สอบลูกเขยทรัมป์คุยตปท.ส่งผลนโยบายสหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่สอบสวนกลางสหรัฐฯ กำลังสอบสวนกรณีการพูดคุยธุรกิจกับต่างประเทศของนายจาเร็ด คุชเนอร์ ในช่วงที่มีการคาดการณ์ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ พ่อตาของเขาจะได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี ซึ่งต่อมาส่งผลกระทบต่อนโยบายของทำเนียบขาว อ้างอิงจากรายงานของสำนักข่าว NBC เมื่อวันที่ 2 มี.ค.
Robert Mueller ที่ปรึกษาพิเศษได้สอบถามพยานเกี่ยวกับความพยายามของนายคุชเนอร์ที่จะปกป้องสถานะทางการเงินสำหรับการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัวของเขา โดยมุ่งเน้นเป็นพิเศษที่การพูดคุยของเขากับบุคคลจากต่างประเทศ ทั้งกาตาร์ ตุรกี รวมทั้งรัสเซีย จีนและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สำนักข่าว NBC รายงาน
โดยทางสื่อ NBC รายงานโดยอ้างอิงจากแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับการสอบสวนของ Mueller รวมถึงพยานซึ่งถูกสอบสวนจากคณะทำงานของ Mueller โดยที่ปรึกษาพิเศษกำลังสอบสวนในกรณีที่รัสเซียมีส่วนแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปี 2559 และมีการสมรู้ร่วมคิดกับแคมเปญการหาเสียงเลือกตั้งของประธานาธิบดีทรัมป์
ทั้งนี้ Peter Carr โฆษกของสำนักงานของ Mueller ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับรายงานข่าวนี้ ขณะที่ Abbe Lowell โฆษกของทนายของคุชเนอร์กล่าวว่า รายงานนี้ก่อให้เกิดความเสียหาย เนื่องจากแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยนามให้ข้อมูลผิดๆ และชี้นำสื่อ
“ บทบาทของคุชเนอร์ในแคมเปญและการเชื่อมโยงคือ การเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดที่จะทำหน้าที่ในการทำสัญญากับบุคคลจากต่างประเทศ และเขาไม่ได้รวมตัวเขา หรือธุรกิจเดิมของเขาเข้าไปในสัญญาเหล่านั้นด้วย” Peter Mirijanian โฆษกระบุในแถลงการณ์” การกล่าวอ้างใดๆเหล่านั้นเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง”
ทั้งนี้ ทางการรัสเซียปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนในการแทรกแซงการเลือกตั้งของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่าไม่มีการสมรู้ร่วมคิดใดๆ ระหว่างเขากับทางรัสเซีย
บริษัทของคุชเนอร์ ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวคุชเนอร์ มีการติดต่อกับกาตาร์หลายครั้ง รวมทั้งในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2560 เกี่ยวกับการลงทุนในธุรกิจเรือธงที่กำลังมีปัญหา ซึ่งตั้งอยู่ที่ 666 ฟิฟธ์อเวนู ในนครนิวยอร์ก แต่กองทุนความมั่งคั่งแห่งกาตาร์ปฏิเสธ สื่อ NBC รายงาน อ้างอิงจากแหล่งข่าวสองคนที่เกี่ยวข้องกับการพูดคุยในครั้งนั้น
คณะทำงานของ Mueller ยังได้แสดงความสนใจในการประชุมที่คุชเนอร์จัดขึ้นที่อาคารทรัมป์ทาวเวอร์ในเดือนธ.ค.ปี 2559 กับอดีตนายกรัฐมนตรีฮามัด บิน จัสซิม บิน จาเบอร์ อัล ทานีของกาตาร์ อ้างอิงจากแหล่งข่าวที่ร่วมอยู่ในการประชุม
บริษัทของคุชเนอร์กำลังประสบกับปัญหาหนี้สินจำนวนมากถึง 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 44,310 ล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนดในปี 2562 การเจรจาพูดคุยกับทางกาตาร์เกี่ยวกับการลงทุนยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องหลังจากคุชเนอร์เข้ามาทำงานในทำเนียบขาว และต้องสละสิทธิ์ออกจากตำแหน่งผู้บริหารในธุรกิจของเขา
หลังจากการเจรจาระหว่างกาตาร์และบริษัทคุชเนอร์ล้มเหลว ทำเนียบขาวให้การสนับสนุนซาอุดิอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อย่างแข็งขันในการปิดล้อมกาตาร์ โดยกล่าวหาว่ากาตาร์ให้การสนับสนุนการก่อการร้าย โดยคุชเนอร์มีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายตะวันออกกลางของสหรัฐฯ
สื่อวอชิงตันโพสต์รายงานเมื่อต้นสัปดาห์ว่า เจ้าหน้าที่จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จีน อิสราเอล และเม็กซิโกมีการพูดคุยกันอย่างลับๆเกี่ยวกับวิธีการที่จะจัดการและควบคุมคุชเนอร์ โดยการใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนในการบริหารธุรกิจ ปัญหาทางการเงิน และการขาดประสบการณ์ในนโยบายต่างประเทศของเขา ทั้งนี้ วอชิงตันโพสต์รายงานโดยอ้างถึงเจ้าหน้าที่สหรัฐฯที่ไม่เปิดเผยนามที่เกี่ยวข้องกับรายงาน FBI ในประเด็นนี้
ไม่กี่สัปดาห์นี้ คุชเนอร์เพิ่งถูกตัดสิทธิ์และลดระดับการเข้าถึงข้อมูล ทำให้เขาไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลระดับสูงสุดของ FBI ได้อีก หลังจากเขาปฏิบัติหน้าที่ในทำเนียบขาวและได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลลับเป็นการชั่วคราวมานานถึงหนึ่งปี.