พิโค เทคโนโลยีฯ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบเตือนภัยตัวจริง
ความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะบุคคลถือว่าเป็นต้นทุนทางธุรกิจที่ล้ำค่า ซึ่งจะสามารถต่อยอดแผ่ขยายให้ออกมาเป็นธุรกิจที่ยั่งยืนได้ หากเลือกสร้างธุรกิจที่ตอบโจทย์กับความต้องการของตลาดได้อย่างตรงจุด และเหมาะเจาะกับช่วงเวลา
“ประพิน แสงเงิน” คือชายหนุ่มที่ปรับประยุกต์ใช้ความรู้ความสามารถของตนเองให้กลายเป็นธุรกิจ ด้วยสายตาที่มองเห็นช่องทางในการทำตลาด ซึ่งยังมีพื้นที่อยู่เป็นจำนวนมากให้ได้เข้าไปครอบครอง เพื่อสร้างรายได้และขยับขยายธุรกิจให้ครอบคลุมมากขึ้น
จากองค์ความรู้สู่ธุรกิจ
ประพิน ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัท พิโค เทคโนโลยี เวิลด์ จำกัด บอกว่า ธุรกิจของบริษัทเป็นรูปแบบของระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายในโรงงงานอุตสาหกรรม และอาคารอัตโนมัติ โดยมีจุดเริ่มต้นของไอเดียในการสร้างธุรกิจครั้งนี้มาจากการที่ตนเคยทำงานทางด้านดังกล่าวมาก่อนกับบริษัทแห่งหนึ่งในการวางระบบให้กับรถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) ซึ่งจากจุดดังกล่าวทำให้มองเห็นว่าในช่วงปี 2535-2536 วิศวกรในประเทศไทยที่รู้เรื่องระบบดังกล่าวเหล่านี้มีน้อยมาก
ทั้งนี้ จากประสบการณ์ในการทำงานของตน ประกอบกับมองเห็นช่องว่างในการทำตลาด ตนจึงเลือกหยิบจับความรู้ความเชี่ยวชาญที่มีมาต่อยอดให้กลายเป็นธุรกิจ และเปิดบริษัท พิโคฯ ขึ้นมาเพื่อให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2543
สำหรับจุดเด่นในการให้บริการของบริษัทนั้น อยู่ที่การดำเนินการในรูปแบบของการปรับปรุงระบบ โดยอาศัยการที่บริษัทมีผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในมือที่พร้อมจะเข้าไปปรับปรุงระบบให้สามารถทำงานได้จริง เนื่องจากลูกค้าที่ติดตั้งระบบส่วนใหญ่จะไม่รู้ และเข้าใจว่าการทำงานของระบบแจ้งเตือนเป็นอย่างไร สุดท้ายก็ปล่อยให้ระบบเสีย เพราะมีคนที่รู้และเข้าใจระบบจริงๆอยู่ไม่มากในประเทศไทย
นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นเรื่องของคุณภาพในการให้บริการ พร้อมทั้งการให้ข้อมูลที่แท้จริงกับลูกค้าในเรื่องของระบบการทำงานของอุปกรณ์ เนื่องจากเมื่อก่อนระบบดังกล่าวเหล่านี้นอกจากวิศวกรแล้ว ลูกค้าจะไม่รู้ข้อมูลเลย แต่บริษัทได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการ โดยจะให้ข้อมูลกับลูกค้าทั้งหมด
เพิ่มกลยุทธ์ดันรายได้สู่ 100 ล.
ประพิน บอกต่อไปอีกว่า กลยุทธ์การทำตลาดของบริษัทในระยะถัดไปนั้น จะดำเนินการในรูปแบบของการเพิ่มผลิตภัณฑ์ให้เกิดความหลากหลาย โดยการนำระบบเสียงเข้ามาให้บริการเพิ่มเติม เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า พร้อมทั้งเพิ่มจำนวนของบุคคลากรทางด้านฝ่ายขาย หรือเซลล์ เนื่องจากในปัจจุบันบริษัทมีฝ่ายขายอยู่เพียง 3 คนเท่านั้น ทำให้ไม่สามารถตั้งเป้าหมายยอดขายของบริษัทในระดับที่สูงขึ้นได้ โดยอยู่ในระดับที่ทรงตัวมาแล้วเป็นเวลานาน เพราะฉะนั้นบริษัทจึงต้องการเพิ่มในส่วนตรงนี้
“ต้องยอมรับว่าธุรกิจดังกล่าวหาบุคลากรได้ยากมาก เพราะเป็นธุรกิจที่ค่อนข้างเฉพาะ หากบริษัทสามารถเพิ่มบุคลากร และเพิ่มผลิตภัณฑ์ได้ก็จะทำให้ตั้งเป้าหมายทางด้านรายได้ให้เติบโตมากขึ้นได้ เพราะที่ผ่านมารายได้ของบริษัทค่อนข้างที่จะทรงตัวจากข้อจำกัดดังกล่าว”
จากการดำเนินกลยุทธ์ดังกล่าวเชื่อว่าจะทำให้รายได้ของบริษัทเติบโตขึ้นไปได้ถึงหลัก 100 ล้านบาท จากเดิมที่บริษัทจะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 60-70 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่ทรงตัวมาโดยตลอดรวมถึงในปี 61 นี้ด้วย ซึ่งเป็นไปตามกำลังของบุคคลากร และผลิตภัณฑ์ที่บริษัทมีอยู่
ประพิน บอกต่อไปอีกว่า ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีเดเวลลอปเม้นท์แบงก์ (SME Development Bank)มีส่วนเป็นอย่างมากในการสนับสนุนธุรกิจของบริษัทให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างไม่สะดุด ผ่านเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินการแต่ละโครงการ เนื่องจากลักษณะของการทำงานจะเป็นการเข้าไปปรับปรุง ซึ่งแต่ละโครงการจะมีระยะเวลาประมาณ 3-5 เดือนในการปิดโครงการ ดังนั้น บริษัทจึงต้องมีเงินทุนหมุนเวียนเพื่อนำมาต่อยอดธุรกิจ
อย่างไรก็ดี เอสเอ็มอีเดเวลลอปเม้นท์แบงก์ ยังมีส่วนช่วยในการให้ความรู้ทางด้านการทำตลาด โดยผ่านกิจกรรมการอบรมภายใต้โครงการ Thinking ซึ่งจะเป็นการปรับเปลี่ยนวิธีคิดในการทำงาน ปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นธุรกิจแนวใหม่มาประยุกต์ใช้กับธุรกิจในปัจจุบัน เรียกว่าเป็นการเปิดโลกให้กว้างมากขึ้น
ตัวจริงเสียงจริงด้านระบบเตือนภัย
ด้านหลักคิดในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้น อยู่ที่คุณภาพในการให้บริการ โดยบริษัทมีทีมวิศวกรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการแนะนำลูกค้าเกี่ยวกับการใช้งานระบบเตือนภัย และวิธีในการแก้ปัญหา พร้อมทั้งช่วยคิดออกแบบโปรเจคเป็นโครงการ ซึ่งบริการของบริษัทจะไม่ได้มีเพียงแค่ไฟเตือนภัยเท่านั้น แต่จะมีเรื่องของระบบเสียงเตือนภัยให้ผู้ที่อยู่ในอาคาร หรือโรงงานได้อพยพด้วย
“การปรับปรุงระบบเป็นแนวทางที่บริษัทมีความชำนาญ จากประสบการณ์ในการทำงาน บริษัทรู้ว่าจะต้องวางระบบอย่างไรให้ลูกค้าได้ประโยชน์มากที่สุด ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดที่บริษัทมี ส่งผลให้บริษัทได้รับการยอมรับจากลูกค้า และนำไปสู่ผลสำเร็จของธุรกิจในที่สุด”
เบอร์ติดต่อ 081-6890273 : ประพิน แสงเงิน