อเมซอนและอัลฟาเบทรายได้พุ่ง
บริษัทยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีอย่างอเมซอนและอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิลโพสต์รายงานยอดขายที่พู่งทะยานในไตรมาสล่าสุด
หุ้นของอัลฟาเบทพุ่งขึ้นเป็นกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯในการซื้อขายไม่กี่ชั่วโมงหลังจากบริษัทรายงานยอดขายที่เพิ่มขึ้นถึง 24% เป็น 27,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 930,466 ล้านบาท
ขณะที่อเมซอนซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่อี-คอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในโลกมียอดขายเพิ่มถึง 34% มาอยู่ที่ 43,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.46 ล้านล้านบาท เกือบเท่าขนาดเศรษฐกิจของประเทศสโลวีเนียในปีก่อน
กำไรของอัลฟาเบทในไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. เพิ่มขึ้นเป็น 7,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากเดิมคือ 5,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
Ruth Porat ประธานบริหารฝ่ายการเงินของบริษัทระบุว่า บริษัทมีความยินดีกับยอดขายเป็นอย่างมาก
“ เรามีไตรมาสที่ยอดเยี่ยม ด้วยรายได้ที่เพิ่มขึ้นถึง 24% เมื่อเทียบกับปีก่อน สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของกูเกิลและ Other Bets โมเมนตัมของเราเป็นผลมาจากการลงทุนในรอบหลายปีกับผู้คนที่ยอดเยี่ยมทั้งในกูเกิลและ Other Bets”
โดยกูเกิลยังคงเป็นแหล่งรายได้ส่วนใหญ่ของอัลฟาเบท อย่างไรก็ตาม Oher Bets ทั้ง Waymo ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไร้คนขับ และ Project Loon ซึ่งเป็นธุรกิจอินเทอร์เน็ตไร้สายผ่านบอลลูน มีรายได้เพิ่มขึ้นและขาดทุนลดลง โดยรายได้ของ Other Bets เพิ่มขึ้นเป็น 302 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากเดิม 197 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปีก่อน
นายสุนทร พิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกูเกิลระบุในการประชุมทางไกลว่า ยูทูบยังมีปรากฏการณ์ในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยยอดผู้ใช้งานมากกว่า 1,500 ล้านคน ที่ใช้งานเฉลี่ย 1 ชั่วโมงต่อวันด้วยการดูวีดีโอของยูทูบบนสมาร์ทโฟนและจอโทรทัศน์ที่บ้าน
ถึงแม้อเมซอนจะมียอดขายที่เติบโต แต่กำไรของบริษัทไม่ได้โตตามไปด้วยเนื่องจากบริษัทลงทุนจำนวนมากไปกับอุปกรณ์เทคโนโลยี วีดีโอสตรีมมิง ศูนย์ข้อมูลและคลังสินค้าเพื่อสนับสนุนการเติบโตของอาณาจักรอเมซอน
บริษัทระบุว่า กำไรในไตรมาสสิ้นสุดเดือนก.ย.อยู่ที่ 256 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากเดิม 252 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปี 2559
บริษัทระบุว่า ธุรกิจ Whole Foods ซึ่งอเมซอนซื้อมาในเดือนส.ค.ทำรายได้จากยอดขาย 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในไตรมาสล่าสุด และหากไม่รวม Whole Foods ยอดขายของบริษัทเพิ่มขึ้น 29%
โดยยอดขายเติบโต 35% ในอเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นแหล่งรายได้สำคัญของธุรกิจของอเมซอน ในขณะที่ธุรกิจในต่างประเทศเติบโต 29%
ทั้งนี้ บริษัทยังเผยว่า มีพนักงานประจำและพาร์ทไทม์เกือบ 542,000 คน รวมทั้งพนักงานใน Whole Foods และยังคงมองหาวิธีที่จะขยายกิจการเพิ่มเติมอีก.