สัมผัสจีนยูนนาน ณ บ้านรักไทย
ภาคเหนือของไทย ถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของบรรดานักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ
ที่ชื่นชอบความสวยงามของธรรมชาติบนที่ราบสูง และการพักผ่อนแบบสงบเรียบง่าย สูดอากาศบริสุทธิ์ และศึกษาวิถีชีวิตชาวบ้านในการทำเกษตร รวมถึงหัตถกรรมพื้นบ้าน และในหลายปีมานี้ จังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดที่กำลังมาแรงในหมู่นักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบธรรมชาติ ที่ยังไม่มีความเป็นชุมชนเมืองเข้ามามากนัก ดังจะเห็นได้จากในช่วงฤดูหนาวซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น ยอดการจองห้องพักมักจะสูงจนถึงกับเต็มอยู่เสมอ ๆ และสำหรับสถานที่น่าเที่ยวแนวสโลไลฟ์ต้องห้ามพลาดอีกที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ก็คือ “หมู่บ้านรักไทย” หมู่บ้านชาวจีนยูนนาน ที่เลื่องลือถึงภาพอันสวยงามของหมอกเหนือทะเลสาบและไร่ชา
บ้านรักไทย หรือ บ้านแม่ออ เป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนาน อดีตทหารจีนกองพล 93 ก๊กมินตั๊ง หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ตำบลหมอกแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งติดกับชายแดนไทย – พม่า ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ 44 กิโลเมตร และด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,776 เมตร ทำให้สถานที่แห่งนี้มีพื้นที่เหมาะสมกับการปลูกชา และพืชเมืองหนาวเป็นอย่างดี โดยชาที่ขึ้นชื่อของหมู่บ้านรักไทยได้แก่ ชาชิง ชิง และชาอู่หลง นอกจากนี้บริเวณโดยรอบของหมู่บ้านยังแวดล้อมไปด้วยทิวเขา แมกไม้อันอุดมสมบูรณ์ รวมถึงติดกับทะเลสาบที่ทำให้เมืองแห่งนี้ยิ่งเพิ่มความน่าเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยวมากขึ้นไปอีก
แม้จะสามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ในช่วงฤดูหนาว หมู่บ้านแห่งนี้จะเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ในการเดินทางมาชื่นชมทิวทัศน์ของธรรมชาติท่ามกลางสายหมอก โดยว่ากันว่าบรรยากาศของหมู่บ้านแห่งนี้ละม้ายคล้ายคลึง และได้บรรยากาศของหมู่บ้านที่สามารถเห็นได้ในภาพยนตร์จีน ตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้าแบบศิลปะจีน สิ่งก่อสร้างบ้านเรือน ตัวหนังสือ รวมถึงรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้คนในหมู่บ้าน และแน่นอนว่าเมื่อมาเที่ยวยังหมู่บ้านรักไทยนี้ สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการทดลองดื่มชา พร้อมกับรับประทานขาหมูยูนนาน กับหมั่นโถว ของขึ้นชื่อของที่นี่ ที่ไม่ว่าใครมาก็ต้องลิ้มลอง รวมถึงยำใบชา ซี่โครงหมูตุ๋นยูนนาน ปลาสามรสยูนนาน และผัดซาโยเต้ ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน
กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวที่มายังบ้านรักไทยแห่งนี้ไม่พลาดที่จะทำก็ไม่ใช่กิจกรรมที่หวือหวาอะไรนัก เป็นการพักผ่อนเพื่อดื่มด่ำกับความงามของวิถีชีวิตและทิวทัศน์ที่เห็นเบื้องหน้า เริ่มจากสัมผัสบรรยากาศความเป็นอยู่ตามแบบฉบับชาวยูนนาน ด้วยการเดินชมไร่ชาตามเนินเขารอบ ๆ หมู่บ้าน ที่นักท่องเที่ยวจะได้เห็นถึงวิธีการปลูก การเก็บใบชา และการอบชาในโรงอบชา นอกจากนี้ยังสามารถเห็นวิธีการแปรรูปอาหารของชาวยูนนานในการถนอมอาหารจำพวกผักและผลไม้ให้สามารถรับประทานได้นาน หรือจะเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติโดยมัคคุเทศก์ของหมู่บ้านที่จะพาไปเดินป่าและเยี่ยมชมสถานที่ประวัติศาสตร์อย่างคุกดิน หรือจะเช่าจักรยานปั่นชมรอบหมู่บ้านเพื่อถ่ายรูปก็เข้าที รวมถึงมีกิจกรรมการขี่ม้าหรือขี่ล่อที่จะพานักท่องเที่ยวข้ามแดนไปยังฝั่งพม่าอีกด้วย จากนั้นเลือกพักที่บ้านดินริมน้ำ ซึ่งเป็นการสร้างบ้านแบบเก่าแก่ที่ใช้ดินเหนียวผสมฟางข้าวสีออกเหลืองอมน้ำตาล ที่ในช่วงเช้าสามารถตื่นแต่เช้ามาชมไอหมอกที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณหมู่บ้านที่สดชื่นสวยงามพร้อมกับนั่งจิบเครื่องดื่มแบบชิล ๆ หรือเช่าชุดแบบจีนเพื่อถ่ายรูป และปิดท้ายทริปการมาเยือนหมู่บ้านรักไทยด้วยการเลือกซื้อเลือกหาของฝากขึ้นชื่อ อาทิ ผลไม้เมืองหนาว ไวน์รสชาติดีไม่แพ้ไวน์จากเมืองนอก อย่าง ไวน์ลูกหม่อน ไวน์มะขามป้อม และไวน์ลูกท้อ บ๊วยจีน เสื้อผ้าและรองเท้าแบบจีน อุปกรณ์ชงชาที่มีให้เลือกมากมาย และสินค้าไฮไลท์อย่างชาพันธุ์ต่าง ๆ
การเดินทางมายังหมู่บ้านรักไทย หากมาจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน สามารถใช้ทางหลวงหมายเลข 1095 หรือเส้นทางแม่ฮ่องสอน – ปาย เมื่อออกจากตัวเมืองได้ประมาณ 15 กิโลเมตร จะพบทางแยกให้เลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าไปยังภูโคลน ซึ่งขับเข้ามาประมาณ 29 กิโลเมตร ผ่านภูโคลน น้ำตกผ่าเสื่อ พระตำหนักปางตอง ซึ่งเส้นทางในช่วงนี้เป็นภูเขาสูงชัน มีความคดเคี้ยว และโค้งหักศอก ควรขับอย่างระมัดระวัง และใช้ผู้ที่มีความชำนาญในการขับ รวมถึงควรเติมน้ำมันรถให้เพียงพอ เนื่องจากไม่มีสถานีบริการน้ำมันระหว่างทาง ส่วนผู้ที่เดินทางจากอำเภอปาย สามารถใช้ทางหลวงหมายเลข 1095 มาทางอำเภอปางมะผ้า และถ้ำปลา จากนั้นเลี้ยวขวาที่แยกหลังผ่านถ้ำปลาประมาณ 1 กิโลเมตร หลังจากนั้นมุ่งหน้าสู่ทางไปภูโคลนเช่นเดียวกับการมาจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน สำหรับการเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน สามารถขึ้นรถสองแถวสีเหลืองสายแม่ฮ่องสอน – บ้านรักไทย (แม่ออ) ได้ที่ท่ารถหลังตลาดสายหยุด ค่าโดยสารประมาณ 150 บาท โดยมีรถให้บริการวันละสองเที่ยว
ปลายปีนี้หากยังไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหน ก็ลองไปเยือนที่หมู่บ้านรักไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอนดูสักครั้ง เพราะนอกจากจะได้เห็นวิวสวยงามตาแบบพาโนรามา ท่ามกลางอากาศเย็นสบายแล้ว ยังได้ความรู้สึกเสมือนเป็นขุนนาง หรือจอมยุทธ์ในภาพยนตร์จีนที่นั่งจิบชาอยู่ในโรงเตี๊ยมฟังเพลงจีนคลอเบา ๆ จนอาจลืมไปเลยว่าที่นี่ประเทศไทย ไม่แน่คุณอาจจะติดใจหมู่บ้านสุดเขตประเทศไทยแห่งนี้ก็เป็นได้