ซีอีโอเฟซบุ๊กโต้ไม่อคติทรัมป์
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งและซีอีโอเฟซบุ๊กเมินความเห็นของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯที่ว่าเฟซบุ๊กลำเอียงมีอคติกับเขา
โดยผู้นำสหรัฐฯกล่าวหาว่า โซเชียลเน็ตเวิร์กยักษ์ใหญ่ที่ทรงอิทธิพลแห่งนี้รวมทั้งทวิตเตอร์ มีท่าทีที่ต่อต้านเขา ประธานาธิบดีทรัมป์ยังได้กล่าวหาสื่ออื่นด้วยคือ นิวยอร์กไทมส์ และวอชิงตัน โพสต์
เฟซบุ๊กจะส่งมอบโฆษณาทางการเมือง 3,000 ชิ้นให้กับคณะกรรมาธิการสอบสวนของสภาคองเกรสเพื่อตรวจสอบข้อกล่าวหาที่ว่า รัสเซียมีการแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเมื่อปีที่แล้ว โดยทางเฟซบุ๊กเชื่อว่า มีความเป็นไปได้ที่ฝ่ายรัสเซียเป็นผู้ซื้อโฆษณาเหล่านี้ในช่วงระหว่างและหลังการเลือกตั้ง
เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และกูเกิลถูกคณะกรรมมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภาสหรัฐฯ ร้องขอให้เข้าให้ปากคำเกี่ยวกับการแทรกแซงการเลือกตั้งของรัสเซียในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ทางเฟซบุุ๊กและกูเกิลยืนยันว่าได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมในการไต่สวน แต่ยังไม่มีรายใดที่ระบุว่าจะเข้าร่วมในวันนั้น
จากท่าทีของเฟซบุ๊กที่มีต่อคำวิจารณ์ของประธานาธิบดีทรัมป์ ซีอีโอมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์กกล่าวว่า เขามุ่งมั่นที่จะทำให้แพลตฟอร์มนี้เป็นที่รวมของทุกความคิด โดยนอกจากโฆษณาที่สร้างปัญหาแล้ว เฟซบุ๊กยังได้สร้างแรงกระเพื่อมให้ผู้คนตระหนักถึงสิทธิในการออกเสียง สนับสนุนผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งให้สื่อสารถึงประชาชนได้โดยตรง และช่วยให้คนหลายล้านคนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
เขาชี้ว่า ขั้วการเมืองทั้งสองฝ่ายต่างไม่พอใจกับคอนเทนต์ที่พวกเขาไม่ชอบ โดยฝ่ายลิเบอรัลในสหรัฐฯก็กล่าวหาเขาว่ามีส่วนช่วยให้ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง
เขากล่าวว่า ผู้สมัครรับเลือกตั้งใช้เงินไปกับโฆษณาออนไลน์เพื่อการเลือกตั้งหลายร้อยล้านชิ้น ซึ่งเขาระบุว่า มีจำนวนมากกว่าโฆษณาที่สร้างปัญหาที่เขาพบเป็นพันเท่า
ซีอีโอหนุ่มวัย 33 ปีระบุว่า เขารู้สึกเสียใจในวันที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งและมีข่าวบ้าๆแพร่กระจายไปว่า ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องบนเฟซบุ๊กเปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้ง เพราะมันไม่ใช่เลย
เขาสัญญาว่าเฟซบุ๊กจะสร้างชุมชนเพื่อทุกคนต่อไป และจะป้องกันความพยายามจากชาติใดๆ ที่จะเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จและล้มล้างการเลือกตั้ง
ทั้งนี้ หลังจากเขาโพสต์ข้อความนี้ไม่ถึงสองชั่วโมง ก็มีคนมากดถูกใจให้กับเขาถึง 65,000 ครั้ง
รัสเซียปฏิเสธมาตลอดว่าไม่ได้เข้ามาแทรกแซงกระบวนการเลือกตั้งของสหรัฐฯ และทางทรัมป์เองก็วิพากษ์ข้อกล่าวหาที่ว่า คณะทำงานของมีการพบปะพูดคุยกับทางรัสเซียอย่างไม่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ ได้รวบรวมหลักฐานที่สนับสนุนว่ารัสเซียพยายามจะเปลี่ยนผลโหวตของทรัมป์ โดยคณะกรรมาธิการวุฒิสภาและ เอฟบีไอกำลังพิจารณาตรวจสอบในประเด็นนี้ทั้งหมด.