นาขั้นบันไดบานาเว ความงดงามที่ฟิลิปปินส์

นาแบบขั้นบันไดเรียกในภาษาอังกฤษว่า rice terrace ซึ่งกว่าจะสร้างสรรค์พื้นที่
ซึ่งมีความลาดชันให้กลายเป็นพื้นที่ซึ่งเหมาะสมกับการเพาะปลูกนับว่าต้องใช้ความเพียรค่อนข้างมาก แต่ทว่าด้วยความตั้งใจจะเอาชนะธรรมชาติของมนุษย์ ความลาดชันก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคใด ๆ เลย อีกทั้ง ยังทำให้เกิดวิวทิวทัศน์สวยงามตระการตาดังเช่นที่นาขั้นบันไดบานาเวแห่งฟิลิปปินส์นั่นเอง
ดินแดนแห่งหุบเขา มหัศจรรย์ของความเพียร สำหรับบานาเวแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งหุบเขาและนาขั้นบันไดที่สวยงามตระการตาอันดับต้น ๆ ของนาขั้นบันไดที่สวยงามบนโลกใบนี้ นาขั้นบันไดแห่งนี้เกิดขึ้นจากฝีมือการสร้างสรรค์ของชนเผ่าอิฟูเกาที่ใช้วิธีการถางไหล่เขาแบบนี้มานานนับเป็นพัน ๆ ปี พวกเขาถางทำไร่เขาด้วยความเพียรพยายาม และความมานะ จนกระทั่งพลิกฟื้นผืนดินให้กลายเป็นความอุดมสมบูรณ์ขึ้นมาได
นาขั้นบันไดบานาเว สิ่งมหัศจรรย์ลำดับ 8 ของโลก บานาเวแห่งอิฟูเกา เป็นนาขั้นบันไดที่รอการสัมผัสความงดงามตระการตาหลายต่อหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นที่หมู่บ้านบาตัดที่มีขั้นบันไดเขียวขจีทอดไปสู่โค้งขอบฟ้าราวกับเป็นบันไดไปยังสรวงสวรรค์ ภาพท้องนาที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเลพันกว่าเมตรนับเป็นภาพความประทับใจที่หาชมได้ยากยิ่ง ด้วยความงดงามชวนตะลึงนี่เองที่ทำให้องค์การยูเนสโกยกย่องให้ นาขั้นบันไดบานาเวเป็นมรดกโลกและได้รับการขนานนามว่าสิ่งมหัศจรรย์ลำดับ 8 ของโลก
ความงามจากน้ำมือมนุษย์ สำหรับนาขั้นบันไดแห่งนี้เป็นเครื่องยืนยันได้ดีถึงภูมิปัญญาการทำเกษตรกรรมของชนเผ่าพื้นเมืองที่ให้ผลผลิตที่ดีไม่แพ้การเกษตรยุคใหม่ โดยชนเผ่าอิฟูเกานี้อพยพมาจากประเทศไต้หวันและพำนักอยู่ที่นี่เป็นระยะกว่า 2,000 ปีแล้ว เขาใช้เครื่องมือพื้นบ้านในการสกัดไหล่เขาและการนำน้ำเขามายังนาขั้นบันได เป็นที่น่าแปลกใจอย่างยิ่งว่าพวกเขาสามารถสร้างความงดงามอลังการเช่นนี้ได้อย่างไรโดยปราศจากเครื่องจักร

สืบสานอุดมการณ์บรรพบุรุษ ในปัจจุบันนี้ลูกหลานของชาวอิฟูเกาก็ยังคงสืบทอดเจตนารมณ์บรรพบุรุษด้วยการทำนาและเพาะปลูก โดยการกำจัดพวกศัตรูพืชและการเก็บเกี่ยวผลผลิตนั้นจะมีความเกี่ยวข้องและยึดถือดวงจันทร์รวมถึงพิธีทางศาสนาเป็นหลักใหญ่ นับเป็นตัวอย่างที่ดีของการทำการเกษตรอย่างยั่งยืน โดยไม่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าไปช่วย และช่วยให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนในระยะยาวได้อีกด้วย
เนินทุ่งนาลดหลั่นเป็นขั้นบันได นอกจากจะมีจุดชมท้องนาบริเวณหมู่บ้านบาตัดแล้ว ยังมีจุดชมทุ่งนาที่อื่น ๆ ซึ่งโดดเด่นด้วยทุ่งนาขั้นบันไดลดหลั่นเป็นระดับ มองเห็นสีเขียวอ่อนแก่สลับสล้างสร้างความตระการตายิ่งนัก ที่นี่คันนาจะเรียงถี่ ประกอบกับสายหมอกที่ลอยอยู่เหนือท้องนาสร้างภาพประทับใจสวยชวนมอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อใบข้าวพัดไหวลู่ต้องลมยิ่งเป็นภาพที่ก่อให้เกิดความประทับใจมากยิ่งขึ้น
ขั้นบันไดมีชีวิต ความน่าอัศจรรย์อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ทุ่งนาแห่งนี้สวยงามยากลืมเลือนคือต้นข้าวที่ต้องลม เมื่อมองจากไกล ๆ จะเห็นได้ชัดเจนถึงต้นข้าวที่พลิ้วไหวราวระลอกคลื่นดูเผิน ๆ คล้าย ๆ กับว่าขั้นบันไดแห่งนี้มีชีวิตจากการสรรค์สร้างของธรรมชาติ แม้ว่าเส้นทางถนนที่พาไปยังการชมทุ่งข้าวจะค่อนข้างผจญภัยสักเพียงใด แต่ก็ไม่อาจทำให้ผู้เข้าชมนาขั้นบันไดท้อแท้อย่างแน่นอน เพราะความงามของทุ่งนาขั้นบันไดลบเลือนความเหนื่อยล้าไปได้จนหมดสิ้น
ระยะเวลาการทำนา การทำนาของชาวชนเผ่าอิฟูเกานี้ จะเริ่มต้นขึ้นในช่วงเดือนเมษายนและสิ้นสุดที่เดือนพฤศจิกายน โดยช่วงที่ข้าวออกรวงก็นับเป็นอีกช่วงหนึ่งที่ควรค่าแก่การชมอย่างยิ่ง เนื่องจากช่วงนี้หุบเขาจะแปรเปลี่ยนเป็นสีทอง สวยตระการตาและเป็นภาพที่หาชมได้ยาก แต่หากนักท่องเที่ยวมาในช่วงเดือนพฤศจิกายนจะเป็นช่วงเวลาเก็บเกี่ยวของชาวนา เพราะฉะนั้นหากนักท่องเที่ยวที่ต้องการไปชมนาขั้นบันไดโดยเฉพาะควรเลือกเวลาการเดินทางที่เหมาะสม
ระยะเวลาการชมนาขั้นบันไดโดยละเอียด
เดือนเมษายน – เดือนพฤษภาคม: เป็นช่วงที่มีต้นข้าวเริ่มผลิใบอ่อนสีเขียว เหมาะสำหรับการเดินทางมาเยือนเนื่องจากไม่มีลมมรสุม
เดือนมิถุนายน – เดือนกรกฎาคม :เป็นช่วงที่นาขั้นบันไดเริ่มมีความเขียวขจีเกือบทั้งท้องนาแต่ทว่าช่วงนี้เป็นช่วงเริ่มต้นของฤดูมรสุม
เดือนสิงหาคม – เดือนกันยายน : เป็นช่วงความงามที่สุดของนาขั้นบันได เนื่องจากมีต้นข้าวเขียวทั้งหมดแต่ทว่ามีอากาศที่ไม่เหมาะเดินทางเท่าใดนัก เนื่องจากว่าเป็นช่วงฤดูมรสุมฟิลิปปินส์พอดี

เดือนตุลาคม – เดือนพฤศจิกายน : นับเป็นช่วงความงามในอีกรูปแบบหนึ่งของนาขั้นบันไดที่นี่ เนื่องจากต้นข้าวเริ่มเป็นสีทองรอการเก็บเกี่ยว เหมาะสำหรับเก็บภาพประทับใจ หากมาช่วงนี้นักท่องเที่ยวจะพบกับช่างภาพที่มาถ่ายภาพรวงข้าวสีทองอยู่มากมาย
ที่ตั้ง: นาขั้นบันไดบานาเว อยู่ในจังหวัดอิฟูเกา เกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์
การเดินทาง: นักท่องเที่ยวสามารถโดยสารเครื่องบินจากกรุงเทพฯ มายังกรุงมะนิลา และเมื่อมาถึงกรุงมะนิลาก็จะมีรถโดยสารตรงมาที่บานาเว ซึ่งสามารถเรียกใช้บริการโดยสะดวกง่ายดาย เมื่อถึงบานาเวแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเช่ารถสามล้อที่รอให้บริการในเมืองบานาเวมาสู่นาขั้นบันไดได้ ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการเดินทางไปกลับไม่เกิน 4 ชั่วโมง สำหรับนักท่องเที่ยวที่ปรารถนาชมความงามที่มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้นจากความเพียรพยายาม บานาเวนับเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายปลายทางที่น่าสนใจและความงามของนาขั้นบันไดจะตรึงตาจรึงใจจนไม่อาจลืมเลือนได้แน่นอน.