บริษัทสหรัฐฯเห็นโอกาสธุรกิจในลาว
นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ กล่าวว่า ลาวมีโอกาสที่ดีสำหรับบริษัทของสหรัฐฯ ในด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน
โดยนายรอสส์ได้แสดงความเห็นนี้ในระหว่างการเยือนเวียงจันทน์อย่างเป็นทางการเป็นเวลา 1 วันเมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเชื่อว่าเป็นการเยือนประเทศลาวครั้งแรกของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ
การเยือนลาวในครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยรัฐมนตรีรอสส์กล่าวว่า บริษัทอเมริกันต้องการที่จะมาทำธุรกิจในลาวมากขึ้น
เขาระบุว่า สินค้าและบริการทางธุรกิจที่มีคุณภาพในระดับโลกของสหรัฐฯ และความต้องการที่จะขยายมาที่ลาว จะเป็นการช่วยพัฒนาประเทศและขับเคลื่อนให้ลาวเป็นแหล่งพลังงานสำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นอกจากนี้ ในวันเดียวกันนั้น รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ และรัฐมนตรีอาวุโสของลาวได้ไปเป็นพยานในการลงนามข้อตกลงระหว่างบริษัท Convalt Energy และ General Electric เพื่อพัฒนาโครงการโซลาร์เซลล์มูลค่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในแขวงบอลิคำไซและแขวงอัตตะปือ ด้วยศักยภาพในการผลิตไฟฟ้า 300 ล้านวัตต์
หากโครงการสำเร็จลุล่วง โรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ทั้งสองแห่ง (50 ล้านวัตต์ในบอลิคำไซและ 250 ล้านวัตต์ในอัตตะปือ) จะสามารถกระจายการลงทุนขนาดใหญ่ในลาวโดยบริษัทอเมริกัน
นายสินนะสอน บูลม หัวหน้าผู้แทนประเทศของ GE ในลาว ให้สัมภาษณ์สื่อเวียงจันทน์ไทม์เมื่อวันที่ 29 ก.ย.ว่า บริษัทกำลังจะพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในบอลิคำไซและอัตตะปือ โดยบริษัทสนใจในสองแขวงนี้จากการประเมินค่ารังสีจากแสงแดดที่สูงที่สุดในลาว
โดยเขากล่าวว่า บริษัท GE ทำโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ทั่วโลก และกำลังจะทำโครงการแบบเดียวกันนี้ที่เมียนมา
เขามองว่า มีศักยภาพและโอกาสอีกมากในลาว โดยเฉพาะในภาคส่วนพลังงาน บริษัทต้องการที่จะทำงานร่วมกับบริษัทของลาวเพื่อพัฒนาโรงไฟฟ้าถ่านหินและโรงไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ บริษัทต้องการจะเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ด้านพลังงานของประเทศลาว
นักเศรษฐศาสตร์มองว่า บริษัทต่างชาติสนใจที่จะลงทุนในลาว เพราะที่ตั้งของลาวที่เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค และเป็นสมาชิกของกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งเป็นตลาดที่มีประชากรมากกว่า 600 ล้านคน บริษัทพวกนี้จึงตั้งใจจะเปิดโรงงานในลาวเพื่อส่งออกสินค้าไปยังภูมิภาคอาเซียน
ทั้งนี้ กลุ่มประเทศอาเซียนเป็นคู่ค้าอันดับที่ 4 ของสหรัฐฯ มูลค่าการลงทุนของสหรัฐฯ ในอาเซียนมากกว่าการลง
ทุนของสหรัฐฯ ในจีนและอินเดียรวมกัน โดยในปี 2557 มีมูลค่าการลงทุนสูงถึง 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (453,890 ล้านบาท) หรือ 10% ของมูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศโดยรวมของอาเซียน.