่ นี่เป็นการค้าที่ดี เมื่อผมกำลังจะใช้บริการฟรีเพื่อการแลกเปลี่ยนกับข้อมูล แต่ไม่มีอะไรฟรีหรอก”
ซีอีโอของไมโครซอฟท์ปักหมุดอเมซอนว่าเป็นคู่แข่งโดยตรงที่สุดสำหรับพื้นที่ในการทำธุรกิจระบบคลาวด์ของไมโครซอฟท์ โดยกูเกิลตามมาอยู่ในอันดับ 3 แบบไม่ทิ้งห่างกันนัก
บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งลงทุนจำนวนมากไปกับระบบคลาวด์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ รวมถึงที่เรียกว่า อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) และเครื่องมือที่ต้องการระบบคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่และความสามารถในการเก็บข้อมูล
นาเดลลากล่าวว่า กูเกิลและอเมซอนใช้รายได้จากโฆษณาและค้าปลีกไปกับการสนับสนุนธุรกิจระบบคลาวด์และการลงทุนอื่นๆ ซึ่งอาจตรงกันข้ามกับความสนใจของลูกค้าทางธุรกิจของพวกเขาก็เป็นได้
“ทั้งอเมซอนและกูเกิลต่างมีความยอดเยี่ยมที่สามารถสร้างธุรกรรมได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่า กูเกิลจะมีความเป็นมิตรกับผู้ค้าปลีกมากกว่า พวกเขาต่างมีตลาดสองด้านที่สามารถชดเชยกันเพื่อให้ได้เปรียบคนอื่น” ซีอีโอของไมโครซอฟท์กล่าว
นาเดลลามองว่าธุรกิจโฆษณานั้นยั่วยวนใจ โดยยิ่งมีการตั้งราคาสูง ยิ่งดึงดูดให้ผู้ค้าปลีกเข้ามาซื้อ
“ผมไม่เคยเห็นรูปแบบธุรกิจแบบนี้ ยิ่งมีความต้องการมาก ราคาก็ยิ่งสูงขึ้น ผมจึงรู้สึกเหมือนลูกค้าซึ่งต้องการเงินอุดหนุนในส่วนภาษีที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้น ควรคิดให้ถ่องแท้ว่า อะไรที่มันจะได้ผลในระยะยาว” เขากล่าวสรุป.