Skip to content
Wed. Oct 29th, 2025
  • Facebook
  • Twitter
AEC10NEWS

AEC10NEWS

Primary Menu
  • Home
  • NEWS
    • BREAKING NEWS
    • CHINA NEWS
    • ENERGY FORCE
    • EDITOR TALK
    • MONEY MOVEMENT
    • NATIONAL
    • OPEN NEWS
    • POLITICS
    • WORLD
    • ดวงประจำวัน
  • ASEAN
    • Brunei
    • Cambodia
    • Indonesia
    • Laos
    • Malaysia
    • Myanmar
    • Philippines
    • Singapore
    • Vietnam
  • EEC
  • SPECIAL REPORT
  • BUSINESS
    • BUSINESS MOVEMENT
    • HOT MARKETS
    • PHOTO STORIES
  • HOT NEWS
  • SPECIAL REPORT

Krungthai COMPASS คาดธุรกิจเร่งลงทุนสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า 1.2 หมื่นล้าน

13/12/2023 1 min read
  • LINEแชร์เลย!
ดูแล้ว: 1,832

ปัจจุบันสถานีอัดประจุไฟฟ้าในไทยมีเครื่องอัดประจุไฟฟ้าทั้งหมด 4,628 หัวชาร์จซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้บริการในปี 2573 ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามยอดจดทะเบียนสะสมยานยนต์ไฟฟ้าแบบ BEV จึงประเมินว่าต้องเพิ่มเครื่องอัดประจุแบบ Fast Charger จำนวน  10,294 หัวชาร์จหรือ 5,147 เครื่อง

โดยแบ่งเป็นกรุงเทพมหานครและปริมณฑลราว 5,028 หัวชาร์จ หรือ 2,514 เครื่อง และภาคอื่นๆ ประมาณ 5,266 หัวชาร์จ หรือ 2,633 เครื่อง

การขยายการลงทุนเครื่องอัดประจุไฟฟ้า ตามความต้องการในปี 2573 จะก่อให้เกิดเม็ดเงินลงทุนในธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้าราว 1.2 หมื่นล้านบาท อีกทั้ง ยังเพิ่มรายได้รวมของธุรกิจดังกล่าวให้เป็น 1.1 หมื่นล้านบาท ในปี 2573 จากปี 2565 ที่อยู่ราว 230 ล้านบาท หากสัดส่วนของผู้ใช้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าอยู่ราว 40% ของยานยนต์ไฟฟ้าแบบ BEV ของไทยทั้งหมด

แนวโน้มการลงทุนดังกล่าวจะสามารถสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการในห่วงโซ่อุปทานของสถานีอัดประจุไฟฟ้าราว 1.34 หมื่นล้านบาท โดยธุรกิจที่ได้รับอานิสงส์มากที่สุด คือ ธุรกิจจัดจำหน่ายและติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าจะได้รับอานิสงส์ในส่วนนี้ราว 8.55 พันล้านบาท

หลายประเทศทั่วโลกมีเป้าหมายที่จะบรรลุเป้าหมาย Net Zero Emission เพื่อรักษาอุณหภูมิของโลกให้สูงขึ้นไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส ภายในปี 2593 จึงจำเป็นต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างน้อย 45% เมื่อเทียบกับปี 2553 ซึ่งหนึ่งนแนวทางที่ช่วยให้บรรลุเป้าหมายได้ นั่นคือ การสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle : BEV)

ยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle: BEV) กำลังเข้ามาทดแทนการใช้ยานยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (Internal Combustion Engine: ICE) เพราะนอกจากการใช้ BEV ปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่า 37%-69% ซึ่งช่วยให้ประเทศและองค์กรสามารถบรรลุเป้าหมาย Net Zero Emission ได้ง่ายขึ้นแล้ว ต้นทุนการใช้งานของยานยนต์ดังกล่าวยังมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะต่ำกว่ายานยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในปี 2573 ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะกระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาใช้ยานยนต์มากขึ้นในระยะข้างหน้า โดย Goldman Sachs คาดว่ายอดขาย BEV ของทั่วโลกจะเพิ่มจาก 2 ล้านคัน ในปี 2563 เป็น 70 ล้านคัน ในปี 2583

สอดคล้องกับประเทศไทย ที่คาดว่ายอดจดทะเบียนสะสมยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังจากภาครัฐมีนโยบายสนับสนุนการใช้ยานยนต์ดังกล่าวทั้งในแง่ของการให้เงินอุดหนุนในการซื้อและลดภาษีสรรพสามิตร ทำให้มีความต้องการยานยนต์ไฟฟ้าแบบ BEV มากขึ้น นำมาซึ่งความต้องการในการใช้บริการสถานีและเครื่องอัดประจุไฟฟ้าเพิ่มขึ้นตามด้วย อย่างไรก็ดี ในปัจจุบัน ไทยยังมีสถานีและเครื่องอัดประจุไฟฟ้าไม่เพียงพอต่อความต้องการในปัจจุบัน จึงจำเป็นจะต้องเพิ่มเครื่องอัดประจุไฟฟ้า เพื่อรองรับการใช้บริการที่มีแนมโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต

บทความนี้จึงจะวิเคราะห์ถึงรายละเอียดรูปแบบของเครื่องอัดประจุไฟฟ้า จำนวนเครื่องประอัดประจุไฟฟ้าที่ควรเพิ่ม รวมถึงธุรกิจที่จะได้รับอานิสงส์จากขยายการลงทุนเครื่องอัดประจุไฟฟ้าในอนาคต

ทำความรู้จักกับเครื่องอัดประจุไฟฟ้าที่นิยมในไทย

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับเครื่องอัดประจุไฟฟ้าประเภทต่างๆ โดยปัจจุบันเครื่องอัดประจุไฟฟ้าที่นิยมใช้ในบ้าน อาคารสำนักงาน สถานีอัดประจุไฟฟ้า และโรงแรมในไทย มีอยู่ 3 รูปแบบหลัก ดังนี้

1. เครื่องอัดประจุแบบช้าด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ (Alternative Current หรือ AC Slow Charger) เป็นเครื่องอัดประจุไฟฟ้าระดับ 1 (Level 1) ซึ่งสามารถอัดประจุด้วยกำลังไฟฟ้าสูงสุด 3-6 กิโลวัตต์ จึงทำให้ระยะเวลาในการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าต่อครั้งนานราว 6-12 ชั่วโมงโดยเหมาะแก่การใช้ในบ้าน และอาคารสำนักงาน โดยราคาของรูปแบบดังกล่าวอยู่ราว 10,000บาท/หัวชาร์จ

2. เครื่องอัดประจุแบบปกติด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ (Alternative Current หรือ AC Normal Charger) เป็นเครื่องอัดประจุไฟฟ้าระดับ 2 (Level 2) ซึ่งสามารถอัดประจุด้วยกำลังไฟฟ้าสูงสุด 7-22 กิโลวัตต์ จึงทำให้ระยะเวลาในการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าต่อครั้งราว 4-7 ชั่วโมง ซึ่งเหมาะกับการใช้ในพื้นที่กึ่งสาธารณะ เช่น ลานจอดรถ ห้างสรรพสินค้า5 อย่างไรก็ตาม สามารถติดตั้งเครื่องอัดประจุแบบนี้ในที่อยู่อาศัยได้เช่นเดียวกัน โดยราคาของเทคโนโลยีดังกล่าวอยู่ราว 35,000 -70,000 บาท/หัวชาร์จ6

3. เครื่องอัดประจุแบบเร็ว (Fast Charger) ซึ่งมีอยู่ 2 รูปแบบ ได้แก่ 3.1) เครื่องอัดประจุแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC Fast Charge) และ 3.2) เครื่องอัดประจุแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ (AC Fast Charge) ซึ่งทั้งสองรูปแบบสามารถอัดประจุด้วยกำลังไฟฟ้าสูงสุด 43-150 กิโลวัตต์ได้ถึง 80% ของความจุของแบตเตอรี่5 จึงทำให้ระยะเวลาในการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าต่อครั้งไม่เกิน 1 ชั่วโมง อย่างไรก็ดี เครื่องดังกล่าวมีต้นทุนการติดตั้งที่สูงมาก เพราะเครื่องอัดประจุไฟฟ้าดังกล่าวมีราคาราว 650,000-1,360,000 บาท/เครื่อง หรือ 2 หัวชาร์จ6 นอกจากนี้ ผู้ที่ต้องการติดตั้งรูปแบบดังกล่าวยังต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าหม้อแปลงไฟฟ้า ค่าบริการติดตั้ง ค่าก่อสร้าง จึงเหมาะกับการติดตั้งในสถานที่ที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมากและเร่งด่วน เช่น สถานีอัดประจุไฟฟ้า

ปัจจุบัน ประเทศไทยมีสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 1,482 สถานี ซึ่งมีเครื่องอัดประจุไฟฟ้าทั้งหมด 4,628 หัวชาร์จ (ข้อมูล ณ 22 พ.ค.2566) โดยแบ่งเป็นเครื่องอัดประจุแบบ AC Normal Charge (AC) ทั้งหมด 2,833 หัวชาร์จ และส่วนที่เหลืออีก 1,795 หัวชาร์จเป็นเครื่องอัดประจุแบบเร็ว (Fast Charger) โดยสถานีเหล่านั้นกระจุกตัวอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและภาคตะวันออกเป็นหลัก ซึ่งคิดสัดส่วนราว 41% และ 24% ของจำนวนสถานีทั้งหมด ตามลำดับ

อย่างไรดี สถานีและเครื่องอัดประจุไฟฟ้ายังคงไม่เพียงพอที่จะรองรับความต้องการใช้บริการของยานยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดในอนาคต จึงจำเป็นต้องเพิ่มเครื่องอัดประจุไฟฟ้า โดยเฉพาะแบบ Fast Charger ซึ่งเป็นรูปแบบที่ภาครัฐส่งเสริมให้ติดตั้งและตอบโจทย์พฤติกรรมการอัดประจุไฟฟ้าของผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าของไทย โดยรายละเอียดจะวิเคราะห์ในหัวข้อถัดไป

ปัจจุบันสถานีและเครื่องอัดประจุไฟฟ้าเพียงพอต่อความต้องการของไทยหรือไม่?

ก่อนที่จะวิเคราะห์ว่าไทยมีสถานีและเครื่องอัดประจุไฟฟ้าเพียงพอต่อความต้องการหรือไม่ เราได้วิเคราะห์ถึงแนวโน้มยอดจดทะเบียนสะสมของยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle: BEV) ของไทย โดยประเมินว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 1.01 แสนคันในปี 2566 เป็น 1.29 ล้านคันในปี 2573 ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของ BMI Research ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของ Fitch Group Company โดยมีปัจจัยหนุน ดังนี้

1. ภาครัฐมีแนวโน้มที่จะออกนโยบายสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าแบบ BEV ทั้งในแง่ของการให้เงินอุดหนุนในการซื้อยานยนต์ไฟฟ้าและลดภาษีสรรพสามิตรของยานยนต์ไฟฟ้าในช่วงปี 2567-70 ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ต้นทุนยานยนต์ไฟฟ้าในไทยลดลง จึงมีแนวโน้มที่จะกระตุ้นให้เกิดความต้องการในการซื้อยานยนต์ไฟฟ้าแบบ BEV ในช่วงเวลาดังกล่าว

2. ต้นทุนการใช้งาน (Cost of Ownership) ของยานยนต์ไฟฟ้าแบบ BEVมีแนวโน้มลดลง ตามต้นทุนดังกล่าวโดยเฉลี่ยของอาเซียนที่สถาบันวิจัยเศรษฐกิจแห่งอาเซียน หรือ Economic Research Institute for ASEAN and East Asia (ERIA) คาดว่าจะลดลงจาก 144,500 บาท/ปี ในปี 2563 จนเหลือเพียง 99,580 บาท/ปี ในปี 2573 ซึ่งต่ำกว่ายานยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในที่จะอยู่ราว 109,000 บาท/ปี เนื่องจากต้นทุนแบตเตอรี่ของยานยนต์ไฟฟ้ามีแนวโน้มลดลง ซึ่งเป็นผลจากความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี และต้นทุนการผลิตที่จะลดลง ตามปริมาณการผลิต จึงมีแนวโน้มที่จะดึงดูดให้ผู้บริโภคหันมาใช้ยานยนต์ดังกล่าวมากขึ้นในอนาคต

Krungthai COMPASS ประเมินว่า ในปัจจุบัน ภูมิภาคของประเทศไทยส่วนใหญ่มีสถานีและเครื่องอัดประจุไฟฟ้าเพียงพอที่จะรองรับการให้บริการยานยนต์ไฟฟ้าแบบ BEV อย่างไรก็ดี ยังมีบางภูมิภาคที่ขาดสถานีและเครื่องอัดประจุไฟฟ้า ได้แก่ ภาคเหนือ และภาคใต้ โดยการประเมินอยู่ภายใต้สมมุติฐานที่ว่าผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าดังกล่าวของไทยอัดประจุไฟฟ้าทั้งหมด 10 ครั้ง/เดือน ซึ่งเป็นไปตามผลสำรวจของโครงการจ้างสำรวจและวิเคราะห์ตลาดของ EV Charger ในประเทศไทย ซึ่งจัดทำโดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

สำหรับปี 2573 คาดว่าความต้องการใช้บริการสถานีและเครื่องอัดประจุไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้น ตามยอดจดทะเบียนสะสมของยานยนต์ไฟฟ้าแบบ BEV ของไทย ซึ่งประเมินว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 1.01 แสนคันในปี 2566 เป็น 1.29 ล้านคันในปี 2573 จึงต้องเพิ่มเครื่องอัดประจุไฟฟ้าแบบ Fast Charger ราว 10,294 หัวชาร์จ หรือ 5,147 เครื่อง จากปัจจุบัน เพื่อให้บริการแก่ยานยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายของภาครัฐที่จะเพิ่มเครื่องอัดประจุไฟฟ้าดังกล่าวอีก 10,205 หัวชาร์จจากปัจจุบันภายในปี 2573 โดยต้องเพิ่มเครื่องอัดประจุไฟฟ้านี้ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลราว 5,028 หัวชาร์จ (2,514 เครื่อง) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ภาคอีสาน) ราว 1,410 หัวชาร์จ (705 เครื่อง) ภาคใต้ราว 1,076 หัวชาร์จ (538 เครื่อง) ภาคกลางราว 1,030 หัวชาร์จ (515 เครื่อง) ภาคเหนือราว 876 หัวชาร์จ (438 เครื่อง) ภาคตะวันออกราว 502 หัวชาร์จ (251 เครื่อง) และภาคตะวันตกราว 372 หัวชาร์จ (186 เครื่อง) โดยการประเมินในครั้งนี้อยู่ภายใต้สมมุติฐานที่ว่ายอดจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้าแบบ BEV ของแต่ละภูมิภาคจะเติบโต ตามสัดส่วนของยอดจดทะเบียนสะสมรถยนต์ทั้งหมดของภูมิภาคเหล่านั้น

เมื่อพิจารณาตำแหน่งที่ตั้งของเครื่องอัดประจุไฟฟ้าดังกล่าวเป็นรายจังหวัด พบว่า จังหวัดที่ควรติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้าแบบ Fast Charger เพิ่มเติมเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการใช้บริการในปี 2573 เป็นจังหวัดที่ขาดเครื่องอัดประจุไฟฟ้าในการให้บริการจำนวนมากในปีดังกล่าว เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี สงขลา ขอนแก่น และอุบลราชธานี โดยควรติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้าทุกๆ ไม่เกิน 160 กิโลเมตร เนื่องจากระยะดังกล่าวเป็นระยะในการขับขี่ที่ผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าแบบ BEV ของไทยมีแนวโน้มที่จะใช้บริการอัดประจุไฟฟ้า

นอกจากนั้น ยังรวมถึงจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวคนไทยจำนวนมาก และยังมีสถานีอัดประจุไฟฟ้าไม่มากนัก เพื่อรองรับการให้บริการยานยนต์ไฟฟ้าแบบ BEV ที่เดินทางท่องเที่ยว เช่น กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี เชียงราย และสมุทรสงคราม

หากผู้ประกอบธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้าของไทยขยายการลงทุนเครื่องอัดประจุไฟฟ้าแบบ Fast Charger ตามการประเมินในข้างต้น คาดว่าจะก่อให้เกิด

เม็ดเงินลงทุนในธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้าประมาณ 1.17 หมื่นล้านบาท อีกทั้งยังส่งผลให้รายได้รวมของธุรกิจการให้บริการอัดประจุไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจาก 230 ล้านบาท ในปี 2565 เป็น 11,100 ล้านบาท ในปี 2573 ภายใต้สมมุติฐานที่ว่าสัดส่วนของผู้ใช้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าอยู่ราว 40% ของยานยนต์ไฟฟ้าแบบ BEV ของไทยทั้งหมด ซึ่งเป็นไปตามสัดส่วนดังกล่าวของทั่วโลก ยกเว้นจีน

ในระยะข้างหน้า หากผู้ประกอบการเพิ่มเครื่องอัดประจุไฟฟ้า แบบ Fast Charger ตามการประเมินข้างต้น นอกจากจะช่วยหนุนให้ธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้าของไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดดแล้ว ยังสร้างรายได้ให้กับธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับสถานีอัดประจุไฟฟ้า เช่น ธุรกิจจัดจำหน่ายและติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้า และธุรกิจรับเหมาก่อสร้างสถานีอัดประจุไฟฟ้า ซึ่งรายละเอียดเพิ่มเติมจะวิเคราะห์ในหัวข้อถัดไป

กลุ่มธุรกิจอะไรที่ได้รับประโยชน์จากการขยายการลงทุนเครื่องอัดประจุไฟฟ้าของไทย?

ก่อนที่จะวิเคราะห์ว่าธุรกิจอะไรที่ได้รับประโยชน์จากการขยายการลงทุนเครื่องอัดประจุไฟฟ้า แบบ Fast Charger  ตามความต้องการใช้บริการของยานยนต์ไฟฟ้าแบบ BEV เราจะอธิบายเกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้า ซึ่งประกอบด้วย 4 กลุ่มหลัก ได้แก่

1. กลุ่มธุรกิจผู้รับเหมาก่อสร้างสถานีอัดประจุไฟฟ้า ซึ่งทำหน้าที่ก่อสร้างฐานคอนกรีตสำหรับรองรับโครงสร้างหลังคาและเครื่องอัดประจุไฟฟ้า พร้อมทั้งติดตั้งหลังคาให้กับสถานีอัดประจุไฟฟ้า โดยผู้ประกอบการที่มีโอกาสเข้ามาธุรกิจนี้มากที่สุด นั่นคือ ผู้ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและติดตั้งงานโครงสร้าง ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจดังกล่าวเป็นหลักจำนวน 41 ราย

2. กลุ่มธุรกิจจัดหน่ายและติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้า ซึ่งทำหน้าที่จัดจำหน่ายและติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้า พร้อมทั้ง ให้บริการเดินสายเมนใหม่ และติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ทำงานร่วมกับเครื่องดังกล่าว เช่น หม้อแปลง และ Main Distribution Board (ตู้ MDB) โดยผู้ประกอบการในกลุ่มนี้มี 2 กลุ่มหลัก ได้แก่17

2.1) กลุ่มผู้ค้าส่งเครื่องอัดประจุไฟฟ้า ซึ่งเป็น
ผู้จัดจำหน่ายเครื่องอัดประจุไฟฟ้าของแบรนด์ตัวเองให้กับผู้จัดจำหน่ายรายย่อยไปจำหน่ายและบริการติดตั้งต่อ ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด
4 ราย

2.2) กลุ่มผู้ค้าปลีกเครื่องอัดประจุไฟฟ้า ที่มักเป็นผู้จัดจำหน่ายและให้บริการติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้าและอุปกรณ์อื่นๆให้กับสถานีอัดประจุไฟฟ้า ซึ่งมีทั้งหมด 22 ราย

3. กลุ่มธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้า ซึ่งทำหน้าที่ให้บริการอัดประจุไฟฟ้ากับผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในสถานีอัดประจุไฟฟ้า ซึ่งมีผู้ประกอบการทั้งหมด 11 ราย โดย 55% ของผู้ประกอบการในกลุ่มนี้ทั้งหมด (6 ราย) ดำเนินทั้งธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้าและจัดจำหน่ายเครื่องอัดประจุไฟฟ้า17

4. กลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงและ Main Distribution Board (ตู้ MDB) ซึ่งผู้ประกอบการในกลุ่มนี้จะผลิตและจัดจำหน่ายหม้อแปลง ตู้ MDB มิเตอร์ไฟฟ้า และสายดิน ให้ผู้ค้าปลีกเครื่องอัดประจุไฟฟ้าไปติดตั้งให้กับสถานีอัดประจุไฟฟ้า โดยมีผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงทั้งหมด 67 ราย สำหรับผู้ผลิตตู้ MDB มิเตอร์ไฟฟ้า และสายดิน ส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ควบคุมจ่ายไฟฟ้า ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 77 ราย

เมื่อพิจารณาจากรายละเอียดของห่วงโซ่อุปทานของสถานีอัดประจุไฟฟ้า Krungthai COMPASS มองว่าธุรกิจที่จะได้รับประโยชน์จากขยายการลงทุนเครื่องอัดประจุไฟฟ้าแบบ Fast Charger ตามความต้องการในปี 2573 มี 3 กลุ่ม ได้แก่

กลุ่มธุรกิจจัดจำหน่ายเครื่องอัดประจุไฟฟ้าที่ได้รับอานิสงส์มากที่สุดจากการขยายสถานี และเพิ่มเครื่องอัดประจุไฟฟ้า ตามความต้องการในปี 2573 โดยคาดว่าจะสามารถเพิ่มรายได้ให้กับกลุ่มนี้ราว 8.55 พันล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็น 1) รายได้จากการจัดจำหน่ายและติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้าแบบ Fast Charger ราว 5.94 พันล้านบาท 2) รายได้จากการจัดจำหน่ายหม้อแปล Main Distribution Board (ตู้ MDB) มิเตอร์ไฟฟ้า และสายดิน ราว 2.25 พันล้านบาท 3)รายได้จากการให้บริการติดตั้งหม้อแปลง ตู้ MDB และอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ประมาณ0.36 พันล้านบาท โดยการประเมินนี้อยู่ภายใต้สมมุติฐานที่ว่าผู้ประกอบธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้าเลือกใช้เครื่องอัดประจุไฟฟ้าแบบ Fast Charger ที่มีกำลังไฟฟ้าสูงสุด 120 กิโลวัตต์

กลุ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและติดตั้งงานโครงสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มดังกล่าวรองลงมา 

ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้จากการให้บริการก่อสร้างฐานรากสำหรับรองรับโครงสร้างหลังคาและเครื่องอัดประจุไฟฟ้า พร้อมทั้งติดตั้งหลังคาให้

กับสถานีอัดประจุไฟฟ้าราว 2.57 พันล้านบาท ซึ่งอยู่ภายใต้สมมุติฐานที่ว่าผู้ประกอบธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้าจะใช้เครื่องอัดประจุไฟฟ้าแบบ Fast Charger 1 เครื่องต่อสถานี

กลุ่มธุรกิจผลิตและจำหน่ายหม้อแปลง และอุปกรณ์ควบคุมและจ่ายไฟฟ้า ที่คาดว่าจะได้รับรายได้จากการขายให้กับผู้จัดจำหน่ายเครื่องอัดประจุไฟฟ้าไปติดตั้งต่อราว 2.25 พันล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็น 1) รายได้จากการขายหม้อแปลงราว 1.14 พันล้านบาท 2) รายได้จากการขายตู้ MDB มิเตอร์ไฟฟ้า และสายดิน ประมาณ 1.11 พันล้านบาท22 โดยการประเมินในครั้งนี้อยู่ภายใต้สมมุติฐานที่ว่าแต่ละสถานีอัดประจุไฟฟ้าใช้หม้อแปลง ตู้ MDB และเครื่องอัดประจุไฟฟ้าแบบ Fast Charger อย่างละเครื่อง

กลุ่มธุรกิจที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานของสถานีอัดประจุไฟฟ้าจะได้รับอานิสงส์จากการขยายการลงทุนเครื่องอัดประจุไฟฟ้าแบบ Fast Charger ตามความต้องการใช้บริการในปี 2573 ทั้งหมดราว 13,360 ล้านบาท โดยธุรกิจที่จะได้รับประโยชน์จากการขยายการลงทุนดังกล่าวมากที่สุด นั่นคือ กลุ่มธุรกิจจัดจำหน่ายและติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าจะได้รับรายได้ในส่วนนี้ราว 8.55 พันล้านบาท

Implication:

สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจจะลงทุนธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่คาดว่าจะมีความต้องใช้บริการที่เพิ่มขึ้นในระยะข้างหน้า ควรเตรียมความพร้อมและดำเนินการ ดังนี้

1. ควรเลือกทำเลพื้นที่ในการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าในสถานีบริการน้ำมัน ห้างสรรพสินค้าอาคารสำนักงาน และคอนโดมิเนียม เนื่องจากผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าของไทยนิยมใช้บริการอัดประจุไฟฟ้าในพื้นที่ดังกล่าว ประกอบกับ ผู้อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมที่ใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามีโอกาสซื้อเครื่องอัดประจุไฟฟ้ามาใช้น้อย จึงมีแนวโน้มที่จะใช้บริการดังกล่าวในสถานีอัดประจุไฟฟ้า ซึ่งเป็นตามผลสำรวจโครงการจ้างสำรวจและวิเคราะห์ตลาดของ EV Charger ในประเทศไทย23 ซึ่งจัดทำโดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) นอกจากนั้น ควรเตรียมพื้นที่อย่างน้อย 2.4 x 5.0 เมตรต่อ 1 ช่องจอดรถ24

2. ควรเลือกติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้าที่เหมาะกับความต้องการของผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า โดยปัจจุบัน ผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าของไทยนิยมใช้ระยะเวลาในการอัดประจุไฟฟ้าไม่เกิน 1 ชั่วโมง ซึ่งเป็นไปตามผลสำรวจเช่นเดียวกับข้อที่ 1 จึงเหมาะกับการติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้าแบบ Fast Charger

3. ควรเตรียมระบบไฟฟ้าขนาดแรงดันไฟฟ้า 380-416 โวลต์ 3 เฟส และสามารถรองรับได้ไม่ต่ำกว่า 45 kVA ต่อหัวชาร์จสำหรับเครื่องอัดประจุไฟฟ้าแบบปกติด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ (Alternative Current หรือ AC Normal Charger)และไม่ต่ำกว่า 100 kVA สำหรับเครื่องอัดประจุไฟฟ้าแบบ Fast Charger24

4. ควรขอใบอนุญาตก่อสร้างหรือดัดแปลงสถานที่ให้เหมาะกับการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้ากับราชการส่วนท้องถิ่นในกรณีที่เจ้าของอาคารไม่ใช่ผู้ที่ดำเนินธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้า และสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)ในกรณีที่เจ้าอาคารดำเนินธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้า24

5. ควรขออนุญาตในการประกอบกิจการสถานีอัดประจุไฟฟ้า แต่ไม่จำเป็นต้องขอใบอนุญาตประกอบกิจการจำหน่ายไฟฟ้า ในกรณีที่สถานีอัดประจุไฟฟ้าไม่เกิน 1,000 kVA

หากภาครัฐต้องการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการลงทุนในธุรกิจบริการสถานีอัดประจุไฟฟ้ามากขึ้น ควรออกนโยบายส่งเสริมการลงทุนดังกล่าว ดังนี้

1. ควรยกเว้นภาษีนำเข้าเครื่องอัดประจุไฟฟ้าจากต่างประเทศเพิ่มเติม นอกเหนือจากมาตราการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้กับธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้า 3-5 ปี เพื่อลดต้นทุนในการลงทุนของธุรกิจดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามความต้องการของผู้ประกอบการที่ตอบแบบสอบถามของโครงการจ้างสำรวจและวิเคราะห์ตลาดของ EV Charger ในประเทศไทย ซึ่งจัดทำโดย สวทช.

2. ควรจัดตั้งหน่วยงานกลางในการติตต่อประสานเกี่ยวกับการขั้นตอนการเริ่มต้นธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้า เพื่อเพิ่มความสะดวกในการดำเนินธุรกิจดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามความต้องการของผู้ประกอบการ เช่นเดียวกับข้อที่ 125

3. ควรจัดทำข้อมูลและวิเคราะห์ความเพียงพอของเครื่องอัดประจุไฟฟ้าในแต่ละพื้นที่ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถติตตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าให้เหมาะกับความต้องการในแต่ละพื้นที่ และลดโอกาสขาดทุน ซึ่งคล้ายคลึงกับนโยบายของประเทศเยอรมนี

สำหรับผู้ประกอบการในห่วงโซ่อุปทานของสถานีอัดประจุไฟฟ้าอื่นๆ นอกเหนือจากธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้า ควรหาพันธมิตรที่ดำเนินธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน และมีความพร้อมในการดำเนินการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า เพื่อร่วมกันลงทุนในธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้า ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะช่วยเพิ่มรายได้จากขายสินค้าและให้บริการของธุรกิจเดิมแก่ผู้ร่วมลงทุน เช่น บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายหม้อแปลง จับมือกับ บมจ. ยูเอซี โกลบอล ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายเครื่องอัดประจุไฟฟ้าแบรนด์ COSTEL ของเกาหลีใต้ เพื่อขยายธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้าในสถานีบริการน้ำมันของพันธมิตรทางธุรกิจ โดยแนวทางการลงทุนนี้ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับบมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ ราว 2.49 ล้านบาท ใน 9 เดือนแรกของปี 2566 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคต หลังมีเป้าหมายที่จะสร้างสถานีอัดประจุไฟฟ้าให้ได้ 50 สถานี จากปัจจุบันที่มีอยู่ 2 สถานี

60

SHARES
Share on Facebook
Post on X
Follow us
  • LINEแชร์เลย!
Tags: Krungthai Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย รถยนต์ไฟฟ้า สถานีชาร์จ EV

Continue Reading

Previous: ‘สารัชถ์ รัตนาวะดี’ แชมป์เศรษฐีหุ้นปี 2566 รวย 1.9 แสนล้านบาท
Next: รู้จัก “ไอซ์ รักชนก” จากคนล้มยักษ์ ก่อนโดนคุกคดี 112

ข่าวอื่นๆ ที่น่าอ่าน

571211559_1238349468324779_5649886042527609326_n กองทัพไทย โชว์ภาพถอนอาวุธหนัก ตามถ้อยแถลงสันติภาพ 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

กองทัพไทย โชว์ภาพถอนอาวุธหนัก ตามถ้อยแถลงสันติภาพ

28/10/2025
ราคาทองคำ ราคาทองคำวันนี้ (28 ต.ค. 68) เปลี่ยนแปลงทั้งหมด 49 ครั้ง ราคาทองปรับลง 2,650 1 min read
  • HOT NEWS
  • NEWS FOCUS

ราคาทองคำวันนี้ (28 ต.ค. 68) เปลี่ยนแปลงทั้งหมด 49 ครั้ง ราคาทองปรับลง 2,650

28/10/2025
“รมต.สันติ ปิยะทัต” ลุยแถลงจับบุหรี่ไฟฟ้าล็อตใหญ่ มูลค่ากว่า 15 ล้าน “รมต.สันติ ปิยะทัต” ลุยแถลงจับบุหรี่ไฟฟ้าล็อตใหญ่ มูลค่ากว่า 15 ล้าน 1 min read
  • HOT NEWS
  • POLITICS

“รมต.สันติ ปิยะทัต” ลุยแถลงจับบุหรี่ไฟฟ้าล็อตใหญ่ มูลค่ากว่า 15 ล้าน

28/10/2025
20251028100954_8208 “อนุทิน” ถก “ฮุน มาเนต” แก้ปัญหาตึงเครียดไทย-กัมพูชา 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

“อนุทิน” ถก “ฮุน มาเนต” แก้ปัญหาตึงเครียดไทย-กัมพูชา

28/10/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.50 – 32.75 บาท/ดอลลาร์ 1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.50 – 32.75 บาท/ดอลลาร์

28/10/2025
สรุปสถานการณ์น้ำ สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 28 ต.ค. 68 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 28 ต.ค. 68

28/10/2025
สรุปข่าวประจำวันที่ 28 ตุลาคม 2568 สรุปข่าวประจำวันที่ 28 ตุลาคม 2568 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS

สรุปข่าวประจำวันที่ 28 ตุลาคม 2568

28/10/2025
ดวงประจำวัน ดวงประจำวันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ.2568 1 min read
  • ดวงประจำวัน
  • HOT NEWS

ดวงประจำวันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ.2568

28/10/2025
ราคาทอง ราคาทองคำวันนี้ (27 ต.ค. 68) เปลี่ยนแปลงทั้งหมด 21 ครั้ง ราคาทองปรับลง 1,150 1 min read
  • NEWS FOCUS
  • HOT NEWS

ราคาทองคำวันนี้ (27 ต.ค. 68) เปลี่ยนแปลงทั้งหมด 21 ครั้ง ราคาทองปรับลง 1,150

27/10/2025
เจาะเส้นทาง “ทองคำ” โลหะล้ำค่าแห่งโลกเทคโนโลยี เจาะเส้นทาง “ทองคำ” โลหะล้ำค่าแห่งโลกเทคโนโลยี 1 min read
  • SPECIAL REPORT
  • HOT NEWS

เจาะเส้นทาง “ทองคำ” โลหะล้ำค่าแห่งโลกเทคโนโลยี

27/10/2025
กระทรวงมหาดไทย-728x430-1 มหาดไทย แจ้งทุกจังหวัด ไม่ได้ห้ามหรือระงับกิจกรรมใดเป็นการเฉพาะ 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

มหาดไทย แจ้งทุกจังหวัด ไม่ได้ห้ามหรือระงับกิจกรรมใดเป็นการเฉพาะ

27/10/2025
พล.อ.ประยุทธ์-จันทร์โอชา-1024x683 “สวนดุสิตโพล” เผย ยุค ‘ลุงตู่’ยืน 1 ‘คนละครึ่ง’ถูกใจคนไทย 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

“สวนดุสิตโพล” เผย ยุค ‘ลุงตู่’ยืน 1 ‘คนละครึ่ง’ถูกใจคนไทย

27/10/2025

China News

รถไฟความเร็วสูงของจีน วิ่งทดสอบความเร็ว 453 กม./ชม. รถไฟความเร็วสูงของจีน วิ่งทดสอบความเร็ว 453 กม./ชม. 1 min read
  • CHINA NEWS
  • HOT NEWS

รถไฟความเร็วสูงของจีน วิ่งทดสอบความเร็ว 453 กม./ชม.

21/10/2025
LINEแชร์เลย! รถไฟหัวกระสุนที่เร็วที่สุดในโลก CR450 เริ่มการทดลองใช้งานก่อนเปิดให้บริการบนเส้นทางรถไฟความเร็วสูงของจีน โดยสามารถทำความเร็วได้สูงสุดต่อขบวนถึง 453 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หนังสือพิมพ์ไซแอนซ์แอนด์เทคโนโลยีเดลี (Science... อ่านต่อ

Start Up

ธพว. เคียงข้าง ‘เสียงเกษมโซล่าเซลล์’ พาถึงแหล่งทุน หนุนกิจการเติบโต 457C5A49-7DCB-4EA0-ACF5-B856D1843534 1 min read
  • HOT NEWS
  • START UP

ธพว. เคียงข้าง ‘เสียงเกษมโซล่าเซลล์’ พาถึงแหล่งทุน หนุนกิจการเติบโต

01/09/2022
LINEแชร์เลย! “ขอบคุณ ธพว. ที่สนับสนุน “เสียงเกษมโซล่าเซลล์” พาเข้าถึงแหล่งเงินทุน เสริมสภาพคล่องกิจการ ควบคู่กับการให้คำปรึกษา แนะนำธุรกิจ... อ่านต่อ

Money Movement

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.50 – 32.75 บาท/ดอลลาร์ ธนาคารไทยพาณิชย์
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.50 – 32.75 บาท/ดอลลาร์

28/10/2025
CIMB ชี้ 3 เทรนด์ประกันชีวิตมาแรงปีหน้า CIMB ชี้ 3 เทรนด์ประกันชีวิตมาแรงปีหน้า
1 min read
  • MONEY MOVEMENT

CIMB ชี้ 3 เทรนด์ประกันชีวิตมาแรงปีหน้า

27/10/2025
CHEWA ออกหุ้นกู้ใหม่ ดอกเบี้ยคงที่ 7.25% ต่อปี เปิดจอง 4–6 พ.ย. 68 CHEWA ออกหุ้นกู้ใหม่ ดอกเบี้ย 7.25% เปิดจอง 4–6 พ.ย. 68
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • BUSINESS MOVEMENT

CHEWA ออกหุ้นกู้ใหม่ ดอกเบี้ยคงที่ 7.25% ต่อปี เปิดจอง 4–6 พ.ย. 68

27/10/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.50 – 32.75 บาท/ดอลลาร์ ธนาคารไทยพาณิชย์
1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • HOT NEWS

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.50 – 32.75 บาท/ดอลลาร์

27/10/2025
SCBX จับมือ สกมช. เสริมแกร่งความมั่นคงไซเบอร์ไทย SCBX จับมือ สกมช. เสริมแกร่งความมั่นคงไซเบอร์ไทย
1 min read
  • MONEY MOVEMENT

SCBX จับมือ สกมช. เสริมแกร่งความมั่นคงไซเบอร์ไทย

24/10/2025
ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.50 – 32.75 บาท/ดอลลาร์

CIMB ชี้ 3 เทรนด์ประกันชีวิตมาแรงปีหน้า

CIMB ชี้ 3 เทรนด์ประกันชีวิตมาแรงปีหน้า

CHEWA ออกหุ้นกู้ใหม่ ดอกเบี้ย 7.25% เปิดจอง 4–6 พ.ย. 68

CHEWA ออกหุ้นกู้ใหม่ ดอกเบี้ยคงที่ 7.25% ต่อปี เปิดจอง 4–6 พ.ย. 68

ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้ 32.50 – 32.75 บาท/ดอลลาร์

SCBX จับมือ สกมช. เสริมแกร่งความมั่นคงไซเบอร์ไทย

SCBX จับมือ สกมช. เสริมแกร่งความมั่นคงไซเบอร์ไทย

Energy Force

“อรรถพล” เดินหน้าลดราคาดีเซล 50 สตางค์ – เบนซิน 30 สตางค์ต่อลิตร "อรรถพล" เดินหน้าลดราคาดีเซล 50 สตางค์ - เบนซิล 30 สตางค์ต่อลิตร 1 min read
  • ENERGY FORCE
  • HOT NEWS

“อรรถพล” เดินหน้าลดราคาดีเซล 50 สตางค์ – เบนซิน 30 สตางค์ต่อลิตร

20/10/2025
LINEแชร์เลย! “อรรถพล” เดินหน้านโยบาย Quick Big Win “ทำจริง-เห็นผลจริง” สั่งลดราคาดีเซลลง 50... อ่านต่อ

Politics

571211559_1238349468324779_5649886042527609326_n กองทัพไทย โชว์ภาพถอนอาวุธหนัก ตามถ้อยแถลงสันติภาพ 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

กองทัพไทย โชว์ภาพถอนอาวุธหนัก ตามถ้อยแถลงสันติภาพ

28/10/2025
“รมต.สันติ ปิยะทัต” ลุยแถลงจับบุหรี่ไฟฟ้าล็อตใหญ่ มูลค่ากว่า 15 ล้าน “รมต.สันติ ปิยะทัต” ลุยแถลงจับบุหรี่ไฟฟ้าล็อตใหญ่ มูลค่ากว่า 15 ล้าน 1 min read
  • HOT NEWS
  • POLITICS

“รมต.สันติ ปิยะทัต” ลุยแถลงจับบุหรี่ไฟฟ้าล็อตใหญ่ มูลค่ากว่า 15 ล้าน

28/10/2025
20251028100954_8208 “อนุทิน” ถก “ฮุน มาเนต” แก้ปัญหาตึงเครียดไทย-กัมพูชา 1 min read
  • POLITICS
  • HOT NEWS

“อนุทิน” ถก “ฮุน มาเนต” แก้ปัญหาตึงเครียดไทย-กัมพูชา

28/10/2025

ประเด็นข่าว

EXIM BANK KBANK scb SME D Bank กรมชลประทาน กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กรุงไทย กสิกรไทย กอนช. ข่าวเด่น ข่าวดัง คปภ. ครม. ค่าเงินบาท ดวงประจำวัน ตลาดหุ้น ธ.ก.ส. ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ธอส. นายฉัตรชัย ศิริไล นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ บก.ชวนคุย บางจาก ปตท. ประเมินค่าเงินบาท พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐบาล ราคาทองคำ ราคาน้ำมัน สถานการณ์น้ำ สรุปข่าวประจำวัน สรุปสถานการณ์น้ำ สิงคโปร์ อาจารย์มงคล รอดเที่ยงธรรม เศรษฐกิจไทย เศรษฐา ทวีสิน แพทองธาร ชินวัตร โควิด-19 ไทยพาณิชย์

Business Movement

CHEWA ออกหุ้นกู้ใหม่ ดอกเบี้ย 7.25% เปิดจอง 4–6 พ.ย. 68 CHEWA ออกหุ้นกู้ใหม่ ดอกเบี้ยคงที่ 7.25% ต่อปี เปิดจอง 4–6 พ.ย. 68 1 min read
  • MONEY MOVEMENT
  • BUSINESS MOVEMENT

CHEWA ออกหุ้นกู้ใหม่ ดอกเบี้ยคงที่ 7.25% ต่อปี เปิดจอง 4–6 พ.ย. 68

27/10/2025
คปภ. ลงพื้นที่กระบี่ ดันประกันภัยเชิงรุก “กิน เดิน เที่ยวท่อง ล่องใต้อย่างยั่งยืน" คปภ. ลงพื้นที่กระบี่ ดันประกันภัยเชิงรุก “กิน เดิน เที่ยวท่อง ล่องใต้อย่างยั่งยืน” 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

คปภ. ลงพื้นที่กระบี่ ดันประกันภัยเชิงรุก “กิน เดิน เที่ยวท่อง ล่องใต้อย่างยั่งยืน”

24/10/2025
ออมสิน จัดใหญ่ “GSB SAVINGS FORUM 2025" โปรโมทวันออมแห่งชาติ ออมสิน จัดใหญ่ “GSB SAVINGS FORUM 2025″ โปรโมทวันออมแห่งชาติ 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

ออมสิน จัดใหญ่ “GSB SAVINGS FORUM 2025″ โปรโมทวันออมแห่งชาติ

22/10/2025
KBTG ติดท็อป 3 โลกองค์กรที่ใช้ Data และ AI สร้างผลกระทบเชิงบวก KBTG ติดท็อป 3 โลกองค์กรที่ใช้ Data และ AI สร้างผลกระทบเชิงบวก 1 min read
  • BUSINESS MOVEMENT

KBTG ติดท็อป 3 โลกองค์กรที่ใช้ Data และ AI สร้างผลกระทบเชิงบวก

22/10/2025

Recommend

ครม. เห็นชอบประกาศสำนักนายกฯ สมเด็จพระพันปีหลวง สวรรคต ครม. เห็นชอบประกาศสำนักนายกฯ สมเด็จพระพันปีหลวง สวรรคต 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

ครม. เห็นชอบประกาศสำนักนายกฯ สมเด็จพระพันปีหลวง สวรรคต

25/10/2025
คนไทยลงทะเบียนคนละครึ่งครบ 20 ล้านสิทธิแล้ว คนไทยลงทะเบียนคนละครึ่งครบ 20 ล้านสิทธิแล้ว 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

คนไทยลงทะเบียนคนละครึ่งครบ 20 ล้านสิทธิแล้ว

20/10/2025
รัฐบาลจุดพลุ “คนละครึ่ง” เริ่ม 20ต.ค.นี้วันแรก รัฐบาลจุดพลุ “คนละครึ่ง” เริ่ม 20 ต.ค.นี้วันแรก 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

รัฐบาลจุดพลุ “คนละครึ่ง” เริ่ม 20 ต.ค.นี้วันแรก

19/10/2025
เริ่มพรุ่งนี้ 20 ต.ค. ลงทะเบียนคนละครึ่งพลัส รัฐเตือนอย่าหลงกดลิงก์ปลอม เริ่มพรุ่งนี้ 20 ต.ค. ลงทะเบียน “คนละครึ่งพลัส” รัฐเตือนอย่าหลงกดลิงก์ปลอม 1 min read
  • NATIONAL
  • HOT NEWS
  • RECOMMEND

เริ่มพรุ่งนี้ 20 ต.ค. ลงทะเบียน “คนละครึ่งพลัส” รัฐเตือนอย่าหลงกดลิงก์ปลอม

19/10/2025

Photo Stories

เมืองไทยประกันชีวิต เมืองไทยประกันชีวิต-มูลนิธิเมืองไทยยิ้ม มอบผ้าห่ม-กล่อง Pink Box ช่วยกลุ่มเปราะบาง 1 min read
  • PHOTO STORIES

เมืองไทยประกันชีวิต-มูลนิธิเมืองไทยยิ้ม มอบผ้าห่ม-กล่อง Pink Box ช่วยกลุ่มเปราะบาง

28/10/2025
ทิพยประกันภัย ร่วมวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.5 ทิพยประกันภัย ร่วมวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.5 1 min read
  • PHOTO STORIES

ทิพยประกันภัย ร่วมวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.5

27/10/2025
ไทยประกันชีวิต-แอทเลติโก้ คัดนักฟุตบอลชายหญิงรับทุนรวม 8.6 แสน ไทยประกันชีวิต-แอทเลติโก้ คัดนักฟุตบอลชายหญิง รับทุนรวม 8.6 แสนบาท 1 min read
  • PHOTO STORIES

ไทยประกันชีวิต-แอทเลติโก้ คัดนักฟุตบอลชายหญิง รับทุนรวม 8.6 แสนบาท

27/10/2025
BAM มอบบ้านให้กับผู้ด้อยโอกาสจังหวัดชุมพร BAM มอบบ้านให้กับผู้ด้อยโอกาส จังหวัดชุมพร 1 min read
  • PHOTO STORIES

BAM มอบบ้านให้กับผู้ด้อยโอกาส จังหวัดชุมพร

27/10/2025
VEX Robotics บุกภาคเหนือ! เปิดศักราชใหม่แห่งการเรียนรู้ Coding & AI ALL Robotics VEX Robotics บุกภาคเหนือ! เปิดศักราชใหม่แห่งการเรียนรู้ Coding & AI ALL Robotics 1 min read
  • PHOTO STORIES

VEX Robotics บุกภาคเหนือ! เปิดศักราชใหม่แห่งการเรียนรู้ Coding & AI ALL Robotics

22/10/2025
IMG_3579 EXIM BANK ต้อนรับดีบีเอส แบงค์ ลิมิเต็ด ฉลองความสำเร็จเงินกู้ร่วมดอลลาร์สหรัฐ 1 min read
  • PHOTO STORIES

EXIM BANK ต้อนรับดีบีเอส แบงค์ ลิมิเต็ด ฉลองความสำเร็จเงินกู้ร่วมดอลลาร์สหรัฐ

21/10/2025
กรมสรรพสามิต คว้ารางวัลองค์กรต้นแบบจัดทำบัญชีข้อมูลภาครัฐ ปี 2568 กรมสรรพสามิต คว้ารางวัลองค์กรต้นแบบจัดทำบัญชีข้อมูลภาครัฐ ปี 2568 1 min read
  • PHOTO STORIES

กรมสรรพสามิต คว้ารางวัลองค์กรต้นแบบจัดทำบัญชีข้อมูลภาครัฐ ปี 2568

20/10/2025
ไทยพาณิชย์คว้า 4 รางวัลใหญ่ระดับสากลด้าน AI ไทยพาณิชย์คว้า 4 รางวัลใหญ่ระดับสากลด้าน AI 1 min read
  • PHOTO STORIES

ไทยพาณิชย์คว้า 4 รางวัลใหญ่ระดับสากลด้าน AI

20/10/2025
CEO SAM คว้ารางวัลบุคคลตัวอย่าง ภาคธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ จาก มสวท. CEO SAM คว้ารางวัลบุคคลตัวอย่าง ภาคธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ จาก มสวท. 1 min read
  • PHOTO STORIES

CEO SAM คว้ารางวัลบุคคลตัวอย่าง ภาคธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ จาก มสวท.

20/10/2025
"เอกนิติ" ลงพื้นที่ปทุมธานี ติดตามสถานการณ์น้ำ มอบถุงยังชีพผู้ประสบภัย “เอกนิติ” ลงพื้นที่ปทุมธานี ติดตามสถานการณ์น้ำ มอบถุงยังชีพผู้ประสบภัย 1 min read
  • PHOTO STORIES

“เอกนิติ” ลงพื้นที่ปทุมธานี ติดตามสถานการณ์น้ำ มอบถุงยังชีพผู้ประสบภัย

18/10/2025
ธอส. เปิดการแข่งขัน G H BANK เทควันโดชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2568 ธอส. เปิดการแข่งขัน G H BANK เทควันโดชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2568 1 min read
  • PHOTO STORIES

ธอส. เปิดการแข่งขัน G H BANK เทควันโดชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2568

18/10/2025
ทีม SUT.LIDARS คว้าถ้วยพระราชทาน THE CubeSat Quest 2025 ทีม SUT.LIDARS คว้าถ้วยพระราชทาน THE CubeSat Quest 2025 1 min read
  • PHOTO STORIES

ทีม SUT.LIDARS คว้าถ้วยพระราชทาน THE CubeSat Quest 2025

17/10/2025
ธอส. รับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปี 68 ธอส. รับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปี 68 1 min read
  • PHOTO STORIES

ธอส. รับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปี 68

17/10/2025
คปภ. ร่วม ก.ล.ต.-ธปท. มอบประกาศนียบัตร Finfluencer รุ่น 2 คปภ. ร่วม ก.ล.ต.-ธปท. มอบประกาศนียบัตร Finfluencer รุ่น 2 1 min read
  • PHOTO STORIES

คปภ. ร่วม ก.ล.ต.-ธปท. มอบประกาศนียบัตร Finfluencer รุ่น 2

17/10/2025
BAM มอบอุปกรณ์การแพทย์ ให้แก่โรงพยาบาลกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ BAM มอบอุปกรณ์การแพทย์ ให้แก่โรงพยาบาลกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 1 min read
  • PHOTO STORIES

BAM มอบอุปกรณ์การแพทย์ ให้แก่โรงพยาบาลกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

15/10/2025

บก.ชวนคุย

บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568 บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568 1 min read
  • HOT NEWS
  • EDITOR TALK

บก.ชวนคุย วันที่ 25 ก.พ.2568

25/02/2025
LINEแชร์เลย! บก.ชวนคุย เรื่องที่ 4,391 แอพเงินกู้แหล่งทุนยุคเศรษฐกิจดิจิทัล  ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และความท้าทายทางการงาน การเงิน คนไทยมากกว่า... อ่านต่อ

ติดต่อเรา

สนใจร่วมงานกับเรา Aec10news.com คลิ๊กติดต่อเรา รับซื้อ..รายงาน สกู๊ป บทความ รายได้สูง !!!

  • Facebook
  • Twitter
สงวนลิขสิทธิ์ © 2560 เว็บไซต์ AEC10NEWS.COM