ชี้ชะตา “ธนาธร” คดีปล่อยกู้-ยุบพรรคอนาคตใหม่
11 ธันวาคม 2562 จะเป็นวันที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาสำนวนของคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนกรณี “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ปล่อยกู้ให้กับพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 191 ล้านบาท
ตามคำร้องของ “ศรีสุวรรณ จรรยา” เลขาธิการองค์กรพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ในข้อกล่าวหาตามความผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 66 วรรคสองหรือไม่เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไป
“บุคคลใดจะบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมืองมีมูลค่าเกินสิบล้านบาทต่อพรรคการเมืองต่อปีมิได้…” มาตรา 66 วรรคหนึ่ง พ.ร.ป.พรรคการเมืองบัญญัติไว้
“พรรคการเมืองจะรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดซึ่งมีมูลค่าเกินวรรคหนึ่งมิได้” มาตรา 66 วรรคสอง พ.ร.ป.พรรคการเมืองระบุข้อห้ามไว้
นำไปสู่การ “ชี้ชะตา” นายธนาธรและพรรคอนาคตใหม่ เพราะความเห็น “จรุงวิทย์ ภุมมา” เลขาธิการกกต. ในฐานะนายทะเบียน ระบุข้อกฎหมาย-ข้อเท็จจริงในสำนวนการกระทำความผิดกรณี “นิติกรรมอำพราง” มีโทษทางอาญา-ยุบพรรค
เป็นดาบสอง ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยว่า นายธนาธร “ขาดคุณสมบัติ” การเป็น ส.ส.จากกรณี “ถือหุ้นสื่อ” – บริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด
ส่งผลให้นายธนาธร “หลุด” จากการเป็น ส.ส. “ตัดบท” การทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร แม้กระทั่งการทำหน้าที่กรรมาธิการงบประมาณรายจ่ายประจำปี 63 เนื่องจากนายธนารขอลาออกจากกรรมาธิการงบประมาณฯ
โดยให้เหตุผลว่า “เขาคนนั้น” ไม่ต้องการเห็นนายธนาธรทำหน้าที่ในสภา
นายธนาธรจึงเหลือเพียงหมวก “หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่” และ “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี” ทว่าหากกกต.มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญกรณีพรรคอนาคตใหม่ “กู้เงิน” นายธนาธรและศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย “ยุบพรรค”
นายธนาธรจะ “สิ้นสภาพ” จากตำแหน่งหัวหน้าพรรค รวมถึงบัญชีนายกรัฐมนตรีจากพรรคการเมืองไปโดยอัตโนมัติ และ 11 ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค ที่มีตำแหน่งเป็นกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) จะถูก “ตัดสิทธ์” ทางการเมือง 5 ปี
“พรรคการเมืองใดรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดมีมูลค่าเกินที่กำหนดไว้ในมาตรา 66 วรรคสอง ต้องระหว่างโทษปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีกำหนดห้าปี…”พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 125 บัญญัติไว้
11 ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ ล้วนแล้วแต่เป็น “คีย์แมน. ของพรรค ได้แก่ 1.นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค 2.น.ส.กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ 3.นายชำนาญ จันทร์เรือง 4.น.ส.พรรณิการ์ วานิช 5.นายไกลก้อง ไวทยการ
6.นายนิรามาน สุไลมาน (ลาออก) 7.นายสุรชัย ศรีสารคาม 8.นายเจนวิทย์ ไกรสินธุ์ 9.นางจารุวรรณ ศรัณย์เกตุ 10.น.ส.เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ 11. พล.ท.พงศกร รอดชมภู
นับจากวันที่ 11 ธันวาคม 2562 ไปอีกไม่เกิน 7 วัน “คดียุบพรรค” อาจจะถึงศาลรัฐธรรมนูญ หลังจากศาลรับคำร้องจากกกต. อาจใช้เวลาในการไต่สวนอีก 7-15 วัน
และอาจจะเรียกพยาน-หลักฐานเพิ่มเติม หรือเปิดการไต่สวน และนัดวันอ่านคำวินิจฉัยได้เร็วกว่าที่คิด-ไม่เกินการคาดหมาย
ท่ามกลางการ “ปั่นกระแส” ของนายธนาธร-แกนนำพรรคอนาคตใหม่ถึง “ธง” ทางการเมืองของ “ผู้มีอำนาจ” และ “ใบสั่ง” เรียกยอดไลก์-ยอดแชร์-คอมเมนต์ในโลกโซเชียลมีเดีย-แฟนคลับ “ฟ้ารักพ่อ” เร่งเร้าให้อุณหภูมิการเมืองให้ร้อนระอุ
เป็นแรงบวกกับการเดินเกม-ปิดเกมเร็วของนายธนาธร ทั้งในเรื่องการหั่นงบประมาณปี 2563 ของกองทัพและการ “ยกเลิกเกณฑ์ทหาร” เจาะเกราะ “กล่องดวงใจ” ของนายทหาร-นายพล
จึงไม่แปลกใจที่ “ปิยบุตร” เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ จะกล่าวถึง “หนังม้วนเก่า” ที่ “ผู้มีอำนาจ” กำลังจะ “ฉายซ้ำ” ว่า “อาจมีตอนจบไม่เหมือนเดิม” เหมือนการยุบพรรคไทยรักไทย-พลังประชาชน
การเมืองท้องถนนกำลังจะกลับมา (อีกครั้ง)