ที่นี่คือ “ปีนัง”
เมืองปีนัง มีสถานะเป็น 1 ใน 13 รัฐของประเทศมาเลเซีย ภายในรัฐจะแบ่งพื้นที่ออกเป็นสองส่วน ได้แก่ ส่วนที่เป็นเกาะ และส่วนที่เป็นชายฝั่ง
จุดเด่นที่น่าสนใจประการหนึ่งคือเรื่องของประชากร ซึ่งมีทั้งที่เป็นคนเชื้อสายจีน และมลายูอาศัยอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ส่งผลให้เมืองปีนังมีความหลากหลายทั้งทางด้านวิถีชีวิตและวัฒนธรรม ซึ่งผสมผสานกันอย่างลงตัว การเที่ยวชมเมืองปีนังเหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในการเดินทางท่องเที่ยวแนวสตรีท และต้องการสัมผัสกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในพื้นที่ และนอกจากการเดินเที่ยวชมตัวเมืองแล้ว เมืองปีนังยังมีสถานที่สำคัญ ซึ่งไม่ควรพลาดอีกหลายแห่ง เช่น
วัดเก็กลกสี่ (Kek Lok Si) ย่านจอร์จทาวน์
“จอร์จทาวน์” เป็นชื่อที่ใช้เรียกศูนย์กลางของเมืองปีนัง ภายในพื้นที่แห่งนี้มีความโดดเด่นในเรื่องของสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่าจนได้รับการยกย่องจากองค์กรยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลก โดยมีวัดเก็กลกสี่ หรือ Temple of Supreme Bliss ที่ผู้คนในเมืองศรัทธาตลอดจนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ต่างหมุนเวียนมาสักการะขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคลทุกครั้งที่มาเยือนที่ปีนังแห่งนี้
วัดเก็กลกสี่ได้รับการก่อสร้างขึ้นในตั้งแต่ปี ค.ศ. 1893 ตามคำขอของเจ้าอาวาสวัดเจ้าแม่กวนอิมที่ถนนพิตต์สตรีท ซึ่งจักรพรรดิแมนจู กวนซูได้พระราชทานพระราชานุญาตให้สร้างวัดแห่งนี้ขึ้น และยังได้ทรงพระราชทานแผ่นจารึกกับพระไตรปิฎกจำนวนกว่า 7 หมื่นฉบับกับทางวัด สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจแวะมาสักการะที่วัดเก็กลกสี่ แนะนำว่าควรเดินทางมาในช่วงตรุษจีน เพราะทางวัดจะประดับโคมไฟไว้อย่างงดงามตา หากมาเยือนในช่วงเดือนอื่น ๆ ก็จะได้เยี่ยมชมบริเวณต่าง ๆ ที่น่าสนใจ เช่น หอสวดมนต์, หอระฆัง, สระเต่า และเจดีย์
นอกจากนี้ ภายในวัดยังมีเจดีย์สมเด็จพระรามหก ซึ่งสร้างจนแล้วเสร็จตั้งแต่ปี ค.ศ. 1930 พร้อมกับตกแต่งด้วยพระพุทธรูปสำริดและพระพุทธรูปศิลาขาวรวม 10,000 องค์ เพื่อแสดงถึงความสามัคคีของนิกายมหายานและหินยาน นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นบันได แต่ค่อนข้างชันไปยังยอดเจดีย์ได้ ซึ่งจะมองเห็นทัศนียภาพของเมืองปีนังได้ชัดเจน ที่สำคัญ นักท่องเที่ยวยังจะได้ชื่นชมและสักการะองค์รูปหล่อเจ้าแม่กวนอิมที่มีความสูงถึง 30.2 เมตร ภายในวัดแห่งนี้อีกด้วย ทั้งนี้ วัดเก็กลกสี่ตั้งอยู่ที่อีร์อิตัม โดยเปิดให้เข้าชมได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 7.00 – 21.00 น. และไม่คิดค่าผ่านประตู เว้นแต่ถ้านักท่องเที่ยวต้องการเข้าไปด้านในเจดีย์หรือใช้ Sky Lift จะมีค่าเข้าชมประมาณ 2 ริงกิตต่อคน
การเดินทางมาเยือนที่วัดเก็กลกสี่แห่งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถประจำทาง Rapid Penang ได้หลายสาย ไม่ว่าจะเป็นสาย 201, 203, 204, 206,306, หรือ U502 ขึ้นอยู่กับว่าขึ้นรถจากจุดไหน จากนั้น ให้สังเกตรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งมองห็นได้ในระยะไกล จึงค่อยลงจากรถที่ถนนจาลันปาซาร์ หรือบริเวณตีนเนินเขา ซึ่งเป็นที่ตั้งวัด จากนั้น จะมีป้ายบอกทางไปวัดให้เดินไปเรื่อย ๆ ไม่นานก็จะเข้าสู่บริเวณวัดแห่งนี้
ศิลปะบนกำแพงและสวนผีเสื้อและพฤกษชาติปีนัง
ในย่านเมืองเก่าของจอร์จทาวน์ นักท่องเที่ยวจะได้พบกับผลงาน “ศิลปะบนกำแพง” ซึ่งเป็นผลงานรังสรรค์จากศิลปินร่วมระหว่างชาวไทย ชาวมาเลเซีย และชาวลิทัวเนีย แม้ผลงานจะไม่ดูยิ่งใหญ่ตระการตาเสมือนอย่างงานจัดแสดงศิลปะอันหรูหรา แต่ก็นับว่าสามารถกลมกลืนไปกับบรรยากาศย่านเมืองเก่าได้อย่างลงตัว สถานที่แห่งนี้จึงเหมาะสำหรับท่านที่รักการเดินเที่ยวชมตัวเมือง, อาคารบ้านเรือน ทั้งยังได้ดื่มด่ำไปกับผลงานศิลปะที่เรียงรายทั้งสองข้างทาง หรือแม้กระทั่งนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการถ่ายภาพภายใต้บรรยากาศย้อนยุค ก็นับเป็นโลเคชั่นหนึ่งซึ่งให้กลิ่นอายของความคลาสสิค ทั้งยังมีความโดดเด่นและสมจริงเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ ยังมี “สวนผีเสื้อและพฤกษชาติปีนัง” หรือที่เรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า “สวนน้ำตก” มีลักษณะเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มากมายด้วยพันธุ์พฤกษชาติ ซึ่งรายล้อมไปด้วยเหล่าผีเสื้อนานาชนิด
ทั้งยังมีน้ำตกไหลผ่านหลายสาย ประกอบกับภายในบริเวณก็ได้มีการจัดแต่งภูมิทัศน์ไว้อย่างสวยงาม เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้ามาพักผ่อนหย่อนใจ จึงนับเป็นสถานที่ซึ่งได้รับความนิยมสูงอีกแห่งหนึ่ง ที่สำคัญ สวนผีเสื้อและพฤกษชาติปีนังแห่งนี้ยังได้รับการยกย่องให้เป็นศูนย์วิจัยเกี่ยวกับพันธุ์พืชที่มีชื่อเสียงในระดับโลกอีกด้วย ทั้งนี้ สวนผีเสื้อ และพฤกษชาติปีนังตั้งอยู่ที่เทลัค บาฮัง (Teluk Bahang) ซึ่งอยู่ห่างจากจอร์จทาวน์ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 20 กิโลเมตร สวนแห่งนี้เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 05.00 – 20.00 น. ของทุกวัน ยกเว้นช่วงเทศกาลตรุษจีน ประชาชนทั่วไปและกลุ่มนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชม โดยไม่เสียค่าบริการและยังสามารถใช้บริการมัคคุเทศน์ได้ฟรีอีกด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเดินทาง
การเดินทางไปเยือนปีนังนั้นสามารถทำได้หลายช่องทาง สำหรับกรณีท่านที่ออกเดินทางจากกรุงเทพ สามารถบินตรงไปยังตัวเมืองปีนังได้ทันที โดยใช้เวลาการบินประมาณ 2 ชั่วโมง (กรณีไม่มีจุดพัก) ราคา ตั๋วเที่ยวบินไปกลับสำหรับผู้โดยสารเริ่มต้นที่ประมาณ 4,000 บาท หรืออาจใช้บริการสายการบินภายในประเทศเพื่อบินจากดอนเมืองไปลงที่หาดใหญ่ก่อน ซึ่งราคาตั๋วเที่ยวบินไปกลับจะเริ่มต้นที่ราว ๆ 2,000 บาท จากนั้นจึงต่อรถตู้จากหาดใหญ่มุ่งตรงไปยังตัวเมืองปีนัง โดยมีอัตราค่าโดยสาร 450 บาท หรือชนิดตั๋วไปกลับ 800 บาท รถเริ่มออกตั้งแต่ 12.30 น. และคันสุดท้ายในรอบวันจะออกเดินทางเวลา 16.30 น. โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวจึงสามารถเลือกได้ตามความสะดวกและเหมาะสม เนื่องจากเมืองปีนังนั้นมีขนาดเล็ก เมื่อไปถึงปีนัง นักท่องเที่ยวจึงสามารถใช้บริการรถเมล์โดยสารท้องถิ่นเที่ยวได้ทั่วทั้งตัวเมือง แต่สิ่งแรกที่ต้องหามาพกติดตัวก็คือแผนที่ เพราะจะมีรายละเอียดของจุดท่องเที่ยวต่างๆ รวมถึงตำแหน่งภาพสตรีทอาร์ทว่าอยู่ตรงไหนบ้าง ซึ่งจะง่ายต่อการวางแผนเที่ยวมากขึ้น