ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 11-12 มี.ค.2565
การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.จะมีขึ้นอย่างแน่นภายในเดือนพฤษภาคมนี้ แต่คะแนนนิยมของ ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ กลับตกลงอย่างน่าตกใจ
เรื่องที่ 901 ผลสำรวจของ “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยเมื่อวันที่ 6 มี.ค. สำรวจเรื่อง “อยากได้ใคร เป็นผู้ว่าฯ กทม. ครั้งที่ 11” พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 38.01 เป็น ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
อันดับ 2 ร้อยละ 13.40 ระบุว่า ยังไม่ตัดสินใจ อันดับ 3 ร้อยละ 11.73 ระบุว่าเป็น พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง
อันดับ 4 ร้อยละ 8.83 ระบุว่าเป็น ดร.วิโรจน์ ลักขณาอดิศร (พรรคก้าวไกล)
ส่วน ดร.เอ้ มาเป็น อันดับ 5 ร้อยละ 8.61 ขณะที่ผู้สมัครคนอื่นๆเช่น น.ส.รสนา โตสิตระกูล อยู่อันดับ 8 ร้อยละ 3.73 นายสกลธี ภัททิยกุล ร้อยละ 2.74
เมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจอยากได้ใครเป็นผู้ว่าฯ กทม. ครั้งที่ 10 เดือน ก.พ. 2565 พบว่า ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ มีสัดส่วนลดลง ในขณะผู้ที่ระบุว่า ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ดร.วิโรจน์ ลักขณาอดิศและ น.ส.รสนา โตสิตระกูล มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น
แต่อย่าลืมว่า ผลสำรวจนี้ออกมาก่อนที่ ‘สกลธี’ จะประกาศลงผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งไม่แน่นอน หากเปิดตัว ‘สกลธี’ อย่างเป็นทางการ คะแนนนิยมของ ดร.เอ้ อาจตกกว่านี้ก็ได้
เรื่องที่ 902 ถือว่าไม่ผิดไปจากที่คาดสำหรับงานแถลงข่าวเรื่องสถานการณ์พลังงานจากกระทรวงย่านถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งขนทีมอเวนเจอร์ของกระทรวง ผู้บริหารแต่ละองค์กรมาครบทีม นำทัพโดย “พี่พงษ์ สุพัฒนพงษ์ พันะมีเชาวน์” ท่านรองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ,พี่กบ กุลิศ สมบัติศิริ” ปลัดกระทรวง ,”พี่โด่ง อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์” ซีอีโอแห่งปี ของ ปตท. ,”พี่สิงห์ บุญนิตย์ วงศ์รักมิตร” ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. และอีกหลายท่าน แต่ประเด็นที่ได้กลับจุ๋มจิ้มเสียเหลือเกิน เหมือนเอาหนังเก่ามาฉายซ้ำกับนโยบายเดิมๆที่เคยพูดไปหลายรอบ ไม่ได้มีมาตรการอะไรที่เป็นรูปธรรมในการช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเดือดร้อน ยังดีที่รู้ตัวล่วงหน้า และเตรียมใจไปก่อนแล้วที่จะฟัง ขออุญาติถอนหายใจยาวๆสำหรับพี่น้องชาวไทย “เฮ้อออออออ”
เรื่องที่ 903 ส่วนประเด็นที่ได้นอกจากจะไม่ช่วยอะไรประชาชนแล้ว ยังเสมือนเป็นการซ้ำเติมประชาชนในยุคข้าวยากหมากแพงแบบนี้อีกด้วย เพราะพี่พงษ์บอกค่อนข้างชัดเจนว่าเดือนเมษายน หลังจากที่สิ้นสุดมาตรการตรึงราคาก๊าซหุงต้มครัวเรือนที่ราคา 318 ต่อถัง 15 กิโลกกรัม (กก.) แล้วในสิ้นเดือนมีนาคม จะมีการปรับราคาขึ้นแน่นอนถึงละ 15 บาท หรือ 1 บาทต่อ กก. ฟังแถลงข่าวไป จดไปถึงกับน้ำตาตกในกันเลยทีเดียว ส่วนราคาน้ำมันดีเซลก็จะพยายามตรึงที่ราคา 30 บาทให้ได้นานที่สุด จนกว่าเงิน 40,000 ล้านบาทจะหมด ส่วนถ้าหมดแล้วจะทำอย่างไรต่อ คำตอบที่ได้ก็แสนเจ็บปวดว่า ก็ได้แต่รอ ช่วงนี้ก็ต้องขอให้ช่วยกันประหยัด แล้วก็มาพร้อมกับประโยคที่เล่นเอาสตั๊นกันไปทั้งบางว่า “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน” ขออนุญาติถอนหายใจยาวๆอีกสักรอบละกันนะครับผม “เฮ้ออออออออออ”
โดยนพวัชร์