สรุปข่าวประจำวันที่ 1 มิถุนายน 2565
หุ้น ตปท.-ไทย : ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาด (31 พ.ค.) ลดลง 222.84 จุด (0.67%) ปิดที่ 32,990.12 จุด แนสแดค ลดลง 39.32 จุด (0.31%)ปิดที่ 12,642.10 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 26.09 จุด (0.63%) ปิดที่ 4,132.15 จุด ส่วนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ปิดตลาด(31 พ.ค.) ที่ระดับ 1,663.41จุด เพิ่มขึ้น 9.80 จุด (0.59 %) มูลค่าการซื้อขาย 97,262.99 ล้านบาท
น้ำมันโลก – ไทย : สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 40 เซนต์ ปิดที่ 114.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ซึ่งหมดอายุในวันอังคาร(31พ.ค.) เพิ่มขึ้น 1.17 ดอลลาร์ ปิดที่ 122.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตามส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 2 ดอลลาร์ ปิดที่ 115.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
PTT Station ปรับราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดขึ้น 0.80 บาทต่อลิตร เว้น E85 ปรับขึ้น 0.50 บาทต่อลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลทุกชนิดคงเดิม มีผล 1 มิ.ย.65 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป โดยราคาขายปลีกจะเป็นดังนี้ ULG = 52.06, GSH95 = 44.65, E20 = 43.54, GSH91 = 44.38, E85 = 37.24, พรีเมียม GSH95 = 50.14, HSD-B7 = 32.94, HSD-B10 = 32.94, HSD-B20 = 32.94, ดีเซลพรีเมียม B7 = 44.36 บาทต่อลิตร โดยราคาขายปลีกข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงกรุงเทพมหานคร ขณะที่ บางจากฯ แจ้งปรับราคาน้ำมันเฉพาะกลุ่มแก๊สโซฮอล์ทุกชนิด +80 ส.ต. ยกเว้น E85 +50 ส.ต. สำหรับผลิตภัณฑ์ดีเซลราคาคงเดิม
PTT Station และบางจาก ปรับราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มดีเซลทุกชนิดขึ้น 1.00 บาทต่อลิตร เว้นดีเซลพรีเมียม ปรับขึ้น 2.00 บาทต่อลิตร ส่วนกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดคงเดิม มีผล 31 พ.ค.65 เวลา 05.00 น.เป็นต้นไป โดยราคาขายปลีกจะเป็นดังนี้ ULG (เฉพาะ PTT Station) = 51.26, GSH95 = 43.85, E20 = 42.74, GSH91 = 43.58, E85 = 36.74, พรีเมียม GSH95 = 49.34, HSD-B7 = 32.94, HSD-B10 = 32.94, HSD-B20 = 32.94, ดีเซลพรีเมียม B7 = 44.36 บาทต่อลิตร โดยราคาขายปลีกข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงกรุงเทพมหานคร
ทองคำคงที่ : ราคาทองคำเมื่อวันที่ 31 พ.ค. ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 29,900.00 ขายออกบาทละ 30,000.00 ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 29,364.92 ขายออกบาทละ 30,500.00 บาท ราคาทองคงที่ 150 เมื่อเทียบกับวันที่ 30 พ.ค.
เงินบาทอ่อนค่าลง : สำหรับค่าเงินบาทเทียบเงินสกุลโลก วานนี้ (31 พ.ค.) อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับวันที่ 30 พ.ค.โดยธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารพาณิชย์ โดยให้เงินบาทมีค่า 34.189 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่แบงก์พาณิชย์ กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยที่ใช้ซื้อขายกับลูกค้า โดยกำหนดค่าเงินบาทไว้ที่ 34.3568 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ, 43.5585 บาทต่อ 1 ปอนด์, 37.0922 บาทต่อ 1 ยูโร, 27.0656 บาท ต่อ 100 เยน, 4.3975 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ฮ่องกง ,กำหนดค่าเงินบาทที่ 25.2467 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ และ 7.9222 ต่อ 1 ริงกิตมาเลเซีย
1 มิ.ย. บังคับใช้ PDPA :
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจเเละสังคม เผยว่า วันที่ 1 มิ.ย. 2565 นี้ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจะมีผลบังคับใช้ เป็นกฎหมายที่คุ้มครองสิทธิของประชาชน ดูแลประชาชนในเรื่องข้อมูลข่าวสาร ไม่ใช่กฎหมายที่มุ่งจะไปเอาผิดหรือลงโทษใคร ดังนั้น ไม่ต้องวิตกกังวล เพียงแต่ว่าถ้าข้อมูลมีการรั่วไหล มีการนำไปใช้ที่ไม่ถูกต้อง เจ้าของข้อมูลสามารถร้องเรียนได้ตามกฎหมาย และสามารถดำเนินคดีเอาผิดกับบุคคลที่นำข้อมูลไปใช้โดยไม่รับอนุญาต ดังนั้น ข้อมูลส่วนตัวจะได้รับความคุ้มครอง และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทุกคนแน่นอน
กกต. รับรอง ชัชชาติ :
ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) อย่างเป็นทางการ หลังได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงกว่า 1.38 ล้านคะแนน เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ มีการรับรองตำแหน่งของชัชชาติ และ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) อีก 5 คนที่เหลือหลังจากเมื่อวานประกาศรับรอง ส.ก. ไปแล้ว 40 เขต
นายกเล็กพัทยา ยังไม่รับรอง ปม บัตรเขย่ง:
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาเมืองพัทยา 24 คน จาก 4 เขต ส่วนนายกเมืองพัทยา ซึ่งนายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ ผู้สมัครจากกลุ่มเรารักพัทยา ซึ่งได้รับคะแนนสูงสุด ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม จึงยังไม่ประกาศรับรองผล ทั้งนี้ สำหรับผลการเลือกตั้ง นายกเมืองพัทยานั้น ผู้สมัครหมายเลข 1 นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ จากกลุ่มเรารักพัทยา เป็นที่ 1 ด้วยคะแนน 14,590 คะแนน
นายกฯ ย้อนใครทำจำนำข้าวขาดทุน:
ที่รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงในวาระการอภิปรายร่างงบประมาณประจำปี 2566 ในตอนหนึ่งถึงงบการเกษตร ว่า “ถ้าพูดเรื่องข้าวที่พูดว่างบวันนี้เป็นงบในอดีตไม่ใช่อนาคต ตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา โครงการจำนำข้าว ขาดทุนกว่า 9.5 แสนล้านบาท รัฐบาลนี้ตั้งงบชำระหนี้ไปแล้ว 7.8 แสนล้านบาท คงเหลือเงินต้น และดอกเบี้ยอีก 3 แสนล้านบาท เงินตรงนี้ถ้าอยู่เอามาทำอะไรได้อีกเยอะ ถามว่าใครทำเอาไว้ ผมก็ไม่อยากจะพูด ไม่อยากจะย้อนกลับ”