กิ่งหยก ชาสมุนไพรเพิ่มมูลค่า
จุดเริ่มต้นจากการที่ได้ย้ายกลับมาอยู่บ้านเดิมที่ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม และได้มองเห็นถึงปัญหาของคนในชุมชน เรื่องการย้ายถิ่นฐานไปทำงานที่ต่างถิ่นเป็นจำนวนมาก บางรายห่างจากครอบครัวเพื่อไปทำงานหาเงินในต่างถิ่นต่างแดน ทิ้งคนแก่และเด็กอยู่เฝ้าบ้าน และเลี้ยงดูกันตามลำพัง ก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น ปัญหาเด็กแว๊น ปัญหาเด็กท้องในก่อนวัยอันควร เกเร และ อื่นๆ อีกมาก ซึ่งปัญหาส่วนมากนั้นเกิดจากครอบครัวที่ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดและรับการเลี้ยงดูสั่งสอนจากบิดามารดา แต่ได้รับการเลี้ยงดูจาก ตายาย ปู่ย่าแทน
-จากปัญหาสู่ธุรกิจ
“ธาริณี พรรณภักดี” ผู้จัดการห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคลกิ่งหยก บอกว่าจากการที่ตนเล็งเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นดังที่กล่าว ทำให้เกิดแรงบัลดาลใจในการที่อยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ปัญหาชุมชนให้ได้มีงานและมีรายได้โดยไม่ต้องย้ายไปทำงานต่างจังหวัด โดยอ้างอิงจากแนวคิดที่ว่า ถ้ามีงานมีเงินในบ้าน คงไม่มีใครอยากออกนอกบ้าน ตนจึงได้เริ่มทำการสำรวจ สภาพสังคมและทักษะความเชี่ยวชาญของคนในท้องถิ่น
ทั้งนี้ พบว่าโดยมากนั้น ทำอาชีพการเกษตรเป็นหลัก มีทักษะในการเพาะปลูก และพืชที่ปลูก เกือบจะทุกครัวเรือนนั้น คือ ใบหม่อน ใบมะกรูด และตะไคร้ ตนจึงทำการสนับสนุนให้คนในท้องถิ่นปลูกใบหม่อน ใบมะกรูด และตะไคร้ แบบปลอดสารพิษส่งขายให้กับทางร้านกิ่งหยก เพื่อเป็นวัตถุดิบในการนำมาแปลรูปเป็นชาสมุนไพร โดยมีการจ้างคนในท้องถิ่นมาเป็นแรงงานในการผลิตและนำออกไปทำการจำหน่ายออกตลาดตามงานต่างๆ แบรนด์ “กิ่งหยก“ จึง Start up ธุรกิจชาสมุนไพรขึ้นในที่สุด
สำหรับชาสมุนไพรกิ่งหยกเป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาจากการวิเคราะห์ ในเรื่องของวัตถุดิบ เช่น ใบหม่อน ใบมะกรูด และตะไคร้ ซึ่งเป็นพืชที่ปลูกมากในท้องถิ่น เนื่องจากปลูกง่าย ระยะการเก็บเกี่ยวไม่นาน และเป็นพืชที่ชาวบ้านคุ้นเคยในการปลูกเป็นอย่างดี โดยมีการแปรรูปพืชสมุนไพรให้เหมาะกับการใช้ชีวิตของคนสมัยใหม่ ที่ต้องการใช้สรรพคุณของสมุนไพรในการบำบัดรักษาโรคต่างๆ เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่รักสุขภาพและมีวิถีชีวิตที่เร่งรีบแต่ต้องการสุขภาพที่ดี โดยการใช้ธรรมชาติบำบัด
เป็นผลิตภัณฑ์ที่ปลอดสาร ปลอดภัยและมีประโยชน์ที่ผู้บริโภคและผู้ผลิต เป็นผลิตภัณฑ์ที่ เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ตอบโจทย์ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพและผู้ที่ไม่มีปัญหาสุขภาพสามารถดื่มได้โดยไม่กังวลต่อผลข้างเคียง เป็นการสร้างงานสร้างรายได้ ทั้งในเรื่องการรับซื้อวัตถุดิบจากคนในท้องถิ่น และยังช่วยให้คนในท้องถิ่นได้มีงานทำโดยไม่ต้องไปทำงานต่างถิ่น โดยในอนาคตหากมีการยอดขายและกำไรเพิ่มขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง จะมีการจ้างแรงงานคนมากขึ้น รวมถึงการสนับสนุนการปลูกวัตถุดิบให้กว้างขวางเพิ่มขึ้น ในการรับซื้อวัตถุดิบ จะรับจาก ภายใน ตำบลบรบือก่อน หากเหลือจากนั้นจะรับจาก ตำบลอื่นๆ และ อำเภออื่นๆในจังหวัดมหาสารคาม
-สร้างโรงงานรองรับการขยายตลาด
ธาริณี บอกต่อไปว่า การทำตลาดของแบรนด์ กิ่งหยก จะมุ่งเน้นการออกงานแสดงสินค้าโอท็อป รวมถึงมีวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและร้านค้าทั่วไปในจังหวัดมหาสารคาม และจังหวัดใกล้เคียงไม่ว่าจะเป็นขอนแก่น ,ร้อยเอ็ด ,กาฬสินธุ์ และนครพนม เป็นต้น อีกทั้งยังมีจำหน่ายบนช่องทางออนไลน์ผ่านช็อปปี้ (Shopee) และลาซาด้า (Lazada) และเพจของแบรนด์ที่ชื่อ สมุนไพรกิ่งหยก
อย่างไรก็ดี ขณะนี้แบรนด์กำลังดำเนินการลงทุนก่อสร้างโรงงานเพื่อขยายกำลังการผลิต และให้ได้มาตรฐานตามที่สำนักงานอาหารและยา (อย.) ระบุ เพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ได้รับการรับรองจาก อย. ซึ่งจะสอดคล้องกับกลยุทธ์ในการขยายตลาด เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าไปทั่วประเทศ โดยการรับรองจาก อย.ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ และสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค
หลังจากที่โรงงานก่อสร้างแล้วเสร็จ ซึ่งคาดว่าจะประมาณเดือนตุลาคมของปีนี้ แบรนด์จะเพิ่มช่องทางการจำหน่ายไปสู่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น (7-11eleven) ,ห้างสรรพสินค้า ,บิ๊กซี และโลตัส โดยปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษารายละเอียดทางการร่วมทำธุรกิจอยู่ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับกำลังการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น
นอกจากนี้ ในส่วนของโรงงานแบรนด์ยังมีแผนที่จะทำให้เป็นศูนย์ให้บริการแบบครบวงจร โดยที่ผู้บริโภค หรือผู้ประกอบการสามารถเดินทางเข้ามาเยี่ยมชมวิธีการผลิต พร้อมกับมีคาเฟ่เกี่ยวกับชาประเภทต่างๆ ที่นำผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ไปประยุกต์ พร้อมร้านอาหารไว้คอยให้บริการ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นการส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์ให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี โดยแบรนด์มองว่าที่ตั้งของโรงงานที่อำเภอบอรบือ เป็นทางผ่านของนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปยังพระธาตุนาดูน ซึ่งถือเป็นโอกาสของแบรนด์ที่จะสร้างตลาดดังกล่าว
-สร้างยอดขาย 4 แสนบาทต่อดือน
ธาริณี บอกอีกว่า แบรนด์ยังมีการจำหน่ายสมุนไพรอบแห้งประเภทต่างๆ เพิ่มเติมด้วย โดยกลยุทธ์ในการทำตลาดหลังจากที่โรงงานก่อสร้างแล้วเสร็จคาดว่าจะทำให้แบรนด์มีกำไรจากการจำหน่ายประมาณ 2 แสนบาทต่อเดือน หรือยอดขายประมาณ 4 แสนบาทต่อเดือน ด้านจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ชาสุมนไพรจะอยู่ที่เรื่องของสรรพคุณซึ่งจะไม่ได้ช่วยแค่ทางด้านผ่อนคลาย แต่ยังสามารถช่วยบำบัดอาการของไมเกรน ลดอาหารปวดหัว รวมถึงความดัน และลดน้ำตาลในกระแสเลือดสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีรสชาติที่หอมอร่อยกลมกล่อม ชาสมุนไพรกิ่งหยกมีการผสมและปรุงโดยสูตรเฉพาะทำให้ได้รสชาติที่ดีดื่มง่าย ไม่มีกลิ่นฉุน เหม็นเขียวหรือขมเฝื่อน ปัจจุบันชาสมุนไพรกิ่งหยก ทั้งหมด 3 รสชาติ เพื่อตอบสนอง กลุ่มผู้บริโภคที่ชอบรสชาติและกลิ่นที่หลากหลายและแตกต่างกันมี
1.รสใบหม่อนผสมใบมะกรูด จะมีกลิ่นหอมของน้ำมันอโรม่า เทอราพีจากใบมะกรูด และรสชาตินุ่มกลมกล่อมจากใบหม่อน ช่วยให้ชุ่มคอ ขับเสมหะ ลดความเครียด ลดอาการปวดหัวไมเกรน แก้ท้องผูก ลดคอเลสเตอรอล ลดน้ำตาล ลดไขมันในกระแสเลือด เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นหวัดบ่อย หรือเจ็บคอมีเสมหะ ดื่มง่ายดื่มได้ตลอดวันเพราะไม่มีคาเฟอีน
2.รสใบหม่อนผสมตะไคร้ จะมีกลิ่นหอมของน้ำมันอโรม่า เทอราพีจากตะไคร้ และรสชาตินุ่มกลมกล่อมจากใบหม่อน ช่วยขับปัสสาวะลดอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ อาการอักเสบต่างๆ ช่วยฆ่าเชื้อ ลดความเครียด ลดอาการปวดหัวไมเกรน แก้ท้องผูก ลดคอเลสเตอรอล ลดน้ำตาล ลดไขมันในกระแสเลือด ขับลมในกระเพราะและลำไส้ เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคกระเพาะ เรอเปรี๊ยวและอาการจุกเสียดในระบบทาเดินอาหาร ดื่มง่ายดื่มได้ตลอดวันเพราะไม่มีคาเฟอีน
และ
3.รสใบหม่อนผสมกระเจี๊ยบและหญ้าหวาน จะมีกลิ่นหอมของกระเจี๊ยบ รสชาตินุ่มกลมกล่อมจากใบหม่อน เปรี้ยวอมหวานจากกระเจี๊ยบและหญ้าหวานช่วยให้ชุ่มคอ ขับเสมหะ ลดความเครียด ลดอาการปวดหัวไมเกรน แก้ท้องผูก ลดคอเลสเตอรอล ลดน้ำตาล ลดไขมันในกระแสเลือด เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นที่ชอบชาสกุลเบอร์รี่และชาผลไม้ต่างๆ ดื่มง่ายดื่มได้ตลอดวันเพราะไม่มีคาเฟอีน.