สรุปข่าวประจำวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568
สรุปข่าวประจำวัน ตัดไฟ 5 จุดเมียนมา : นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กดตัดกระแสไฟฟ้า 5 จุดในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
สรุปข่าวประจำวัน
1) จุดซื้อชายไฟฟ้าบริเวณริมฝั่งแม่น้ำแม่สาย เขตแดนประเทศไทยฝั่งประเทศไทย อำเภอแม่สาย เชียงราย ถึงเมืองท่าขี้เหล็ก รัฐอาน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา 2) จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณบ้านเหมืองแดง อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ประเทศไทย ถึงเมืองท่าขี้เหล็กรัฐฉาน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา 3) จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณบ้านหัวยม่วง อำเภอแม่สอด ตาก ประเทศไทย ถึงเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยงสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา 4) จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 อำเภอแม่สอด ตาก ประเทศไทย ถึงเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา 5) จุดซื้อขายไฟฟ้าบริเวณพรมแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ อำเภอสังขละบุรี กาญจนบุรี
หุ้น ตปท.-ไทย :
ปิดตลาด (5 ก.พ. ) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 44,873.28 จุด เพิ่มขึ้น 317.24 จุด (0.71%) แนสแด็ก ปิดที่ 21,658.16 จุด เพิ่มขึ้น 91.25 จุด (0.42%) แอสแอนด์พี ปิดที่ 6,061.48 จุด เพิ่มขึ้น 23.60 จุด (0.39%) ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย ปิดตลาดที่ 1,286.74 จุด ลดลง 14.28 จุด (1.10%) มูลค่า 42,297.68 ล้านบาท
น้ำมัน :
PTT Station ปรับราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ทุกชนิด และพรีเมี่ยม GSH95 ลดลง 0.40 บาทต่อลิตร เว้น E85 ลดลง 0.50 บาทต่อลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลคงเดิม มีผล 6 ก.พ. 2568 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป โดยราคาขายปลีกจะเป็น ดังนี้ ULG = 43.64, GSH95 = 35.35, E20 = 33.14, GSH91 = 34.98, E85 = 32.09, พรีเมี่ยม GSH95 = 43.94, HSD = 32.94, พรีเมี่ยมดีเซล = 44.94 บาทต่อลิตร โดยราคาขายปลีกข้างต้น ยังไม่รวมภาษีบำรุงกรุงเทพมหานคร
6 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 05.00 น. บางจากฯ ลดราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ทุกชนิด -40 สต. ยกเว้น E85 -50 สต. สำหรับ Hi Premium 97 และกลุ่มดีเซลทุกชนิดราคาคงเดิม BCP Retail Price: GSH95S EVO 35.35/ GSH91S EVO 34.98/ GSH E20S EVO 33.14/ GSH E85S EVO 32.09 Hi Premium 97 (GSH95++) 49.84 / Hi Diesel S 32.94/ Hi Premium Diesel S 47.14 (ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องที่กทม.)
ทองคำขึ้น 400 บาท :
ราคาทองคำเมื่อวันที่ (5 ก.พ.) มีประกาศของสมาคมค้าทองคำ ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 45,400.00 บาท ขายออกบาทละ 45,500.00 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 44,191.40 บาท ขายออกบาทละ 46,000.00 ราคาทองคำขึ้น 400 บาท เมื่อเทียบกับวันที่ 4 ก.พ.
เงินบาททรงตัว :
สำหรับค่าเงินบาทเทียบเงินสกุลโลก วานนี้ (5 ก.พ.) โดยธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารพาณิชย์ โดยให้เงินบาทมีค่า 33.8337 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ 42.3353 บาทต่อ 1 ปอนด์, 35.1891 บาทต่อ 1 ยูโร, 22.1502 ต่อ 100 เยน, 4.3591 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ฮ่องกง ,กำหนดค่าเงินบาทที่ 25.1332 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ และ 7.7236 ต่อ 1 ริงกิตมาเลเซีย
กรมศุลฯ โชว์ผลจับสินค้าเถื่อน :
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง โดยกรมศุลกากร ได้ขานรับนโยบายและข้อสั่งการของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ให้เพิ่มมาตรการสกัดกั้นการลักลอบนำเข้า-ส่งออก สินค้าผิดกฎหมายที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และความปลอดภัยของประชาชน รวมถึงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลให้ในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (ต.ค. 67-ม.ค. 68) กรมศุลกากร สามารถจับกุมสินค้าผิดกฎหมาย มีมูลค่ากว่า 780 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 25% โดยสินค้าผิดกฎหมายที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ คือ ยาเสพติด
ยางพาราแปรรูปปีนี้หดตัว :
SCB EIC คาดว่ารายได้อุตสาหกรรมยางพาราแปรรูปในปี 2025 มีแนวโน้มหดตัว โดยมีปัจจัยลบจากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มเติบโตชะลอลง และปริมาณผลผลิตยางพาราโลกที่มีแนวโน้มฟื้นตัว กดดันให้ราคายางพาราปรับตัวลดลง โดยมูลค่าการส่งออกยางพาราไทยในปี 2025 มีแนวโน้มหดตัว 8.8%YOY มาอยู่ที่ 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยราคาส่งออกยางพาราโดยเฉลี่ยจะลดลง 6.7%YOY เนื่องจากภาวะขาดดุลในตลาดยางพาราโลกมีแนวโน้มคลี่คลาย จากความต้องการใช้ยางพาราโลกที่จะเติบโตชะลอลง ตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และปริมาณผลผลิตยางพาราโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวดี จากปัญหาภัยแล้งที่คลี่คลายและโรคระบาดในพืชที่ลดลง
พปชร.ค้านกาสิโน :
พรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวประกาศจุดยืนคัดค้านและต่อต้านร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. … นายชัยมงคล ไชยรบ รองหัวหน้าพรรค และ สส.สกลนคร กล่าวว่า การเปิดบ่อนกาสิโนในประเทศจะทำให้ปัญหาการติดการพนันทวีความรุนแรงขึ้น รวมถึงสร้างผลกระทบต่อครอบครัว เช่น การใช้ความรุนแรงในบ้าน การหย่าร้าง และความล้มเหลวทางการเงิน นอกจากนี้ การมีบ่อนกาสิโนจะเปลี่ยนค่านิยมในสังคม ส่งเสริมวัฒนธรรมการพนัน และทำให้คนไทยเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพจิต
การเมืองไทย ไม่พ้นบ้านใหญ่ : การเลือกตั้งนายก อบจ.เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ทำให้เห็นว่า การเมืองไทย ยังไม่พ้นระบบบ้านใหญ่ การเมืองแบบอุปถัมภ์ เพราะผู้ชนะส่วนใหญ่ มาจากคนของบ้านใหญ่ แม้จะลงในนามอิสระหรือในนามพรรคการเมือง ก็ตาม
ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า แสดงความเห็นว่า การเมืองแบบบ้านใหญ่ ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการต่อสู้เพื่อบ้านใหญ่ ต่อสู้เพื่อตนเอง เพื่อให้บ้านใหญ่มีอำนาจ มีโอกาสแสวงหาอำนาจ แสวงหาค่าเช่าทางเศรษฐกิจการเมือง รักษาอำนาจความเป็นบ้านใหญ่ต่อไป มากกว่าการต่อสู้เพื่อประชาชน พัฒนาคุณภาพการเมือง หรือประชาธิปไตย ไม่มีทางที่การเมืองแบบบ้านใหญ่จะเกิดจิตสำนึกเปลี่ยนแปลงแบบก้าวหน้าได้ด้วยตนเอง ตราบใดที่พวกเขายังได้ประโยชน์จากโครงสร้างอำนาจแบบนี้
ด้าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้ช่วยหาเสียงของพรรคเพื่อไทย เห็นแย้งว่า คนจำนวนมากที่ถูกมองเป็นบ้านใหญ่ เป็นพวกใจใหญ่ ชีวิตล้มลุกคลุกคลานถลอกปอกเปิกมาจนตั้งตัวได้ เป็นคนกล้าให้กล้าเสียเปรียบ กว่าจะยืนเป็นเบอร์ต้นๆในแต่ละพื้นที่ ไม่รู้ต้องให้คนเสียเปรียบคนมาเท่าไหร่ ถ้ามีในกระเป๋า 2,000 จะกล้าเลี้ยงเพื่อน 20,000 อยู่กับคนไม่เคยเอาไม้บรรทัดวัด แต่เอาหัวใจวัด คนพวกนี้หลายพื้นที่พอลงการเมืองชาวบ้านก็เลือก จะมีอะไรตอบแทนกันบ้างหรือเปล่าไม่ทราบ แต่ถ้าถามชาวบ้าน เขาจะตอบว่าเลือกเพราะคบได้ ผมคิดว่าถ้าจะทำการเมืองอย่างเป็นจริง ยึดโยงกับท้องถิ่น ยึดกุมประชาชน ไม่น่าใช่การกำหนดบ้านใหญ่เป็นศัตรูแบบเหมารวม แต่ต้องเรียนรู้และเข้าใจวิถีเหล่านี้
ท่านผู้อ่าน มีความเห็นเกี่ยวกับบ้านใหญ่อย่างไร ก็แสดงความเห็นเข้ามาได้นะครับ
ส.อ.ท. ประชุมร่วม กกร. :
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ระบุว่า สหรัฐฯ ประกาศจะขึ้นอัตราภาษีนำเข้าต่อกลุ่มประเทศเป้าหมาย ทั้งต่อเม็กซิโกและแคนาดาในอัตรา 25% และจีนในอัตรา 10% ซึ่งจะส่งผลลบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในปี 2568
โดยจะยิ่งส่งผลกระทบมากขึ้นในปี 2569 อีกทั้งยังผลักดันนโยบายเร่งด่วนผ่านการใช้คำสั่งของฝ่ายบริหาร (Executive Order) รวมถึงนโยบายที่เคยหาเสียงไว้ ครอบคลุมทั้งประเด็นการค้าที่ไม่เป็นธรรม การจัดการคนเข้าเมือง และการถอนตัวจากข้อตกลงปารีส เป็นต้น
ความขัดแย้งทางการค้ากดดันสินค้าจากต่างชาติเข้ามาแย่งตลาดและกระทบต่อภาคการผลิตของไทย สินค้าต่างประเทศที่ล้นตลาดจากปัญหาสงครามการค้าและการแยกขั้ว (De-coupling) ทะลักเข้ามาในประเทศ ส่งผลกระทบต่อการผลิตและการจ้างงาน
Nissan อาจล้มดีลควบรวม Honda :
สื่อญี่ปุ่นรายงาน บิ๊กดีลควบรวมกิจการระหว่าง Honda-Nissan ‘อาจล่ม’ คาดนิสสันไม่ยอมรับข้อเสนอที่ต้องกลายเป็น ‘บริษัทลูก’ ของฮอนด้า บอร์ดทั้งสองบริษัทเตรียมประชุมแยกเคาะข้อสรุปภายในเดือนก.พ. นี้
ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติเยือนมาเลเซีย :
มาเลเซียมียอดนักท่องเที่ยวต่างชาติขาเข้าในปี 2567 เพียง 25 ล้านคน ซึ่งต่ำกว่าเป้าที่กระทรวงการท่องเที่ยว ศิลปะ และวัฒนธรรมของมาเลเซียตั้งไว้ที่ 27.3 ล้านคน เตียง คิง ซิง รัฐมนตรีประจำกระทรวงฯ กล่าวว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติขาเข้าทั้งหมดมีจำนวนอยู่ที่ 25,016,698 คน ซึ่งแม้จะพลาดเป้า แต่ก็เพิ่มขึ้น 24.2% เมื่อเทียบกับ 20,141,846 คนในปี 2566 นักท่องเที่ยวที่เดินทางมามาเลเซียมากที่สุดในปี 2567 ได้แก่ สิงคโปร์ โดยมีผู้มาเยือน 9.1 ล้านคน รองลงมาคืออินโดนีเซียที่ 3.65 ล้านคน จีน 3.29 ล้านคน ไทย 1.64 ล้านคน และบรูไน 1.14 ล้านคน
“โตโยต้า” เตรียมสร้างโรงงาน “เลกซัส” แห่งใหม่ :
บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ (Toyota Motor Corp.) ประกาศในวานนี้ (5 ก.พ.) ว่า จะสร้างโรงงานเลกซัส (Lexus) แห่งใหม่ในเซี่ยงไฮ้ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในด้านการพัฒนาและการผลิตในตลาดจีน โรงงานดังกล่าวมีกำหนดเริ่มดำเนินการในปี 2570 หรือช้ากว่านั้น โดยจะมุ่งเน้นไปที่การผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และแบตเตอรี่รถยนต์
WGC คาดแบงก์ชาติทั่วโลกแห่ซื้อทองคำ :
สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยว่า ความต้องการทองคำของธนาคารกลางต่าง ๆ ทั่วโลกยังไม่มีทีท่าว่าจะแผ่วลงในปีนี้ ซึ่ง WGC เผยแพร่รายงานแนวโน้มอุปสงค์ทองคำในวานนี้ (5 ก.พ.) โดยระบุว่า “ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจยังคงอยู่ในระดับสูงในปี 2568 และดูเหมือนว่าธนาคารกลางต่าง ๆ มีแนวโน้มที่จะใช้ทองคำเป็นสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ที่ปลอดภัยเช่นเคย” ซึ่งอุปสงค์ทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากธนาคารกลางต่าง ๆ ยังคงเร่งซื้อทองคำในอัตราที่สูงจนน่าตกใจ
GDP อินโดฯ ปี 67 โต :
สำนักงานสถิติอินโดนีเซียเปิดเผยว่า GDP ของประเทศเติบโต 5.03% ในปี 2567 ซึ่งใกล้เคียงกับปีก่อนและเป็นไปตามการคาดการณ์ แต่นับเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 เศรษฐกิจของประเทศที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนแห่งนี้เติบโตอยู่ที่ประมาณ 5% ซึ่งแม้จะถือว่าดี แต่ก็ยังห่างไกลจากเป้าหมาย 8% ที่ปราโบโว ซูเบียนโต ประธานาธิบดีคนใหม่ตั้งไว้ โดยในปี 2566 เศรษฐกิจอินโดนีเซียเติบโต 5.05%
ชาวเน็ตสงสัย :
กลายเป็นประเด็นที่ถูกจับตามองอย่างมาก หลังจากที่ มดดำ คชาภา เปิดประเด็นดารายืมของแล้วยังไม่คืน ล่าสุดชาวเน็ตได้ตั้งข้อสงสัย หลังได้เข้าไปดูในโซเชียลของ มดดำ กับ ดิว อริสรา พบว่า ทั้งคู่ไม่ได้ฟอลโลว์อินสตาแกรมกัน โดยชาวเน็ตมองว่า มดดำ กับ ดิว อริสรา ก็เคยร่วมงานกัน เคยเห็น ดิว ไปเป็นแขกรับเชิญในรายการที่มดดำเป็นพิธีกร แต่ทำไมทั้งคู่ถึงไม่ได้ติดตามกันในไอจี งานนี้ก็ไม่รู้ว่าเพิ่งอันฟอลโลว์ หรือไม่ได้ฟอลโลว์กันตั้งแต่แรก คงต้องรอให้ทั้งคู่ออกมาชี้แจงอีกที
ครูเต้ย แซว ขนม ศศิกานต์ :
แม้จะเลิกกันไปแล้ว แต่ ครูเต้ย อภิวัฒน์ กับ ขนม ศศิกานต์ ยังคงทำหน้าที่เป็นพ่อและแม่ของลูก ล่าสุด แม่ขนม ศศิกานต์ ได้โพสต์ภาพสวยแซ่บ พร้อมเขียนแคปชั่นว่า “กุมภาแล้วจะกุมมือยัง” ด้าน ครูเต้ย ก็ได้เข้ามาคอมเมนต์อดีตภรรยาสาวคนสวยว่า “งุ้ยยยย น่ากิน” งานนี้ทำเอากองเชียร์ต่างเชียร์กันยกใหญ่ เพราะอยากให้ทั้ง 2 คนกลับมาคืนดีกัน แต่ก็มีหลายคนที่บอกว่าเหมือนครูเต้ยจะเหงาอีกแล้ว อาทิ เหงาหลายบาดทีนี่, มาแน๋วใดอีกครู แล้วอีหลายคอมเมนต์
เก็บชัยชนะ :
“เล็ก” ชนาธิป ซ้อนขำ และคู่หู ธีร์กวิน เจียรธีรวิทย์ คู่นักกีฬาเคิร์ลลิ่งไทย ช่วยกันเก็บชัยชนะในการลงสนามแมตช์ที่ 3 เหนือมองโกเลีย ทำให้แข่ง 3 นัด ชนะ 2 แพ้ 1 ยังมีลุ้นได้เพลย์ออฟส์ เพื่อเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศ เคิร์ลลิ่ง ประเภทคู่ผสม เอเชียนเกมส์ฤดูหนาว 2025
ผ่านเข้ารอบรอง :
การแข่งขันขี่ม้าโปโล รายการ “แอมบาสเดอร์คัพ 2025” ระหว่างวันที่ 1-8 ก.พ. 68 ที่สนามวีเอส สปอร์ต คลับ ซึ่งเป็นแมตช์ที่ 2 ของฤดูกาลนี้ เพื่อเป็นการเตรียมทีมนักกีฬาสำหรับการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 โดย คิง เพาเวอร์ พ่าย บรูไน โปโล 9.5-13 คะแนน แต่ยังกอดคอกันเข้ารอบรองชนะเลิศไปได้
ผนึกกำลังคว้าชัย :
“ทิพย์” อรวรรณ และ “หญิง” สุธาสินี ช่วยกันระเบิดฟอร์มเก่งโค่น ซู เฉิงซู่ กับ อึ๊ง วิง หลาม คู่มือ 9 ของโลก จากฮ่องกง 3-2 เกม ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ หญิงคู่ ปิงปองสิงคโปร์ สแมช 2025
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : กรมศุลฯ โชว์จับสินค้าเถื่อน