ผู้นำอินโดหนุนลงทุนเพิ่มในประเทศ
เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ประธานาธิบดีโจโค วิโดโดแห่งอินโดนีเซียแถลงเร่งผลักดันให้บริษัทของอินโดนีเซียใช้ความได้เปรียบของสินทรัพย์ในตลาดประเทศเกิดใหม่และลงทุนเพิ่มในตลาดหุ้นในประเทศ
โดยเมื่อตลาดเปิดซื้อขายหุ้นอีกครั้ง หลังจากวันหยุดยาวช่วงวันชาติไปนานกว่าสัปดาห์ ดัชนีจาการ์ตาคอมโพสิท (JCI) ปรับเพิ่มขึ้น 1.4% เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 5,910.237 จุด ส่งสัญญาณว่า อินโดนีเซียมีโอกาสที่ดีในการลงทุน อ้างอิงจากคำพูดของผู้นำอินโดนีเซียที่บอกกับผู้บริหารอุตสาหกรรมการเงินในระหว่างการเยือนตลาดหุ้นในกรุงจาการ์ตาถึงแม้ดัชนี JCI จะปรับลดลง 0.8% เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ก็ตาม
หุ้นของประเทศตลาดเกิดใหม่ทำกำไรจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดัชนี MSCI ของตลาดเกิดใหม่พุ่งขึ้น 17% ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ขณะที่ JCI เพิ่มขึ้น 17% ในช่วงเวลาเดียวกัน
ประธานาธิบดีวิโดโดต้องการเก็บเกี่ยวความได้เปรียบจากเงินทุนที่ไหลเข้าและส่งเสริมตลาดหุ้นในประเทศ โดยมูลค่าเงินลงทุนของตลาดโดยรวมอยู่ที่ประมาณ 480,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งคิดเป็นน้อยกว่าครึ่งของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพี อ้างอิงจากข้อมูลของธนาคารโลก ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศไทย มาเลเซียและสิงคโปร์ สัดส่วนเงินทุนคิดเป็นมากกว่า 100% ของจีดีพี
บริษัทอินโดนีเซียส่วนใหญ่เข้าตลาดหุ้นที่มีความยืดหยุ่นมากกว่า เช่น สิงคโปร์และฮ่องกง ซึ่งอนุญาตให้มีการลงทุนในสกุลเงินที่ผันผวนน้อยกว่า ตัวอย่างเช่น Sinar Mas Group บริษัทผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่ของอินโดนีเซีย นำบริษัทน้ำมันปาล์มเข้าตลาดหุ้นในสิงคโปร์ ถึงแม้จะมีบริษัทในตลาดหุ้นที่อินโดนีเซียด้วยก็ตาม
ผู้นำอินโดนีเซียกล่าวว่า เขาค่อนข้างผิดหวังที่บริษัทของอินโดนีเซียเลือกที่จะนำบริษัทเข้าตลาดหุ้นของประเทศอื่น โดยเขาเสริมว่า เขาจะโทรศัพท์หาบริษัทเหล่านี้ทีละบริษัทเพื่อเชิญชวนให้เปลี่ยนมานำบริษัทเข้าตลาดหุ้นในประเทศอินโดนีเซียเอง โดยส่วนใหญ่บริษัทเหล่านี้ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมเหมืองแร่และน้ำมัน
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีวิโดโดกำลังมองหาวิธีที่จะดึงเงินทุนกลับคืนประเทศให้มากขึ้น โดยเขาผลักดันแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องการเงินลงทุนมากกว่า 400,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในวาระการทำงาน 5 ปีของเขา ในปี 2559 รัฐบาลอินโดนีเซียออกกฎหมายนิรโทษกรรมภาษีที่ทำให้พลเมืองและบริษัทแจ้งบัญชีทรัพย์สินที่ซุกซ่อนเอาไว้ก่อนหน้านี้ทั้งในและนอกประเทศเพื่อให้จ่ายค่าปรับน้อยที่สุด
ทั้งนี้ หนึ่งในความกังวลของนักธุรกิจอินโดนีเซียคือทิศทางการเมืองและความขัดแย้งที่เกิดจากอดีตผู้ว่าการกรุงจาการ์ตาบาสุกิ จาฮาจา ปุรนามา ซึ่งเป็นพันธมิตรคนสำคัญของประธานาธิบดีวิโดโด เขาถูกตัดสินจำคุกในเดือนพ.ค.ในข้อหาดูหมิ่นศาสนาอิสลาม โดยในปีหน้าจะมีการเลือกตั้งบนเกาะชวาซึ่งผลการเลือกตั้งจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะไขไปสู่การเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนเม.ย. ปี 2562