“ดานัง” ชื่อนี้…ต้องไม่ลืม
เวียดนาม ประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียนที่จัดว่าเป็นประเทศที่คนไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวมากประเทศหนึ่ง เนื่องจากมีความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ทั้งหาดทรายชายเล ภูเขาสูง หรือแม้แต่ทะเลทราย
รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมอย่างโบราณสถาน ซึ่งหากอยากมาแบบครั้งเดียวครบทั้งที่เที่ยวอารยธรรมทั้งธรรมชาติ แนะนำให้ลองมาเมือง “ดานัง” เมืองที่แสนเป็นมิตร และตอบโจทย์ทุกสไตล์การท่องเที่ยวที่กำลังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวดาวรุ่งพุ่งแรงแห่ง AEC
ดานัง (Danang) เมืองท่าสำคัญทางภาคกลางตอนใต้ของเวียดนามเป็นที่ราบสูงตอนกลางและอยู่ริมชายฝั่งทะเลจีนใต้ เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของประเทศ และเป็น 1 ใน 5 เขตปกครองส่วนท้องถิ่นของเวียดนาม ดานังอยู่ห่างจากนครโฮจิมินห์ไปทางเหนือ 964 กิโลเมตร และห่างจากกรุงฮานอยไปทางใต้ 764 กิโลเมตร ปัจจุบันเมืองแห่งนี้ถูกพัฒนาให้เป็นเมืองแห่งการลงทุนทั้งทางด้านธุรกิจ และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยจะเห็นได้ว่าดานังนั้นเต็มไปด้วยรีสอร์ทที่พักและสนามกอล์ฟที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ หรือแม้กระทั่งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ให้เกิดความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในดานังมีมากมาย ฉะนั้นหากมาเที่ยวที่นี่จะต้องเผื่อเวลาเอาไว้สักหน่อย สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ๆ ของดานัง อาทิ ภูเขาหินอ่อน (Marble Mountain) ภูเขาหินอ่อนและหินปูน ตั้งอยู่ทางทิศใต้ ประกอบไปด้วยเนินเขา 5 ลูก ทำให้คนเวียดนามเรียกภูเขาแห่งนี้ว่า “ภูเขาแห่งธาตุทั้ง 5” อันมาจากธาตุดิน น้ำ ไฟ ไม้ และเหล็ก ภายในภูเขามีแท่นบูชาสำหรับพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ และเทพเจ้าอื่น ๆ ตามความเชื่อของชาวบ้านในละแวกนั้น พื้นที่บริเวณรอบ ๆ ของภูเขามีชื่อเสียงในเรื่องของประติมากรรม และการแกะสลักหินอ่อน ซึ่งปัจจุบันได้มีการห้ามไม่ให้นำหินจากภูเขาแห่งนี้มาใช้แล้ว
ผู้ที่ชอบชมวิวทิวทัศน์จากมุมสูงต้องไม่พลาด กระเช้าลอยฟ้ารางเดียวที่ไม่หยุดจอดเป็นระยะทางยาวที่สุดในโลก ด้วย สายเคเบิลที่มีความยาว 5,042.52 เมตร ซึ่งได้รับการบันทึกเป็นสถิติโลกใน Guinness World Records อย่าง “กระเช้าลอยฟ้าบานาฮิลส์” (Ba Na Hills Cable Car) ที่นักท่องเที่ยวจะได้เห็นทัศนียภาพของเมืองในแบบพาโนราม่าและประหยัดเวลาในการเดินทางเพื่อเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยว ได้แก่ น้ำตก Toc Tien ลำธาร Suoi no และวัดลินห์อึ๋ง หรือวัดพระใหญ่บนเขาบานา พระพุทธรูปปูนขาวที่มีความสูง 27 เมตร โดยกระเช้าแห่งนี้เปิดให้บริการตั้งแต่มีนาคม พ.ศ. 2009 สามารถให้บริการนักท่องเที่ยวได้ 1,500 คนใน 1 ชั่วโมง ด้วยความเร็ว 6 เมตรต่อวินาที ซึ่งเนินบานา หรือบานาฮิลส์ นี้ อยู่ห่างจากตัวเมืองดานังไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็นระยะ 25 กิโลเมตร มีอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีอยู่ที่ 20 – 25 องศาเซลเซียส ถูกจัดว่าเป็นสถานที่ตากอากาศที่ดีที่สุดในเวียดนามกลาง มีการสร้างถนน ที่พัก และสาธารณูปโภคต่าง ๆ มากมาย
พิพิธภัณฑ์ประติมากรรมจาม (Museum of Cham Sculpture) สถานที่เก็บรวบรวมศิลปวัตถุของชนเผ่าจามที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งที่ทำขึ้นจากหินและสำริด ซึ่งจัดว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีนักท่องเที่ยวนิยมเข้าเยี่ยมชมมากเป็นอันดับต้น ๆ ของเวียดนาม เดิมอาคารของที่นี่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2458 ก่อนจะขยายพื้นที่เพิ่มเติมในปี พ.ศ. 2482
และที่ขาดไม่ได้เมื่อมาถึงดานัง คือ การชมสะพานมังกร (Dragon Bridge) จุดท่องเที่ยวน่าสนใจแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดให้ใช้งานในปี พ.ศ. 2556 ซึ่งเป็นสะพานรูปมังกรที่เชื่อมต่อสองฟากฝั่งของแม่น้ำหาน มีความยาว 666 เมตร โดยหลังพระอาทิตย์ตกช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์จะมีการโชว์การแสดงลมหายใจแห่งไฟ ด้วยการประดับประดาสะพานด้วยหลอด LED กว่าพันดวง และหัวมังกรของสะพานนั้นจะสามารถพ่นน้ำพ่นไฟออกมาได้
นอกจากสถานที่ที่แนะนำไปแล้วนั้น ยังมีสถานที่เที่ยวน่าสนใจให้ตามไปสัมผัสอีกมาก ทั้ง ถนนบักดัง (Bach Dang Street) แม่น้ำหาน (Han River) โบสถ์คริสต์แห่งเมืองดานัง (Danang Cathedral) วัดกาวได๋ (Cao Dai Temple) วัดกวางมินห์ (Quang Minh Temple) และแหลมซอนทร้า (Son Tra Peninsula) เป็นต้น ยิ่งไปกว่านั้นนักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วม และเยี่ยมชมเทศกาลสำคัญตามช่วงเวลาต่าง ๆ ได้อีกด้วย เช่น การจัดงานประกวดดอกไม้ไฟระดับนานาชาติ เดือนกุมภาพันธ์ การจัดงานเทศกาลบริเวณชายหาดที่มีการละเล่นกีฬาทางน้ำ การสาธิตปรุงอาหาร งานปาร์ตี้ และการแสดงทางวัฒนธรรม ในเดือนมิถุนายน เป็นต้น เสน่ห์อย่างหนึ่งของเมืองดานังนอกเหนือจากสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจนั้น คือบรรยากาศที่คึกคัก และสีสันของอาคารบ้านเรือน รวมถึงวิถีชีวิตของผู้คนที่เรียบง่ายและเป็นมิตร ทำให้เมืองท่าแห่งนี้มีชีวิตชีวาอยู่เสมอ
จากประเทศไทยเพื่อมายังเมืองดานัง สามารถเดินทางโดยเครื่องบินมาลงที่สนามบินโฮจิมินห์ จากนั้นต่อเครื่องบินภายในประเทศมาลงที่สนามบินดานัง ซึ่งจากสนามบินถึงตัวเมืองใช้ระยะเวลาเพียง 15 นาที ค่า Taxi ประมาณ 30,000 ด่อง หรือจะเดินทางโดยวิธียอดนิยม ด้วยการนั่งรถทัวร์จากสถานีขนส่งหมอชิต ไปยังจังหวัดมุกดาหาร จากนั้นนั่งรถไปแขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว เพื่อเดินทางไปยังดานัง ส่วนการเดินทางท่องเที่ยวในดานังนั้น นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการสามล้อถีบ และมอเตอร์ไซค์รับจ้างได้ โดยก่อนใช้บริการควรสอบถามและตกลงราคากันก่อนทุกครั้ง แต่หากไปในแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ห่างไกลหรือเข้าถึงได้ยาก แนะนำให้ซื้อแพ็คเกจทัวร์จากผู้ให้บริการการท่องเที่ยวในเวียดนามจะสะดวกกว่าเดินทางด้วยตนเอง สำหรับที่พักหากได้บริเวณริ่มฝั่งแม่น้ำหานจะดีมาก เนื่องจากสามารถเที่ยวชมเมืองได้สะดวก และอยู่ไม่ไกลจากถนนคนเดินอีกด้วย
ก่อนจะจัดกระเป๋าเดินทางมายังเมืองดานัง ควรวางแผนเลือกช่วงเวลาการเดินทางสักนิด โดยในเดือนพฤษภาคมไปจนถึงปลายเดือนสิงหาคมจะมีอากาศร้อนและแห้ง ส่วนเดือนกันยายนจนถึงมกราคมจะมีฝนตกหนัก ทำให้ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการท่องเที่ยวคือเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม แม้ดานังจะไม่ได้มีอากาศร้อนจัดหรือหนาวจัดเหมือนอย่างเมืองอื่นๆ ในเวียดนาม แต่หากเลือกช่วงเวลาไม่ดี แล้วไปเจออากาศร้อนหรือฝนตกหนักก็อาจทำให้เสียอารมณ์ได้เช่นกัน.