ผู้ลี้ภัยมาราวีเสียชีวิตและป่วย
การสู้รบระหว่างฝ่ายรัฐบาลฟิลิปปินส์กับกลุ่มติดอาวุธในเมืองมาราวี ทางตอนใต้ของประเทศกินเวลานานถึง 4 สัปดาห์แล้ว ประชาชนที่อพยพหนีภัยสงครามเริ่มเสียชีวิตจากความแออัดและขาดสุขอนามัยในศูนย์ผู้อพยพ อ้างอิงจากเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข
โดยนายอาลินาเดอร์ มินาลัง ผู้อำนวยการฝ่ายสาธารณสุขประจำจังหวัดลาเนา เดล ซูร์ รายงานว่า มีผู้อพยพอย่างน้อย 19 รายต้องเสียชีวิตในศูนย์ผู้ลี้ภัย นับตั้งแต่มีการสู้รบเพื่อยึดคืนพื้นที่เมืองมาราวีจากกลุ่มก่อการร้ายจากรัฐอิสลาม
เขารายงานว่า มีผู้ที่ติดเชื้อและมีอาการท้องร่วงมากถึง 300 รายจากจำนวนผู้ลี้ภัยทั้งหมดเกือบ 40,000 คนในที่พักฉุกเฉินที่จัดตั้งขึ้นทั้งในศาลากลางเมือง สนามกีฬา และโรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม
ทั้งนี้ ผู้ที่เสียชีวิตหลายรายเป็นผู้สูงอายุ และบางรายมีอาการเจ็บป่วยอยู่ก่อนแล้ว แต่มีอย่างน้อย 2 รายที่เสียชีวิตจากอาการท้องร่วง
“ สาเหตุของอาการท้องร่วงคือการขาดสุขอนามัยและแหล่งน้ำดื่มสะอาด ” นายมินาลังกล่าว
โดยในศูนย์ผู้อพยพ หลายครอบครัวประมาณ 12 คนต้องนอนรวมกันบนพื้นคอนกรีต และบางแห่งผู้อพยพหลายร้อยคนต้องใช้ห้องน้ำร่วมกันเพียงห้องเดียว
“ ดิฉันคงเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลก ถ้าได้กลับบ้าน ” ซาเลมา แอมปาซอง หญิงวัย 28 ปีที่ต้องอาศัยอยู่รวมกับผู้อพยพอีกกว่า 1,000 คนในสนามกีฬาของเมืองบาโล-อิ ที่ตั้งอยู่ห่างจากเมืองมาราวีหลายไมล์ เธอเคยเป็นแม่ค้าขายผลไม้ แต่ตอนนี้เธอต้องสูญเสียทรัพย์สินของเธอไปหมดแล้ว “ แต่ดิฉันก็ยังอยากกลับบ้าน ”
ในบาโล-อิ มีห้องน้ำที่ใช้ได้เพียงห้องเดียวสำหรับผู้อพยพในศูนย์มากถึง 1,025 คน บนผนังมีโปสเตอร์ที่จัดทำโดยสภากาชาดฟิลิปปินส์แนะนำวิธีการล้างมือที่ถูกต้องให้แก่ผู้อพยพ แต่ที่นี่ไม่มีอ่างล้างมือหรือก๊อกน้ำ และผู้อพยพต้องล้างมือในแม่น้ำที่อยู่ใกล้ๆ
นอกจากนี้ การขาดโภชนาการที่ดีก็เป็นอีกเรื่องที่น่ากังวลในศูนย์อพยพหลายแห่ง
เมเลีย ซารัป นักโภชนาการประจำจังหวัดลาเนา เดล ซูร์กล่าวว่า จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่า มีผู้อพยพ 6 รายที่มีภาวะขาดโภชนาการระดับรุนแรงและอีก 20 รายที่ขาดโภชนาการในระดับปานกลาง
นอกจากนี้ ที่น่าเป็นห่วงคือบรรดาแม่ที่ต้องให้นมลูก เนื่องจากการขาดโภชนาการส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพของแม่และพัฒนาการของลูก
“ ไม่ใช่เรื่องดีที่ต้องให้เด็กทานอาหารกระป๋องแบบนี้ แต่ก็เป็นทางเดียวที่เราจะอยู่รอด ” ทาร์ฮาตา ซึ่งกำลังให้นมลูกกล่าว.