ทรัมป์ประกาศเกาหลีเหนือหนุนก่อการร้าย
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯประกาศว่า สหรัฐฯ ได้พิจารณาขึ้นบัญชีเกาหลีเหนือให้เป็นประเทศที่สนับสนุนการก่อการร้ายอีกครั้ง หลังจากถูกถอดออกจากบัญชีรายชื่อประเทศที่ให้การสนับสนุนการก่อการร้ายมาแล้วเมื่อ 9 ปีก่อน
ในการประชุมคณะรัฐมนตรี เขากล่าวว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้จะเป็นการเริ่มต้นการคว่ำบาตรครั้งใหญ่ที่จะมีการประกาศตามมาอีกครั้งในวันที่ 21 พ.ย. แต่นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ยอมรับในเวลาต่อมาว่า ผลกระทบจากเรื่องนี้อาจมีขีดจำกัด
ประธานาธิบดีทรัมป์อ้างถึงโครงการสะสมอาวุธนิวเคลียร์ และการสนับสนุนในสิ่งที่เขาเรียกว่า เป็นการก่อการร้ายระหว่างประเทศ ขณะที่ประกาศการตัดสินใจที่ทำเนียบขาว ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า สิ่งนี้ควรจะเกิดขึ้นตั้งนานแล้ว
ในเดือนก.ย.สหรัฐฯเสนอให้สหประชาชาติมีมาตรการคว่ำบาตรกับเกาหลีเหนือ ทั้งห้ามการค้าน้ำมันและแช่แข็งทรัพย์สินของประธานาธิบดีคิมจองอึน โดยมติคว่ำบาตรมีขึ้นหลังจากเกาหลีเหนือทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 และมีการยิงทดสอบขีปนาวุธซ้ำอีก
การประกาศของสหรัฐฯครั้งนี้ ทำให้เกาหลีเหนือไปรวมกับอิหร่าน ซูดาน และซีเรียในบัญชีรายชื่อประเทศที่ให้การสนับสนุนการก่อการร้ายระหว่างประเทศของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ เกาหลีเหนือเคยอยู่ในรายชื่อนี้มาก่อนที่จะถูกถอดออกจากรายชื่อในปี 2551 ในสมัยอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาในประเด็นอาวุธนิวเคลียร์กับเกาหลีเหนือในช่วงเวลานั้น
มีการหยิบยกนำประเด็นนี้มาบังคับใช้อีกครั้งหลังจาก Otto Warmbier นักศึกษาชาวอเมริกันเสียชีวิตที่สหรัฐฯ ไม่นานหลังจากถูกปล่อยตัวกลับจากเกาหลีเหนือ
โดยรัฐมนตรีต่างประเทศทิลเลอร์สันกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่า การจัดให้เกาหลีเหนืออยู่ในกลุ่มประเทศที่ให้การสนับสนุนการก่อการร้าย เนื่องจากเกาหลีเหนือมีการลอบสังหารที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตนอกประเทศ และใช้อาวุธเคมีที่ถูกห้ามใช้ ซึ่งอาจส่งผลด้านลบ และห้ามปรามบุคคลที่ 3 ไม่ให้มีกิจกรรมความเคลื่อนไหวกับเกาหลีเหนือ
“การบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรอาจมีจำกัด แต่หวังว่าเรากำลังปิดวงจรที่เชื่อมต่อกับเกาหลีเหนือได้” เขากล่าว
ประธานาธิบดีคิมจองอึนเปิดเผยถึงแผนของเกาหลีเหนือในการพัฒนาประสิทธิภาพของขีปนาวุธที่สามารถยิงได้ไกลไปถึงพื้นที่ของสหรัฐฯ และอ้างว่าได้พัฒนาระเบิดไฮโดรเจนด้วย
ในเดือนต.ค. เจมส์ แมททิส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า ภัยคุกคามของอาวุธนิวเคลียร์จากเกาหลีเหนือกำลังเพิ่มขึ้น
การประกาศเมื่อวันที่ 20 พ.ย.มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีทรัมป์เดินทางกลับจากปฏิบัติภารกิจเยือน 5 ชาติในเอเชียเสร็จสิ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว.