ตะลุยไดโนซอร์ แพลนเน็ต ครั้งแรกในไทย
คงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี ช่วยให้เราสามารถเรียนรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ได้หลายช่องทางมากขึ้น
แม้แต่สัตว์โลกที่สูญพันธุ์ไปแล้วอย่างไดโนเสาร์ ครั้งหนึ่งเคยประสบความสำเร็จจากการนำมาสร้างเป็นตัวเอกในภาพยนตร์ชื่อดัง Jurassic Park ซึ่งไม่เพียงทำให้ผู้คนทั่วโลกรู้สึกสนุก, ตื่นเต้นและเพลิดเพลินไปกับการผจญภัยของตัวละครหลักของเรื่องเท่านั้น แต่ยังแฝงความรู้เรื่องลักษณะของไดโนเสาร์สายพันธุ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์กินเนื้อ อย่างทีเร็กซ์ นักล่าที่มีขนาดตัวใหญ่โตกว่า 40 ฟุต และน้ำหนักไม่น้อยกว่า 9 ตัน หรือสายพันธุ์กินพืชอย่างเทอราโนดอนที่มาพร้อมกับน้ำหนักตัวราว ๆ 70 ปอนด์บวกกับปีก 2 ข้างที่มีความกว้างไม่ต่ำกว่า 20 ฟุต ทำให้ถูกจัดอันดับให้เป็นสัตว์เลื้อยคลานที่มีปีกใหญ่ที่สุดในเรื่อง Jurassic World
ในวันนั้นการได้รับชมภาพยนตร์ช่วยให้เราต่างรู้จักไดโนเสาร์สัตว์โลกดึกดำบรรพ์มากขึ้น ทั้ง ๆ ที่เราไม่สามารถพบเห็นได้ในปัจจุบันเลยก็ตาม แต่ใครจะคาดคิดว่าในปี 2016 นี้ บริษัท ไร้ท์แมน จำกัด ซึ่งนำทีมโปรดักชั่นสุดครีเอทโดยคุณอุปถัมภ์ จะสามารถพาเราย้อนเวลากลับไปยุคดึกดำบรรพ์เมื่อ 65 ล้านปีที่แล้วและร่วมสัมผัสความเหมือนจริงผ่านไดโนเสาร์สายพันธุ์ต่าง ๆ กว่า 200 ชนิดที่ถูกเนรมิตขึ้นตามขนาดตัวจริง ๆ ของแต่ละสายพันธุ์ผสมผสานอย่างลงตัวกับเทคโนโลยีใหม่ที่ทันสมัยระดับโลก ทำให้ไดโนเสาร์เสมือนกลับมีชีวิตขึ้นอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหว, เสียงร้อง หรือ การหายใจก็สร้างสรรค์ได้สมจริง โดยจัดแสดงขึ้นที่ใจกลางกรุงเทพมหานครในบริเวณ ดิ เอ็มสเฟียร์ ของ ดิ เอ็มดิสทริค ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 22 และ 24 บนพื้นที่กว่า 12,000 ตารางเมตร และเริ่มเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการตั้งแต่ 25 มีนาคม 2016 ที่ผ่านมา ที่สำคัญ ไดโนซอร์ แพลนเน็ต ธีมพาร์คแห่งนี้ ยังฉีกแนวสวนสนุกทั่ว ๆ ไปด้วยการบอกเล่าเรื่องราวของไดโนเสาร์ผ่านมิติต่าง ๆ ที่จัดวางและแบ่งออกเป็น 8 โซนด้วยกัน ประกอบด้วย
1.DINOSAUR DISTRICT ประทับใจไปกับกำเนิดไดโนเสาร์ ตั้งแต่ระยะฟักไข่: เปิดประสบการณ์เสมือนจริงไปกับโซนแรกของการเรียนรู้ DINOSAUR DISTRICT ซึ่งผู้เข้าชมจะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของสัตว์ดึกดำบรรพ์ในอดีตว่ามีขนาดตัวมหึมามากแค่ไหน ผ่านเทคโนโลยีมัลติมีเดียที่จำลองโครงกระดูกของ Triceratops, Brachiosaurus และ Stegosaurus พร้อม ๆ กับร่วมตื่นตาตื่นใจไปกับการฟักไข่ไดโนเสาร์ภายในห้องแล็ป Dino ที่ผู้เข้าชมจะประทับใจและอิ่มเอมไปกับมหัศจรรย์ทางเทคโนโลยีครั้งนี้
2.DINO EYE ชมวิวโลกล้านปี 3 ภูมิทัศน์บนความสูงระดับ 50 เมตร: เต็มอิ่มไปกับมุมมองหนึ่งเดียวในโลกผ่าน DINO EYE กับกระเช้าแคปซูลลอยฟ้าที่เนรมิตขึ้นบนระดับความสูงกว่า 50 เมตร โดยผู้เข้าชมจะสามารถมองเห็นวิวแปลกตาทั้ง 3 สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นวิวเหนือขอบฟ้า, ใต้ท้องทะเลหรือพื้นดินราบกว้างใหญ่สุดตาก็ตาม
3.STARS OF DINO ตะลุยแดนไดโนเสาร์ล้านปี: ผู้เข้าชมจะได้สัมผัสประสบการณ์ย้อนเวลาสู่โลกเมื่อ 65 ล้านปีที่แล้ว ผ่านบรรยากาศ 3 ยุคดึกดำบรรพ์ ทั้ง Triassic, Jurassic และ Cretaceous พร้อม ๆ กับได้ใกล้ชิดกับไดโนเสาร์ในภาพยนตร์พันธุ์ต่าง ๆ ที่ถอดแบบได้สมจริง ทั้งในเรื่องของขนาด, รูปร่าง, ท่าทาง, การเดิน, เสียงร้องและเสียงลมหายใจราวกับฟื้นขึ้นมามีชีวิตจริง ๆ ที่สำคัญ ยังมีระบบควบคุมซึ่งช่วยทำให้ท่าทางการแสดงออกของไดโนเสาร์สอดคล้องไปกับอารมณ์อีกด้วย
4.4D Deep World ผจญภัยกับการต่อสู้ในดินแดนไดโนเสาร์: ไม่เพียงผู้เข้าชมจะได้สาระความรู้สมัยยุคดึกดำบรรพ์เท่านั้น แต่ในโซนที่ 4 นี้ ผู้เข้าชมยังได้ร่วมผจญภัยและตื่นเต้นไปกับภาพเคลื่อนไหวสมจริงแบบ 4D ที่จะเติมอารมณ์และจินตนาการให้อะดรีนาลีนสูบฉีดเต็มขั้น
5.THE GREAT VOLCANO การแสดงสดภูเขาไฟระเบิดและการเอาตัวรอดของสัตว์ใหญ่แห่งยุค: นอกจากการแสดงยิ่งใหญ่สุดอลังการของภูเขาไฟระเบิดกลางถนนสุขุมวิทที่มาครบทั้งแสง, สีและเสียงสุดตระการตาแล้ว ผู้เข้าชมยังได้รับรู้เรื่องราวของสัตว์โลกล้านปี เมื่อต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากการสูญพันธุ์ พวกเขาจะทำอย่างไร
6.RAPTOR X-TREME ปลุกความมันส์และไฟในการผจญภัย: ร่วมสนุกไปกับภารกิจเสี่ยงตายท่ามกลางฝูงแรปเตอร์เสมือนจริงที่ฉลาดสุด ๆ เจ้าของฉายากรงเล็บเพชฌฆาตที่ผู้เข้าชมจะต้องฝ่าด่าน, ประชันความไว, แข่งความรวดเร็วและชิงไหวลับคมกับบรรดาไดโนเสาร์จอมวางแผน อย่าง Velociraptor ที่จะทำให้ใจเต้นรัวแน่นอน7.
7.DINO FARM สร้างแรงบันดาลใจให้นักสำรวจตัวน้อย: ร่วมกันเติมเต็มจินตนาการให้กับผู้เข้าชมตัวน้อยผ่านการขุดค้นหาซาก Fossil ของเจ้าไดโนเสาร์ตัวยักษ์อย่างทีเร็กซ์ ในเกมต่าง ๆ มากมาย และให้โอกาสเด็ก ๆ ได้ลองขี่หลังไดโนเสาร์อย่าง Apatosaurus, Anchiceratops, Triceratops และ Ankylosaurus เพื่อเดินเล่นชมบรรยากาศรอบ ๆ ฟาร์มไดโนเสาร์
8.Dino Square พักผ่อนเติมพลังและเลือกซื้อของที่ระลึก: ในโซนท้ายสุดแต่ความสนุกยังไม่สิ้นสุด เพราะผู้เข้าชมจะได้ร่วมเล่นเกมสนุก ๆ จากแบรนด์สินค้าชั้นนำต่าง ๆ พร้อมกับเลือกรับประทานอาหารเมนูสุดพิเศษที่มีให้บริการที่นี่ที่เดียว หลังจากอิ่มท้องและอิ่มความสุขกันแล้ว ก่อนกลับ ผู้เข้าชมยังสามารถเลือกซื้อของที่ระลึกจากทางร้าน ไดโนซอร์ แพลนเน็ตได้อีกด้วย
ทั้งนี้ ไดโนซอร์ แพลนเน็ต จะเปิดให้บริการในกรุงเทพฯ ตลอด 11 เดือนทุกวันตั้งแต่เวลา 1000 – 2200 น. หลังจากนั้นก็จะทำการย้ายไปจัดแสดงในเมืองใหญ่ต่าง ๆ อย่างพัทยา เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมในจังหวัดใกล้เคียงในจุดต่าง ๆ ได้ร่วมสนุกและรับสาระความรู้จากไอเดียสร้างสรรค์นี้ไปด้วยกัน โดยไม่คิดค่าบัตรผ่านประตูกับเด็กที่มีความสูงไม่ถึง 90 เซนติเมตร สำหรับผู้ใหญ่บัตรเข้าชมท่านละ 600 บาทและเด็ก 400 บาท ไดโนซอร์ แพลนเน็ต นับเป็นอีกหนึ่งสวนสนุกเชิงให้ความรู้ที่ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ต่างก็จะได้เติมเต็มจินตนาการ, อิ่มความสนุกและดื่มด่ำไปกับประสบการณ์ใหม่ ๆ สมกับความตั้งใจของผู้สร้างสรรค์ที่ต้องการมอบรอยยิ้มให้ผู้เข้าชมได้นำกลับบ้านไปด้วยกัน