พลังประชารัฐ กระชับอำนาจรื้อ กก.บห.พรรค เสริมทัพ – เปลี่ยนม้ากลางศึก

การประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2562 ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในวันที่ 21 ธันวาคม 2562 โรงแรมมิราเคิลแกรนด์คอนเวนชั่น มีวาระเพื่อปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) พรรค เกิดเป็นแรงกระเพื่อม ฝุ่นตลบภายในพรรคมุ้งต่าง ๆ ภายในพรรคสบช่องเสนอชื่อหัวหน้าพรรค-เลขาธิการพรรคคนใหม่ แทนนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แกนนำกลุ่มสี่กุมาร
ชื่อที่ถูกโยนหินถามทางคั่วเก้าอี้เลขาธิการพรรค อาทิ แกนนำกลุ่มสามมิตร-นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาทและรองประธานยุทธศาสตร์พรรค และแคนดิเดต ติดทุกโผ อย่างนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ-แกนนำกลุ่มอดีตแกนนำกปปส. ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
โดยมีก๊กของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี-ประธานยุทธศาสตร์พรรคเป็นม้ามืด
การปรับโครงสร้าง กก.บห.พรรค และเสริมทัพด้วยแกนนำ-ตัวแทนของส.ส.ประจำภูมิภาคต่าง ๆ รวมถึงเปิดอัตราใหม่ในตำแหน่ง กก.บห.พรรค เพื่อดึงคีย์แมนจากต่างพรรคทยอยมาร่วมทัพ อาทิ นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตหัวหน้าพรรคประชาชาปฏิรูป
สำหรับกก.บห.พรรคพลังประชารัฐชุดปัจจุบัน มีจำนวน 23 คน ประกอบด้วย 1.นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค 2.นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค 3.นายพรชัย ตระกูลวรานนท์ เหรัญญิกพรรค 4.นายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนสมาชิกพรรค 5.นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ 6.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ 7.นายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล 8.นายองอาจ ปัญญาชาติรักษ์ 9.นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล 10.นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์
11.น.ส.ธนิกานต์ พรพงษาโรจน์ 12.นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 13.นายอนุชา นาคาศัย 14.นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ 15.นายพงษ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ 16.นายณพพงษ์ ธีระวร 17.นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ 18.นายอิทธิพล คุณปลื้ม 19.นางวลัยพร รัตนเศรษฐ 20.นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ 21.นายชาญวิทย์ วิภูศิริ 22.นายชวน ชูจันทร์ และ 23.นายสันติ กีระนันท์
อย่างไรก็ดีข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐกำหนดจำนวน กก.บห.พรรคชุดใหม่ต้องไม่น้อยกว่า 8 คน แต่ไม่เกิน 45 คน ประกอบด้วย 1.หัวหน้าพรรค 2.เลขาธิการพรรค 3.เหรัญญิกพรรค 4.นายทะเบียนสมาชิก 5.กรรมการบริหารพรรคการเมืองอื่น
ในวันประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2562 จะเป็นการ “ลงคะแนนลับ” ตามลำดับพิธีการดังนี้ 1.ให้ที่ประชุมใหญ่กำหนดจำนวนของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง 2.ให้ที่ประชุมใหญ่เลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองจนครบจำนวนตามกำหนดไว้ (8 คนขึ้นไป แต่ไม่เกิน 45 คน) ซึ่งในการเสนอชื่อผู้เข้ารับการเลือกตั้งเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองแต่ละตำแหน่งต้องมีผู้เข้าร่วมประชุมรับรองไม่น้อยกว่า 10 คน และผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อต้องอยู่ในที่ประชุม
โดยให้คณะกรรมการบริหารชุดใหม่แต่งตั้งคณะผู้บริหารพรรคการเมืองไม่เกิน 7 คน ประกอบด้วย หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรค
กรรมการบริหารพรรคการเมืองมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี นับแต่วันที่ได้รับจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมือง หรือ นับแต่วันที่ที่ประชุมใหญ่พรรคการเมืองเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองชุดใหม่
ข้อยกเว้น ประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรจะเป็นกรรมการบริหารพรรคมิได้ ทั้งนี้ นายสุชาติ ตันเจริญ แกนนำกลุ่มบ้านริมน้ำ ซึ่งขณะนี้ดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ไม่สามารถเป็นกรรมการบริหารพรรคได้
สำหรับองค์ประชุมของที่ประชุมใหญ่พรรคการเมืองรวมกันทั้งหมดไม่น้อยกว่า 250 คน ประกอบด้วย 1.กรรมการบริหารพรรคไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด 2.ผู้แทนของสาขาพรรคการเมืองไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสาขาพรรคการเมือง ซึ่งจำนวนนี้จะต้องประกอบด้วยผู้แทนของสาขาพรรคการเมืองไม่น้อยกว่าสองสาขาซึ่งมาจากต่างภาคกัน 3.ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด และ 4.สมาชิกพรรคการเมือง
การลงมติให้ถือเสียงข้างมากของที่ประชุม ในกรณีที่มีเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกพรรคพลังประชารัฐกล่าวว่า หลังปีใหม่สถานการณ์ทางการเมืองอาจจะมีความเข้มข้นขึ้น รวมทั้งจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลด้วย จึงต้องเตรียมความพร้อมไว้ทุกด้าน รวมไปถึงนโยบายต่างๆ ที่พรรคได้ดำเนินการผ่านรัฐบาลนั้น ก็จะมีการนำมาติดตามเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน
พลังประชารัฐกำชับขุมกำลัง-เสริมทัพรับศึกการเมืองร้อนศักราชใหม่